ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 92

เซิ่งอันหรานตรงไปโรงเรียนอนุบาล ใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนพอดี หน้าประตูมีรถหรูจอดอยู่ไม่น้อย พ่อบ้านคนใช้เป็นกลุ่มใหญ่ เธอเบียดเข้าประตูอย่างยากลำบาก นั่วหย่าคนดูแลอนุบาลหลานเป่ารออยู่นานแล้ว เห็นเธอมา รีบพาเธอเข้าไปในโรงเรียน

"ซิงซิงน้อยเป็นยังไงบ้าง?"

"ไม่เป็นอะไร หมอจู้จัดการเรียบร้อยแล้ว พบเจอเร็ว ยังไม่เกิดภาวะช็อก แต่อาการตอนนี้ไม่ค่อยดี ฉันถึงโทรหาคุณ กลัวคุณกังวล"

เร่งรีบไปห้องพยาบาลตลอดทาง ชั่วพริบตาที่เห็นเซิ่งเสี่ยวซิง นัยน์ตาเซิ่งอันหรานก็ชื้นแล้ว ยืนอยู่เตียงคนไข้อย่างทำอะไรไม่ถูก

"ซิงซิงน้อย หม่าม้ามาแล้ว "

เซิ่งเสี่ยวซิงนอนอยู่บนเตียง สีหน้าอ่อนเพลีย ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา หน้าผากมีรอยเขียวรอยม่วงเป็นวงๆ กลับพยายามฝืนยิ้มออกมา

"หม่าม้า หนูไม่เป็นไรแล้ว"

เซิ่งอันหรานกุมมือเธออย่างระมัดระวัง ไม่กล้าพูดแรง กลับอดไม่ได้ที่จะตำหนิ"ก่อนลูกเข้าเรียนตกลงกับหม่าม้าไว้แล้ว จะไม่ก่อเรื่อง จะเรียบร้อย ลูกลืมหมดแล้วใช่ไหม? หม่าม้าจะโกรธแล้วนะ"

เซิ่งเสี่ยวซิงลำบากใจเล็กน้อย "แต่ว่าหม่าม้า พวกเขารังแกคน"

ระหว่างที่พูด หมอจู้ที่ดูแลเซิ่งเสี่ยวซิงก่อนหน้านี้เข้ามา "คุณแม่ของเซิ่งเสี่ยวซิงใช่ไหม?"

"ค่ะ ฉันเอง"เซิ่งอันหรานรีบหันกลับไป

หมอจู้เป็นหญิงชราเส้นผมสีขาวทั้งหัว สวมเสื้อคลุมสีขาว สวมแว่นกรอบทองอันกลมเล็ก ดูใจดีเป็นพิเศษ หลังส่งสายตาครู่หนึ่ง เซิ่งอันหรานรีบลุกตามออกไป

"คุณหมอ อาการป่วยของซิงซิงน้อยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

"ฉันดูประวัติการรักษาที่ส่งมาก่อนหน้านี้ เด็กคนนี้เป็นโรคหอบตั้งแต่กำเนิด ส่วนใหญ่พวกเราก็ใช้ยาควบคุม แต่ใช้ยาเป็นเวลานาน พึ่งพาได้ง่าย แต่ไม่ดีกับสุขภาพของเด็ก ดังนั้นฉันแนะนำ พวกคุณจะพิจารณาฝังเข็มของแพทย์แผนจีนดูไหม?"

"สามารถรักษาให้หายไหมคะ? ถ้าหากทำได้ล่ะก็ พวกเรายินยอมอยู่แล้ว"

"อย่ารีบร้อน การรักษานี้ ใช้เวลานาน เมื่อเริ่มแล้วก็หยุดกลางคันไม่ได้ ส่วนเรื่องภาพรวม ฉันค่อยหาเวลาคุยกับคุณนะ เรื่องวันนี้ เกรงว่าคุณต้องจัดการให้ดี"

คำพูดของหมอจู้เตือนสติเซิ่งอันหราน ท่าทางวันนี้ของเซิ่งเสี่ยวซิง เห็นชัดว่าไม่เพียงแค่หอบ โรคหอบเธอไม่กำเริบมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อกี้เห็นแผลบนหน้าเธอลายเหมือนแมวเลย เห็นชัดว่าลงไม้ลงมือกับคนอื่น

นั่วหย่าให้เธอเจอลูกก่อน หลังสบายใจแล้วก็ไปห้องทำงาน นึกถึงตรงนี้ เธอรีบขอบคุณหมอจู้ กลับไปห้องคนไข้ หลังจากถามความเป็นมาของเรื่องอย่างชัดเจนแล้ว ถึงได้ไปห้องทำงาน

ในห้องทำงานของนั่วหย่า มีคุณแม่ยังสาวจูงเด็กผู้ชายที่จมูกบวมเขียวอยู่คนหนึ่ง สีหน้าแย่มาก

ทันทีที่เข้าประตู เซิ่งอันหรานได้ยินกล่าวโทษหยิ่งๆ ด้านใน

"โรงเรียนของพวกคุณมันยังไงกัน? เด็กแบบไหนก็รับเข้ามาหมด? หากตีจนเล่อเล่อของเราเป็นอะไรไป

พวกคุณชดใช้ไว้เหรอ? "

นั่วหย่ายิ้มแหยๆ "เรื่องนี้มีที่มาอยู่ คุณแม่เล่อเล่อใจเย็นๆ ก่อน "

"ที่มาอะไร……"

เซิ่งอันหรานเคาะประตูทันเวลา หยุดเสียงทะเลาะลง

นั่วหย่าเห็นเธอมา รีบลุกขึ้น พูดแนะนำก่อน"ท่านนี้คือคุณแม่เล่อเล่อ กับเล่อเล่อ ท่านนี้เป็นคุณแม่ของซิงซิงน้อย"

คุณแม่เล่อเล่อกวาดมองเซิ่งอันหรานแวบหนึ่ง "คุณก็คือคุณแม่ของเซิ่งเสี่ยวซิงเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยเห็นคุณมาก่อน? คุณใช่คนจินหลิงไหม?"

เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว เด็กทะเลาะกัน กลับซักไซ้ก่อนว่าเป็นคนพื้นที่หรือเปล่า นี่มันตรรกะอะไร?

ถึงจะสงสัย แต่เธอก็พยักหน้า "ค่ะ ฉันเป็น"

คุณแม่เล่อเล่อยิ้มเย็น "คนพื้นที่? ฉันได้ยินนั่วหย่าบอกว่าคุณเป็นผู้จัดการโรงแรม"

เซิ่งอันหรานพยักหน้าอีกครั้ง

"ผู้จัดการโรงแรมคนหนึ่ง มีความสามารถอะไรส่งลูกมาเรียนที่นี่? ผู้ใหญ่ทำเรื่องผิดศีลธรรม เด็กก็เรียนมาด้วย ทั้งบ้านไม่ใช่คนดีอะไร"

เสียงผู้หญิงแหลมสูงเป็นพิเศษ น้ำเสียงเยาะเย้ยสุดๆ

เซิ่งอันหรานได้ยินในหูเกิดเสียงวิ้งๆ กำหมัดแน่น ถามกลับว่า

"คุณแม่เล่อเล่อ เรื่องในวันนี้ฉันรู้ว่าซิงซิงน้อยของเราทำไม่ถูก แต่คุณก็ไม่ควรพูดอย่างนี้ ฉันเป็นผู้จัดการโรงแรม ฉันก็ไม่สามารถพาลูกเข้าเรียนที่นี่เหรอ? นี่มันตรรกะอะไร?"

"ยังต้องพูดออกมาโต้งๆ เหรอ? เป็นอะไรต่างรู้อยู่แก่ใจ อายุยังน้อยทำอะไรไม่ดี?" คุณแม่เล่อเล่อมองเธออย่างดูถูก

เซิ่งอันหรานหน้าขรึมลง กลับเธอขี้เกียจจะทะเลาะกับปากอย่างนี้ พูดกัดฟัน "เรื่องหนึ่งส่วนเรื่องหนึ่ง คุณพูดมาตรงๆ เถอะ เรื่องในวันนี้คุณอยากจะจัดการยังไง ค่ายารักษาหรือว่าค่าทำขวัญ พวกเรารับผิดชอบเอง"

"เงิน?" คุณแม่เล่อเล่อหัวเราะออกมาเหมือนได้ยินเรื่องตลก

"บ้านเราขาดเงินเหรอ? ฉันจะบอกคุณ เรื่องวันนี้ ฉันอยากให้คุณกับลูกสาวคุณพูดขอโทษเล่อเล่อของเรา และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกสาวคุณห้ามมาเรียนที่นี่อีก"

เซิ่งอันหรานเปลี่ยนสีหน้า เหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้ยินอะไรมา

ระหว่างเด็กทะเลาะกันเล่นเท่านั้น และยังยกโทษได้ เธอกลับต้องการให้ซิงซิงน้อยออกจากโรงเรียนนี้ นี่ก็ไร้เหตุผลเกินไปแล้วมั้ง

"นี่เป็นไปไม่ได้" เซิ่งอันหรานตั้งสติ หน้าเครียด "ฉันไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้จะหนักขนาดนั้น"

"เป็นไปไม่ได้? งั้นคุณก็ค่อยดู จะเป็นไปไม่ได้ได้ยังไง หน้าลูกชายฉันถูกข่วนจนเจ็บคือเหตุผลใหญ่ คุณยังรู้สึกว่าไม่หนัก ฉันว่าคุณคงอยากไปสถานีตำรวจพร้อมกับลูกสาวคุณแล้ว"

เธอมองนั่วหย่าที่ไม่รู้จะพูดอะไรดีข้างๆ ดูหยิ่งผยองสุดๆ

"คุณเป็นคนดูแลของโรงเรียน เรื่องนี้คุณจัดการ หากพรุ่งนี้เล่อเล่อของเรายังเห็นเด็กนั่นมาเรียนอีก การลงทุนปีหน้าของโรงเรียน พวกเราจะถอนออกทั้งหมด"

นั่วหย่าหน้าเปลี่ยนสีทันที

เซิ่งอันหรานกัดฟัน หมัดที่กำแน่นเกิดเสียงกรอบแกรบ เหมือนเลือดสูบฉีดไปทั่วตัว แทบอยากทุบหัวคุณแม่เล่อเล่อนั่นให้แตก ทำไมถึงมีคนดูถูกคนอื่นขนาดนี้?

"หลังจากเล่อซื่อกรุปถอนทุน เซิ่งถังกรุปจะลงทุนเป็นสองเท่าจากที่โรงเรียนกำหนดในปีนี้"

หน้าประตูห้องทำงานมีเสียงดังหนึ่งปกคลุม เสียงทุ้มต่ำลอยมาจากที่มืด หยุดบรรยากาศเครียดในห้องทำงานนี้

อวี้หนานเฉิงจูงมือเล็กของอวี้จิ่งซี เดินเหมือนปกติเข้ามา ตอนมองทางคุณแม่เล่อเล่อ เฉยคางขึ้นนิดๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชาและหยิ่งยโส

"เล่อซื่อกรุปแค่หนึ่งบริษัท เกรงว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรมากกับอนุบาลหลานเป่ามั้ง? คุณนายเล่อ"

คุณแม่เล่อเล่อเห็นอวี้หนานเฉิง หน้าถอดสีทันที

"ประธานอวี้ คุณ คุณมาได้ยังไง?"

"ผมได้ยินว่าลูกชายผมก่อเรื่องนิดหน่อย เลยมาดู ในเมื่อเขาเป็นคนก่อเรื่อง ผมคงต้องขอโทษต่อหน้าไม่ใช่เหรอ?"

"ก่อเรื่อง?" คุณแม่เล่อเล่อยิ้มตาม "ลูกชายคุณเป็นเด็กดีขนาดนั้น จะก่อเรื่องได้ยังไง?"

อวี้จิ่งซีเงยหน้าถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่ง แล้วไปอยู่ข้างตัวเซิ่งอันหราน

"คุณนายเล่อมานานขนาดนี้ ด่าคนก็นานขนาดนี้ หรือยังไม่ทราบสาเหตุ ที่วันนี้ลูกชายคุณถึงถูกตีเหรอ?"

อวี้หนานเฉิงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา "ก็ไม่รู้ว่าใครสอนเขาให้พูดต่อหน้าจิ่งซี คำที่ว่าลูกที่ไม่มีแม่ก็คือเด็กเหลือขอนี้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน