ไฟในห้องนั่งเล่นสว่างอยู่ตลอดเวลา หมิงหลานเดินออกมาดูสองถึงสามครั้ง ที่หน้าจอทีวีฉายภาพรายการวาไรตี้ต่างประเทศ รายการตลกมีสาระมาพร้อมกับพิธีกรและเสียงหัวเราะของแขกรับเชิญ เสียงฮ่าๆๆๆๆ ดังก้องขึ้นมาในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ส่วนกู้เจ๋อจ้องไปที่หน้าจอทีวีโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแม้แต่สีหน้า กาแฟที่เขาเตรียมมาถูกเปลี่ยนสองถึงสามครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะดื่มมันเลย เพียงวางไว้ตรงหน้าและปล่อยให้มันเย็นลงช้าๆ
"คุณชาย นี่ตีสองแล้วนะคะ"
หมิงหลานเดินออกมาจากห้องเป็นครั้งสุดท้าย เธอเปลี่ยนกาแฟเป็นนมร้อนๆออกมา กู้เจ๋อ ยังไม่มีทีท่าว่าจะยื่นมือออกไปหยิบ แต่ตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “กลับไปนอนก่อนเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
หมิงหลานวางแก้วนมลงบนโต๊ะ เตรียมหลังหันและเดินออกไป ประตูบ้านถูกเปิดออก ลมเย็นๆพัดเข้ามา เธอโน้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะก้าวออกไป แต่ทว่าจู่ ๆ เธอก็เกิดลังเลและหันกลับมา
ฝีเท้าของเธอเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปที่ชั้นสอง ตรวจดูหน้าต่างทุกบาน แล้วลงมาพร้อมกับร่มในมือ เธอเดินตรงไปที่ประตูพร้อมกับเตือนเขาว่า
“ข้างนอกฝนตก พรุ่งนี้อากาศอาจจะเย็นขึ้น ถ้าคุณชายจะออกไปข้างนอกควรใส่เสื้อผ้าให้ หนากว่านี้ ”
เมื่อพูดจบก็ผลักประตูออกไป เม็ดฝนขนาดใหญ่ "เปาะแปะๆ" ลงบนพื้นผิวของร่ม เสียงไม่หนักหรือเบามากจนเกินไป แต่มันดังพอที่จะให้ชายซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาได้ยิน
ดวงตาที่มืดมนของเขาหรี่ลงครู่หนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อยืนยันเวลาบนนาฬิกาแขวนตรงผนัง ปิดทีวีอย่างรวดเร็ว ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เงียบลงในชั่วขณะ เงียบพอที่จะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง
การต่อต้านโดยสัญชาตญาณกระตุ้นให้เขาดื่มนมบนโต๊ะจนหมดในหนึ่งอึก เขาลุกขึ้นและเตรียมที่จะเดินขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบน ขณะที่ก้าวขึ้นบันได จู่ๆร่างของเขาก็หยุดชะงัก
ในที่สุดกู้เจ๋อก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหากู้อัน
ไม่มีใครรับสาย เขาลองโทรไปอีกครั้งและรอเป็นเวลานาน คราวนี้เขาไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว กู้เจ๋อเก็บโทรศัพท์กลับ พร้อมกับเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหนังสือ
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องอ่านหนังสือ หาข้อมูลสถานที่อพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัย จ้องไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ และในที่สุดดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้น
เขาหันหลังไปหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่ หยิบร่มสองคันตรงทางเดิน และกดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่งก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถ คราวนี้เสียงตอบกลับอัตโนมัติของผู้หญิงดังขึ้นมาในสาย มันบังคับให้เขาใช้แรงเหยียบคันเร่งของรถจนมิด
ส่วนทางด้านกู้อัน กำลังเดินตามฉินซั่วหยวนไปที่ร้านอาหารบาร์บีคิวซึ่งอยู่ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยเพื่อทานอาหารว่างยามดึก เธอดื่มน้ำอุ่นๆไป 2 แก้วในขณะที่นั่งรออาหาร ความร้อนที่อยู่ในร้านค่อยๆกระทบเข้าที่หน้าของเธอ แก้มของเธอค่อยๆร้อนขึ้น การมองเห็นของเธอเริ่มพร่ามัว
เธอตั้งใจฟังฉินซั่วหยวนพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งเธอก็พูดแนะนำให้ความเห็นไปบ้างสองสามประโยค และอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีว่าความคิดของเธอจะมีปัญหาอะไร จนกระทั่งอาหารขึ้นโต๊ะครบทุกจานแล้ว กู้อันไม่สามารถทนอาการปวดท้องของเธอได้ เธอลุกไปเข้าห้องน้ำ
ไม่นานหลังจากนั้น พนักงานเสิร์ฟก็กรีดร้องขึ้น เธอยืนอยู่ระหว่างทางเข้าห้องน้ำและห้องอาหาร พร้อมกับทำท่าชี้ไปทางห้องน้ำด้วยสีหน้าตกใจ
“มีคนเป็นลม!”
ฉินซั่วหยวนเด้งตัวลุกขึ้นและเดินตามเสียงนั้นไปโดยไม่รู้ตัว และแน่นอนว่าเขาเห็นกู้อัน เป็นลมอยู่ข้างๆอ่างล้างหน้า ฉินซั่วหยวนรีบก้าวไปข้างหน้าและอุ้มเธอขึ้น เขารู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของกู้อันที่ผิดปกติ
ริมฝีปากของเธอดูเหมือนว่าจะบ่นพึมพำอะไร แต่ทว่าฉินซั่วหยวนก็ไม่มีเวลาที่จะมานั่งพิจารณาอะไรมาก เขาอุ้มเธอขึ้น และพาเธอออกไปจากร้านอาหาร ฉินซั่วหยวนรีบเดินไปตามถนน โดยไม่ได้สังเกตว่าท่ามกลางฝูงชน มีวัยรุ่นคนหนึ่งจับจ้องมาที่เขาด้วยสายตาเคร่งขรึมในตอนที่เขาพากู้อันออกจากร้านอาหาร วัยรุ่นคนนั้นถอดชุดทำงานออก แล้วเดินตามไปโดยไม่ลังเล
ฉินซั่วหยวนพากู้อันไปที่ตึกอพาร์ตเมนต์ที่เขาเช่าอาศัยอยู่ ซึ่งมันอยู่ใกล้มากกว่า ทันทีที่เขาวางกู้อันลง ประตูอพาร์ตเมนต์ก็ถูกเคาะเสียงดัง ปังปัง
เขาลุกขึ้นและเปิดประตู เด็กหนุ่มชุดขาวยืนอยู่หน้าประตูด้วยแววตาอาฆาตแค้น เขายกกำปั้นขึ้นและต่อยเข้ามาที่หน้าของฉินซั่วหยวนโดยไม่พูดไม่จาอะไร
"นายกำลังจะทำอะไร ?"
ฉินซั่วหยวนถูกต่อยจนเซ เขาจับขอบประตูอยู่นานกว่าจะยืนขึ้นได้อย่างมั่นคง ชายคนนั้นก้าวเข้ามาในห้อง และคว้าคอของเขา
“กู้อันอยู่ที่ไหน ?”
“กู้อันล่ะ ?”
“ฉันเห็นนายพาคนที่หมดสติเดินออกมาจากร้าน ”
"หมดสติ" คำนี้ทำให้ฉินซั่วหยวนทั้งโกรธและรู้สึกขำ เขาหลุดพ้นจากพันธนาการของอีกฝ่าย และในขณะที่จ้องหน้าของชายคนนั้น ชายคนนั้นก็ถามเขาขึ้นว่า
“นายเป็นอะไรกับกู้อัน ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน