เซิ่งอันหรานวางสายโทรศัพท์และเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีหน้านิ่งสงบของเธอ เวลานี้กลับบูดบึ้ง
“นี่คือสิ่งที่นายบอกว่ากู้อันกลับถึงห้องพักอย่างปลอดภัยแล้วงั้นเหรอ?”
ฉินซั่วหยวนนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร
เขามีชีวิตราบรื่นไร้อุปสรรคขวากหนามมาตั้งแต่เล็กจนโต แม้เมื่อเรียนมหาวิทยาลัยก็พึ่งพาความสามารถอันโดดเด่นและเส้นสายที่กว้างขวางเข้ามา ตำแหน่งที่นั่งประธานชมรมโต้วาทีคนปัจจุบันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
เขาคิดเสมอว่าคนเราใช้ความทุ่มเทเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตตนเองได้ จนไม่คาดคิดถึงเรื่องหัวปั่นอย่างเช่นในวันนี้เวลานี้
เซิ่งอันหรานไม่นึกแปลกใจที่เห็นความพ่ายแพ้ฉายออกมาจากแววตาเขา เธอโบกโทรศัพท์ในมือไปมา
“การสนทนาทั้งหมดฉันบันทึกไว้หมดแล้ว รอแค่ให้เดนสังคมพวกนั้นถูกจับ ไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ เพื่อนร่วมชั้นสกุลเจียงคนนั้นของนายจะไม่เพียงแค่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ยังเสี่ยงติดคุกด้วย”
เธอหยุดชะงัก
“พูดให้ถูกต้อง ถ้ากู้อันยอมให้ซักถาม เธอคนนี้คงได้อยู่ในคุกไปแล้ว สำหรับความผิดในวันนี้ฉันจะทำให้เธอสำนึกผิดไปตลอดชีวิต”
นิ้วเรียวกระชับพวงมาลัยแน่นขึ้น ความแน่วแน่ในแววตาเธอทำให้ลำคอของฉินซั่วหยวนราวกับมีหนามทิ่มแทงอยู่ เขาไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดอะไร ขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็สั่นขึ้น
เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ผู้โทรเข้าแววตาเขาก็ซึมลงทันที
“สือหมินเกิดอะไรขึ้น?”
ปลายสาย น้ำเสียงของเจียงสือหมินพูดขึ้นปนเสียงร้องไห้
“กู้อันอยู่ห้องหมายเลขเจ็ดศูนย์สองของโรงแรมเจียงเหิง ฉันโทรหารุ่นพี่เสี่ยวม่านแล้วแต่เธอไม่รับสาย นายต้องรีบไปช่วยเธอ”
หัวใจสูบฉีดเต้นไม่เป็นจังหวะ จิตสำนึกสั่งให้เขาจดที่อยู่เอาไว้ ทันทีที่เสียงจากปลายสายเงียบไป เสียงเครื่องยนต์คำรามก็กระหึ่มขึ้น รถแล่นด้วยความเร็วสูงไปยังจุดหมายปลายทาง
หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที ฉินซั่วหยวนถีบประตูห้องหมายเลขเจ็ดศูนย์สองจนเปิดออก เซิ่งอันหรานรีบรุดเข้าไปข้างในโดยเร็ว เมื่อเห็นฉากบนเตียงเธอผลักชายหนุ่มที่เดินตามหลังมาออกไปข้างนอกทันที
“นายรออยู่ที่ประตู”
ฉินซั่วหยวนเข้าใจ ก้าวถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินเสี่ยวม่านที่กำลังถือกล้องยืนคร่อมอยู่บนเตียง กระโดดลงมาเพราะตกใจกับความเคลื่อนไหวอย่างไม่ทันตั้งตัว เท้าข้างหนึ่งยังก้าวลงไม่พ้นเตียง ก็ถูกเซิ่งอันหรานตบเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงด้วยความโกรธ
กล้องตกอยู่ไม่ไกล แต่หน้าจอแตกละเอียด ดวงตาของหลินเสี่ยวม่านเต็มไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้น เธอลุกขึ้นหมายจะโต้ตอบ แต่กลับถูกชกเข้าที่ใบหน้าสองครั้งติด
หลังจากที่ปล่อยหมัดออกไปถึงสองครั้ง เซิ่งอันหรานกุมกำปั้นที่รู้สึกเจ็บเอาไว้ พลางขมึงตาจ้องมองเธอ
“คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง?”
หลินเสี่ยวม่านตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล ตรงมุมปากและเบ้าตาเป็นสีเขียวปั้ด เซิ่งอันหรานชายตามองอย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วเอ่ยถาม “ทำแบบนี้ทำไม?”
หลินเสี่ยวม่านสูดหายใจ ชำเลืองมองไปยังร่างเปลือยเปล่าของกู้อันบนเตียง รอยยิ้มแห่งชัยชนะพลันฉายออกมาจากแววตาเธอ
“ล่อลวงผู้ชายคนอื่น ผู้หญิงสารเลวอย่างหล่อน ไม่สมควรได้รับแบบนี้งั้นเหรอ?”
ระหว่างที่เธอกำลังพล่าม เซิ่งอันหรานนำผ้าห่มมาห่อหุ้มเรือนร่างของกู้อันเอาไว้ แล้วลุกหยิบกล้องขึ้นมาจากพื้น เอาเมมโมรี่การ์ดออกมา จากนั้นเดินเข้าไปในห้องน้ำและโยนเมมโมรี่การ์ดนั้นทิ้งลงไปในชักโครก
เธอจัดการทุกอย่างด้วยความรวดเร็วและเฉียบขาด แต่หลินเสี่ยวม่านกลับไม่หวาดหวั่น เธอลุกขึ้นจากพื้น เช็ดเลือดจางๆ ตรงมุมปากของตัวเอง
“คุณคิดว่าแค่คุณทิ้งเมมโมรี่การ์ดลงชักโครก แล้วทุกอย่างก็จบงั้นเหรอ?”
เธอพูดพลางชูโทรศัพท์ในมือขึ้นมา ความโกรธปะทุออกมา เซิ่งอันหรานแทบขาดสติจนเกือบกระโดดเข้าไปแย่งโทรศัพท์มือถือ เธอฉีกยิ้มอย่างเย็นชา กระทั่งคำพูดต่อมาทำลายความอดทนสุดท้ายของเซิ่งอันหรานขาดสะบั้น
“คิดว่าฉันถ้าเอาโทรศัพท์เครื่องนี้ให้คุณแล้วจะเป็นยังไงต่อ? ในขณะเดียวกันรูปทั้งหมดที่ฉันถ่ายไว้จะถูกอัปโหลดไปยังผู้ช่วยของฉันในกูเกิ้ล ฉันรีเซตมันได้ทุกที่ทุกเวลา”
แววตาของเซิ่งอันหรานเย็นชา เธอตระหนักได้ว่า แบบนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ดังนั้นจึงโทรไปหาอวี้หนานเฉิง
“หนานเฉิง เรื่องนี้แก้ไขได้ใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน