สีหน้าของอวี้หนานเฉิงไม่เปลี่ยน เขาจิบกาแฟ แล้ววางลง
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมก็แค่เดา บางทีคุณอาจจะเห็นแก่หน้าของเซิ่งอันหราน ดังนั้นคุณเลยมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง”
คำพูดเหล่านี้ช่างแยบยลจริง
สีหน้าของเซิ่งซิงซานดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย เมื่อไม่ผูกมัด
ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะคืออะไร ครอบครัวที่ร่ำรวยจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นอย่างแรก
เมื่อพูดถึงลูกสาว เซิ่งซิงซานรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย
“ตั้งแต่เด็กเซิ่งอันหรานมักจะจริงจังกับการทำสิ่งต่างๆ ความสามารถในการทำงานของเธอไม่มีปัญหาแน่นอน แต่สภาพแวดล้อมในการทำงานในประเทศจีนกับต่างประเทศนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าตอนนี้ประธานอวี้น่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดี”
“เป็นเพราะว่าเธอดีพอ ”อวี้หนานเฉิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันสัมภาษณ์ เธอดูมั่นใจเมื่อพูดถึงตัวชี้วัดความ
สามารถในการทำงานที่เธอจะสามารถทำได้ภายในสองเดือน “ผมไม่ได้ช่วยอะไรมาก และถึงแม้ว่าจะช่วย ก็เป็นแค่เจ้านายดูแลลูกน้องตามปกติ”
คำพูดนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่ใช่สิ่งที่เซิ่งซิงซานอยากได้ยิน เขาขมวดคิ้ว ก้มศีรษะลงจิบชา
ตั้งนานแล้วยังไม่ได้ยินพูดเรื่องสำคัญเลย อวี้หนานเฉิงเหลือบมองนาฬิกา
“คุณเซิ่ง ตอนกลางคืนผมมีไฟลต์บินต้องรีบไป เกรงว่าคงจะพูดคุยกับคุณได้แค่นี้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซิ่งซิงซานสูดหายใจเข้าลึก ๆและมองไปที่เขา “คุณน่าจะรู้ว่าผมมาหาคุณเพราะจุดประสงค์อะไร”
ที่งานเลี้ยงหมั้นในตอนนั้น อวี้หนานเฉิงประกาศต่อทุกคนว่าเซิ่งอันหรานคือคู่หมั้นของเขา เรื่องนี้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง อันที่จริงเมื่อเขาเห็นเซิ่งซิงซาน อวี้หนานเฉิงก็รู้แล้วว่าเขามาหาตัวเองเพื่อพูดเรื่องอะไร
พ่อเป็นห่วงลูกสาว และอยากจะดูว่าคนที่จะมาเป็นลูกเขยในอนาคตเป็นคนอย่างไร เหมาะสมหรือเปล่า
“อันหรานบอกทุกอย่างกับผมแล้ว”
เซิ่งซิงซานหายใจออกช้าๆ ด้วยท่าทางที่เจ็บปวด
“อันหรานเกิดมาก็ไม่มีแม่ ตอนเด็กก็ไม่ได้เติบโตมากับฉัน ฉันเป็นหนี้เธอ เธอไม่เคยไปต่างประเทศ ฉันคิดมานานแล้ว ไม่ว่าเธออยากจะแต่งงานกับคนแบบไหน ขอแค่ดีกับเธอก็พอแล้ว ฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อวี้หนานเฉิงก็เริ่มสงสัย “เธอบอกอะไรกับคุณบ้าง ?”
“คุณกับอันหรานอยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ? เตรียมพร้อมที่จะแต่งงานแล้ว”
ท่าทางของอวี้หนานเฉิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร แต่เขากลับพยักหน้า
“ใช่ครับเป็นแบบที่เธอพูด”
เซิ่งซิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดอย่างจริงจังว่า
“ต่อจากนี้ถ้ามีเวลา พวกคุณก็กลับมาบ้านด้วยกันหน่อยสิ ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์หรอก แต่เป็นการแสดงความน้ำใจต่อผู้อาวุโส ก็ควรจะมาหาหน่อย”
ในใจของอวี้หนานเฉิงดูสับสน เขาอยากรู้มากว่าเซิ่งอันหรานคิดยังไงเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ต่อหน้าพ่อของเธอ และเธอคิดยังไงเขากับกันแน่ ? หรือว่าเขาควรจะถามเรื่องในบ้านต่อไปดี
ถ้าคุณกับอันหรานแต่งงานกันแล้ว ต่อไปเรื่องเครือกรุป ฉันก็ฝากไว้กับพวกคุณ แค่นี้ฉันก็วางใจแล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในทีแรกอวี้หนานเฉิงก็รู้สึกประหลาดใจ แต่เมื่อคิดไปมา เขาก็ได้เข้าใจ
เซิ่งซือกรุปมราเมืองจินหลิงมีฐานะอยู่ เพียงแต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะว่าสุขภาพของเซิ่งซิงซานเขาจึงมอบอำนาจให้กับลูกสาวคนโตและหลานชาย หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้น ชื่อเสียงของเซิ่งซือกรุปกลับแย่ลง จึงทำให้เซิ่งซิงซานต้องกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ทำให้ภายหลังถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
สำหรับธุรกิจครอบครัวแบบเซิ่งซือกรุปแบบนี้ สิ่งที่ขาดไปก็คือผู้จัดการครอบครัวที่มีอำนาจและสามารถไว้วางใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน