เซิ่งอันหรานกลับถึงบ้าน ได้รับการต้อนรับจากเซิ่งเสี่ยวซิงอย่างอบอุ่น
“หม่าม้ากลับมาสักที เมื่อคืนมีความสุขไหม?”
แม้รู้ว่าเซิ่งเสี่ยวซิงเด็กขนาดนี้ไม่รู้เรื่องระหว่างชายหญิง แต่เซิ่งอันหรานก็อดไม่ได้ที่จะเคาะหัวเธอไปหนึ่งที
“มีความสุขอะไร? ใครให้ลูกคะยั้นคะยอคุณพ่อจิ่งซีไปหาหม่าม้าในงานฉลองการหมั้น?”
เซิ่งเสี่ยวซิงลูบหัวด้วยความเจ็บ เม้มปากพูด “ไม่ใช่หนูเป็นคนบอก เป็นพี่จิ่งซี แล้วยังแม่บุญธรรม แม่บุญธรรมบอกว่า ลุงอวี้เป็นฮีโร่ช่วยสาวสวย!”
“ใครไม่อยู่ลูกโทษใครใช่ไหม?”
เซิ่งอันหรานชำเลืองมองเธอ เทน้ำข้างโต๊ะพูดถาม“แม่บุญธรรมลูกยังพูดอะไรอีก?”
“แม่บุญธรรมยังพูด ตอนจบของฮีโร่ช่วยสาวสวยคือ แต่งงานกับอีกฝ่าย”
“พุ” เซิ่งอันหรานพ่นน้ำออกมา กระจายเต็มโต๊ะ ไออยู่2-3 ครั้ง รีบลนลานไปเคาะประตูห้องนอนใหญ่
“เรื่องดีๆ ไม่สอน สอนเรื่องพวกนี้! ถานซูจิ้งโผล่หน้าออกมาเดี๋ยวนี้!”
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ปกติถานซูจิ้งจะนอนสลบไสลอยู่ในบ้าน แต่ว่าเคาะอยู่นานก็ไม่มีคนตอบรับ เธอบิดประตูเปิด ข้างในงกเหมือนบ้านหมา ไม่เจอตัวถานซูจิ้ง
“แม่บุญธรรมออกเดินทางไปทำงานตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ”
เซิ่งเสี่ยวซิงวิ่งตามก้นมา “แม่บุญธรรมยังบอก หม่าม้าไม่อยู่บ้าน หม่าม้าเชิญลุงอวี้มาที่บ้านได้ตลอดสบาย ท่านไม่ถือสา”
“ใครจะเชิญเขา!”
เซิ่งอันหรานขึ้นเสียงสูง ท่าทางร้อนตัว ปิดหน้าพยายามปิดบังใบหน้าที่แดงของตัวเอง
“พอแล้วๆ หม่าม้าเหนื่อยอยากนอนแล้ว ลูกอย่าก่อกวนหม่าม้าตรงนี้ ไปเล่นที่อื่นไป”
เซิ่งเสี่ยวซิงถูกไล่กลับห้อง กลับปิดปากแอบขำอยู่หน้าประตู
ดูแล้วฮีโร่ช่วยสาวสวยดูจะได้ผลดี! อยากที่คิดยังไงก็ต้องให้แม่บุญธรรมออกหน้า คนเดียวชนะสอง!
ตอนบ่าย เซิ่งอันหรานปวดเมื่อยเอว นอนไม่หลับอยู่บนเตียงพลิกไปพลิกมา พลิกตัวทีก็นึกอยู่ถึงภาพเมื่อคืน หน้าแดงล่ามไปถึงหูคลุมตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มอยู่นาน เพราะหายใจไม่ออกถึงเปิดผ้าห่มออกมา หลังทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง เธอเริ่มโมโหขึ้น
ถ้าไม่ใช่ถานซูจิ้งบังคับตัวเองให้ไปร่วมงานฉลองการหมั้นนั้น ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่เธอปากมากคะยั้นคะยอให้อวี้หนานเฉิงไปที่งาน ก็ยิ่งไม่เกิดเรื่องแบบนี้
พูดไปพูดมา ผู้ร้ายก็คือยัยนั่นคนเดียว
นึกถึงตรงนี้ จู่ ๆเธอเริ่มได้สติ ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นแผนการของหล่อน
ถานซูจิ้งเครื่องบินดีเลย์ นั่งรอที่ห้องพักในสนามบินอย่างเบื่อหน่าย มือถือเสียงดัง'ติ่ง'มีเสียงข้อความจากวีแชต หลังเห็นคนส่ง ความหงุดหงิดของเธอหายไปในชั่วพริบตา ปลดล็อกหน้าจอช้าๆ ฟังเสียงร้องเรียนจากเซิ่งอันหรานอย่างครื้นเครง
“เธอสารภาพมา บีบให้ฉันไปงานหมั้นแล้วยังบอกอวี้หนานเฉิงเธอวางแผนไว้ก่อนแล้วใช่ไหม?”
เธอกดมือถือ เข้าใกล้ไมโครโฟนพูดว่า
“จะเป็นไปได้ยังไง? แต่เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม? ทำไมเมื่อคืนเธอไม่กลับบ้าน?”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“เธอลนลานขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
อีกฝ่ายเงียบไป ค่อนวันถึงตอบข้อความกลับ
ถึงมีหน้าจอกั้นอยู่ ถานซูจิ้งรู้สึกว่าตัวเองเห็นหน้าสีแดงนั้นของเซิ่งอันหราน น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง น่าเสียดายจริงๆ เลย
อีกด้านหนึ่ง เสียงถ่ายทอดสัญญาณแจ้งที่สนามบินบอกว่าเที่ยวบินเธอถึงแล้ว เธอถึงหิ้วกระเป๋าเดินไปช้าๆ ขึ้นเครื่องบินนั่งลงตรงที่ตัวเองอย่างราบรื่น พูดเสียงเบากับมือถือ
“ฉันขึ้นเครื่องแล้ว ไม่คุยเรื่องรายละเอียดกับเธอแล้ว รอฉันกลับมาค่อยแชร์เรื่องตื่นเต้นคืนนั้นให้ฉันแล้วกัน!”
พูดจบเธอก็กดปิดเครื่อง
“คุณคนสวย ไม่ทราบว่าสิ่งของของคุณบนชั้นวางสัมภาระ ผมสามารถเลื่อนไปข้างหน้าหน่อยไหมครับ?”
ในเสียงอึกทึกของเสียงตามบอกเรื่องความปลอดภัย มีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้นเหนือศีรษะ
ถานซูจิ้งยังไม่ทันเงยหน้า
“ไม่ใช่ของฉัน คุยขยับได้ตามสบาย”
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มพูดขอบคุณอยากมีมารยาท กำลังจะขยับสิ่งของ จู่ ๆ ก็หยุดการกระทำลง
ถานซูจิ้งได้ยินเสียงคุ้นหู วางโน้ตบุ๊ก ในมือ เงยหน้าขึ้น
ชั่วพริบตาที่ดวงตาทั้งสองประสานกัน
“คุณนี่เอง!”
เสียงชายหญิงซ้อนทับกัน เสียงหนึ่งมาจากถานซูจิ้ง เสียงหนึ่งมาจากเกาจ้าน
หลังดูที่นั่งในตั๋วเครื่องบินถูกต้องแล้ว เกาจ้านนั่งลงข้างถานซูจิ้ง และยื่นมือไปทางเธออย่างมีมารยาท “คุณถาน บังเอิญเจอกันอีกแล้ว”
ถานซูจิ้งทำท่ามองบน โบกมือให้แอร์โฮสเตส
“คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณต้องการความช่วยเหลือไหม?”
“ฉันอยากเปลี่ยนที่นั่ง”
เกาจ้านหน้าเสีย อับอายมากๆ กับมือที่ค้างอยู่ในอากาศ
แอร์โฮสเตสก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศพูดยากระหว่างทั้งสองคน ยิ้มอย่างลำบากใจ “คุณถาน ที่นี่เที่ยวบินนี้เต็มหมดแล้ว เปลี่ยนที่นั่งไม่ได้”
ถานซูจิ้งหน้าเสียทันที ชำเลืองเหยียดมองไปทางเกาจ้านที่อยู่ข้างๆ
“ชั้นประหยัดก็ไม่มีเหรอ? เปลี่ยนชั้นประหยัดให้ฉันก็ได้ แค่ไม่อยากนั่งร่วมกับคนนี้ ฉันไปนั่งที่ห้องโดยสารพวกคุณก็ไม่เป็นไร”
“คุณหมายความว่าไง?”เกาจ้านขมวดคิ้วมองเธอ พูดอย่างไม่พอใจ“ผมยังไม่ขอให้เปลี่ยนที่นั่ง คุณยังหาเรื่องอีก?”
“ฉันก็แค่รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นผู้ชายไร้คุณภาพที่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิงเท่านั้น”
ถานซูจิ้งทำหน้าเย็นชาสุดๆ
“ขอโทษค่ะ เปลี่ยนที่นั่งไม่ได้จริงๆ”
แอร์โฮสเตสทำหน้าลำบากใจ
เกาจ้านหน้าขรึมลง พูดประชดประชันเสียดสี
“คุณเห็นใครเข้าตาบ้าง? ผมว่าคุณเกลียดสังคมมั้ง เครื่องบินจะขึ้นบินอยู่แล้ว คุณยังทำแอร์โฮสเตสลำบากอยู่นี่ ยังหาว่าผมไร้คุณภาพ ผมว่าคุณภาพของคุณก็สูงขึ้นไม่เท่าไหร่หรอก?”
“คุณ”
ถานซูจิ้งขมวดคิ้ว มองแอร์โฮสเตสอย่างเข้าใจแล้วให้เธอไปก่อน แล้วถึงถลึงตาให้เกาจ้าน พูดว่า
“ฉันไม่อยากจะสนใจคำพูดไร้สาระของคุณ ขอเตือนคุณ ชั่วโมงบินของเครื่องบินแค่4ชั่วโมง พวกเราถือเสียว่าไม่เคยเจอกัน ดังนั้นอย่ามาพูดกับฉัน”
“ผม...”
ถูกทำให้โกรธหลายครั้ง เกาจ้านก็หายโกรธแล้ว กลับสงสัยขึ้นเล็กน้อย
บนตัวของเขามีอะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้หงุดหงิดกันแน่ ทุกครั้งที่เจอกันเหมือนกินดินปืนแบบนั้น
หางตาเขาชำเลืองมองใบอนุญาตทำงานบนโต๊ะข้างมือถานซูจิ้ง จู่ ๆแววตาเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย
“กิจกรรมสื่อวัฒนธรรมแสงสีส้ม”ตัวหนังสือนี้อย่างชัดเจน เธอไปกิจกรรมสื่อวัฒนธรรมแสงสีส้มที่ถงอันเหมือนกัน?
ถ้าเป็นแบบนี้ มีโชคชะตาต่อกันไม่น้อยเลย
เกาจ้านยกมุมปาก แสดงรอยยิ้มมีเลศนัย
วันถัดไปเป็นวันจันทร์
ทิ้งเรื่อง'ไม่คาดฝัน'ทั้งหมดในวันหยุดสุดสัปดาห์ไป เซิ่งอันหรานเริ่มตกแต่งสถานที่งานฉลองครบรอบ 100 ปีไม่หยุดพัก ควบคุมโซนที่กั้นออกมาจากล็อบบี้ตลอดทั้งวัน
“โปสเตอร์บนแผ่นกั้นใช้ไม่ได้ ทำสวยกว่านี้หน่อย อย่าให้ใครรู้สึกได้ว่าทางเรากำลังทำการซ่อมแซมเสียงดังอย่างนั้น พยายามอย่าสร้างความรำคาญให้ลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมตอนนี้”
“ยังมีทางนี้ อย่าเอาของมากองไว้ ของทั้งหมดเอาไปเก็บไว้ที่โกดัง ต้องการใช้ค่อยไปเอาออกมา ไปกลับหลายรอบหน่อยไม่เป็นไร”
ตอนบ่ายกำลังยุ่งอยู่ ไม่ไกลนักก็มีเสียงตะโกนของพนักงานต้อนรับมาทางแผนกต้อนรับ
“ผู้จัดการเซิ่ง มีคุณผู้ชายท่านหนึ่งมาหาคุณที่นี่”
เซิ่งอันหรานกำลังเงยหน้าสั่งคำเงินวางแชนเดอเรีย ได้ยินเสียงก็หันไปมอง เห็นร่างคุ้นเคยหนึ่งยืนอยู่หน้าแผนกต้อนรับ ไม่เจอหลายปีร่างนั้นหลังงอลงเล็กน้อย แก่ตัวลงมากเมื่อเทียบกับภาพในความทรงจำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน