ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 555

กู้เจ๋อพากู้อันกลับไปที่คฤหาสน์ แพทย์ประจำตระกูลรออยู่ที่คฤหาสน์ล่วงหน้าแล้ว เมื่อเห็นว่าคนคนนั้นนอนไม่ได้สติ หลังจากการตรวจร่างกายแพทย์วินิจฉัยว่า เธอมีอาการไข้สูงเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะได้รับความเย็นจากทางด้านนอก

หลังจากที่ให้ยาลดไข้กับเธอแล้ว กู้เจ๋อก็นอนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของเธอทั้งคืน และก่อนจะรุ่งสาง ความร้อนที่หลงเหลือในร่างกายของเธอก็ลดลง เขากลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง

ทันทีที่เขาหลับตาได้เพียงครู่หนึ่ง โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นอย่างกะทันหัน มันขจัดอาการง่วงนอนทั้งหมดของเขาไปในทันที กู้เจ๋อคลำหาโทรศัพท์และกดรับสาย

“ผมจะไปที่คฤหาสน์ของคุณตอนนี้ มีเรื่องสำคัญที่อยากคุยกับคุณ”

เสียงของกู้เทียนเอินดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง น้ำเสียงดูกังวลเล็กน้อย และในขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ กู้เจ๋อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบวางสายโทรศัพท์ ลุกขึ้นและเดินไปยังห้องหนังสือ

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา หมิงหลานบอกว่ามีแขกมา กู้เจ๋อขอให้เธอพาเขาไปยังห้องหนังสือ ตามร่างกายของกู้เทียนเอินเปียกฝนเล็กน้อย เมื่อเขามาถึงเขาก็รีบเดินเร่งฝีเท้าไปยังห้องหนังสือทันที กู้เทียนเอินนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องหนังสือ หยิบรายงานการประเมินขึ้นมาวางบนโต๊ะ

"นี่อะไร ?"

กู้เจ๋อหรี่ตาลงและมองไปที่กู้เทียนเอิน การแสดงออกของกู้เทียนเอินไม่น่าดูเอาเสียเลย "กู้อัน อยู่ที่ไหน?"

"พักผ่อนอยู่ชั้นบน"

เมื่อเห็นว่ากู้เทียนเอินยังไม่ได้ตอบคำถามของเขา กู้เจ๋อจึงหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา เปิดเอกสารไปพลาง พร้อมกับเอียงหูฟังกู้เทียนเอินกล่าวเสริม

“มีดที่เกาหย่าเหวินทิ้งไว้ในห้างสรรพสินค้าได้รับการตรวจสอบโดยเพื่อนร่วมงานของผม ที่ทำงานอยู่ในห้องปฏิบัติการ และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคราบเลือดบนใบมีดโดยมีเจ้าของเลือดสองคน คนหนึ่งคือของกู้อัน และอีกคนหนึ่งก็คือเกาหย่าเหวิน—”

เขาหยุดชะงักชั่วคราว ดวงตาของเขาดูเจ็บปวด

“รายงานผลการตรวจเลือดของเกาหย่าเหวินออกมาแล้ว และยืนยันว่าเลือดของเธอมีแอนติบอดี้HIV”

เมื่อคำพูดประโยคนี้ตกลงไปถึงหู ดวงตาของกู้เจ๋อก็เหลือบไปมองที่รายการสรุปผลตรงบรรทัดสุดท้าย เขาใจหวิวขึ้นมาทันที ความตื่นตระหนกที่ควบคุมไม่ได้พุ่งพลานอยู่ในร่างกายของเขา

ในสมองของเขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก มีเสียงโห่ร้องมากมายนับไม่ถ้วนสะท้อนอยู่ในสมองของเขา เขาไม่สามารถโน้มน้าวตัวเองให้ยอมรับความจริงในเรื่องนี้ได้ กระดาษสองแผ่นที่กำลังวางอยู่ต่อหน้า ถูกขยำเกือบจะในทันที

กู้เทียนเอินพูดแทรกขึ้นมาเพื่อดึงสติของเขา

"แต่เราก็ไม่สามารถตัดเรื่องความเสี่ยงของการติดเชื้อออกไปได้ แต่ภายในเวลา 24 ชั่วโมงนี้ การใช้ยาอย่างต่อเนื่องมันสามารถช่วยป้องเธอได้บ้าง ส่วนเรื่องยาผมได้รับยามาจากกรมควบคุมโรคแล้ว"

กู้เทียนเอินกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาออกจากกระเป๋า เขาผลักมันไปด้านหน้าของกู้เจ๋อ

กู้เจ๋อจ้องไปที่ตัวหนังสือเล็ก ๆ บนกล่องยา หลังจากไตร่ตรองครู่หนึ่งเขาก็ลุกขึ้นและหยิบยาออกไปจากห้อง กู้เทียนเอินเดินตามเขาออกไป ทั้งสองเข้าไปในห้องนอนของกู้อันที่ชั้นบน

กู้อันฟื้นแล้ว เธอกำลังนั่งอยู่บนเตียงและทานโจ๊กที่หมิงหลานนำเข้ามาให้ เธอแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นกู้เทียนเอิน หลังจากทานโจ๊กคำสุดท้าย เธอก็เงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ทั้งสอง

"มีธุระอะไรหรือเปล่า?"

กู้เจ๋อไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หันหลังกลับไปเทน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ยื่นแก้วน้ำกับยาส่งให้กู้อัน

"กินยาซะ"

“ยาอะไร ?”

กู้อันลังเลเล็กน้อย รอยยิ้มจาง ๆ ลอยอยู่บนใบหน้าอันซีดเผือดของเธอ แม้ว่าเธอจะรู้สึกสงสัย แต่ก็ยังเอื้อมมือไปหยิบยาและทานเข้าไปพร้อมกับน้ำอุ่น

กู้เจ๋อดูท่าทางสงบ เขายื่นมือไปรับแก้วน้ำจากมือของกู้อัน พร้อมอธิบายด้วยน้ำเสียงทื่อๆ

"ยาแก้หวัด"

เมื่อพูดเช่นนั้น กู้เจ๋อก็ส่งสัญญาณให้กับกู้เทียนเอิน ทันทีที่กู้เทียนเอินเห็นอย่างนั้น เขาก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

“ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่สบาย นี่เป็นยาพิเศษที่ฉันได้รับมาจากโรงพยาบาล กินเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนซะ ฉันยังมีเรื่องที่จะต้องคุยกับคุณลุงกู้อีก”

เขาพูดขึ้นพลางดึงตัวกู้เจ๋อออกมา ทั้งสองกลับไปที่ห้องหนังสือ ใบหน้าที่สดใสของกู้เทียนเอินทรุดตัวลงในทันทีที่เขาปิดประตู

เขาไม่เห็นด้วยกับการปกปิดเรื่องนี้ของกู้เจ๋อ

“ยานี้จะต้องกินวันละสองครั้ง และต้องกินติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน คุณจะปิดบังเธอได้อย่างไร ?”

การแสดงออกของกู้เจ๋อดูเคร่งขรึม เขาไม่ได้วางแผนใด ๆ สำหรับขั้นตอนต่อไปเลย เขาแค่ไม่ต้องการให้กู้อันเผชิญหน้ากับความเป็นจริงนี้ก็เท่านั้น

“ระหว่างกินยาจะมีอาการข้างเคียงมากมาย แม้ว่าคุณจะไม่บอกเธอ เธอจะต้องเกิดความสงสัยแน่—”

กู้เทียนเอินกล่าวเสริม คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี จู่ๆกู้เจ๋อก็พูดแทรกขึ้น

“ฉันจะต้องบอกกับเธอแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

เสียงของเขาเย็นชาและดูแน่วแน่อย่างไม่ต้องสงสัย กู้เทียนเอินพยักหน้า และหยิบกล่องยาอีกกล่องออกจากกระเป๋าของตัวเอง

“นี่คือปริมาณยาของสามวัน ส่วนยาที่เหลือ ผมจะเอามาส่งให้ตามวันที่กำหนด ”

หลังจากหยุดชะงักชั่วคราว เขาก็เตือนกู้เจ๋อขึ้นอีกหนึ่งประโยค

“ทางมหาวิทยาลัย ให้คุณจัดการเรื่องพักการเรียนของเธอไปก่อนจะดีกว่า ให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ ”

——

สองวันต่อมา ที่ชั้นล่างหอพักนักศึกษาสาขากฎหมายของมหาวิทยาลัยจินหลิง เบนท์ลีย์ระดับไฮเอนด์เบรกอย่างมั่นคง ชายผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมเดินลงมาจากรถโดยไม่สนใจคนที่กำลังยืนดูอยู่รอบๆ เขาเดินตรงไปที่ชั้นสามของหอพักชาย

ฉินซั่วหยวนเพิ่งซื้อข้าวกลับมาจากโรงอาหาร และกำลังเตรียมตัวจะทานอาหารกลางวัน แต่จู่ๆ เพื่อนร่วมห้องของเขาก็วิ่งเข้ามา

"ฉินซั่วหยวน ข้างนอกมีคนมาหานาย "

เขาปิดฝากล่องอาหารกลางวันลงอีกครั้ง และเดินก้าวออกไปจากหอพัก เมื่อเห็นกู้เจ๋อยืนอยู่ที่ประตู เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเลย ฉินซั่วหยวนที่สงบนิ่งมองสบตากับกู้เจ๋อ

“กู้อันอยู่ที่ไหน ?”

กู้เจ๋อพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง เขาไม่ได้เดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายเพื่อเค้นถามคำถาม แต่เขาเดินเข้าไปข้างๆด้วยดวงตาที่เคร่งขรึม ผู้ที่เดินไปมารอบๆข้างต่างก็หลบทางให้กับเขา

ริมฝีปากบางของฉินซั่วหยวนกระตุก พร้อมกับประชดประชันขึ้นว่า

"คุณมาถามผมเกี่ยวกับเรื่องกู้อัน ? ผมคิดว่าคุณกำลังถามผิดคนนะ"

เขาพูดขึ้นพลางหันหลังกลับและเตรียมจะผลักประตูหอพักเพื่อกลับเข้าไป แต่ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังกู้เจ๋อหยุดเขาเอาไว้ คนหนึ่งจับมือของขา ส่วนอีกคนคว้าตัวเขาจากด้านหลัง

พร้อมกับเสียงเย็นชาของกู้เจ๋อที่ดังขึ้น

“ฉันจะให้โอกาสนายได้พูดอธิบายออกมาในตอนนี้ อย่ามาท้าทายความอดทนของฉัน”

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นกู่เจ๋อ ฉินซั่วหยวนก็รู้ดีว่าคนๆนี้รับมือไม่ได้ง่าย แม้ว่าสีหน้าของกู้เจ๋อจะดูอ่อนโยนและสงบอยู่เสมอ แต่อารมณ์ในดวงตาของเขามันกลับทำให้คนอื่นคาดไม่ถึง

ภายใต้การควบคุมของชายทั้งสอง เขาหันกลับมาและเผชิญหน้ากับดวงตาคู่นั้น เขาเยาะเย้ยกู้เจ๋อขึ้นว่า

“คุณลุงกู้ คุณเป็นลุงของกู้อันจริงๆเหรอ ก่อนหน้านี้พวกคุณมีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือเปล่า ?”

"นายกำลังหมายความว่าอะไร ?"

กู้เจ๋อขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้มีปฏิกิริยาปฏิเสธ และมันทำให้ฉินซั่วหยวนหัวเราะออกมา

"ก็หมายความว่า ผมกับกู้อันเราเลิกกันแล้ว เธอบอกว่าเธอมีคนในใจที่ปล่อยวางไม่ได้ ก็เลยไม่อยากให้ผมรอ——ผมก็รู้สึกสงสัยจริงๆ ว่าคนที่เธอปล่อยวางไม่ได้คนนั้นเป็นใคร ?”

ถ้าเป็นคนอื่นก็คงแล้วๆกันไป แต่ถ้าเป็นชายคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ทำไมกู้อันถึงยอมรับรักตัวเองต่อหน้าของชายคนนี้ในตอนนั้นด้วย เมื่อย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องดังกล่าว เขาจึงรู้สึกรับไม่ได้

รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวตลก

อย่างไรก็ตาม กู้เจ๋อก็สามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และมันยิ่งทำให้กู้เจ๋อมั่นใจขึ้นว่ากู้อัน รู้เรื่องอาการป่วยของเขาแล้ว

เขายกมือขึ้น เพื่อส่งสัญญาณให้ชายทั้งสองปล่อยฉินซั่วหยวน

“นายหมายความว่า ในสองวันที่ผ่านมาพวกเธอเจอกันแล้ว แล้วเมื่อไหร่ ?”

"เมื่อวานตอนบ่าย "

ฉินซั่วหยวนลูบข้อมือที่เจ็บของตัวเอง และตอบคำถามของเขาด้วยความจริงใจ กู้เจ๋อ พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากได้ยินเรื่องนี้ และถอนดวงตาที่มืดมนของเขาเปลี่ยนน้ำเสียงให้นุ่มนวลขึ้น

“ในเมื่อพวกเธอเลิกรากันแล้ว งั้นฉันผิดเองที่ทำอะไรรีบร้อนไปหน่อย ”

เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังเดินกลับไปที่ลิฟต์ของหอพัก ฉินซั่วหยวนยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกโกรธที่ตัวเองอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อบ่ายวานนี้ จู่ๆ ก็บรรเทาลง และรู้ว่าสรุปแล้วอะไรคือปัญหา

เขาเร่งฝีเท้าเดินตามไปถึงหน้าลิฟต์ "ติ๊ง" หนึ่งวินาทีก่อนที่ลิฟต์จะเปิด

เขาเอ่ยปากถามขึ้นว่า

“กู้อันหายตัวไปเหรอ ?”

ตอนที่เขาถามขึ้น กู้เจ๋อได้เดินเข้าไปในลิฟต์แล้ว กู้เจ๋อหันกลับมาสบตาของเขา ในขณะที่ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ เขาได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาพูดขึ้นว่า "กู้อัน พักการเรียนแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป นายกับกู้อันจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก "

คำพูดเหล่านั้นกระแทกหัวใจของฉินซั่วหยวน ราวกับโดนค้อนหนักๆทุบลงกลางใจ มันอธิบายออกมาไม่ได้ว่ารู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน มันแทบหายใจไม่ออก จนกระทั่งลิฟต์ ลงไปถึงชั้นล่าง เขาจึงค่อยๆถอยห่างออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน