ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 621

บทที่ 621 ผู้นำพันธมิตรเลื่อนสู่ขั้นสามแล้วหรือ (2)

ณ เรืออวี่เฟิง

จีเสวียนที่กำลังจดจ่อกับการต่อสู้แว่วเสียงแปลกๆ จึงหันไปมองด้านหลัง

ตงฟางหว่านหรง สวี่หยวนไหวเคลื่อนไหวพร้อมกัน ในขณะที่สวี่หยวนซวงก้มมองดูการสู้รบอยู่นิ่งๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงผิวปาก นางถึงได้หันกลับมาด้วยความประหลาดใจ

เห็นเพียงชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำปักดิ้นทองดิ้นเงิน ทรงตัวอยู่บนกระบี่บินมุ่งตรงมายังเรืออวี่เฟิง

เขาหน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน คลับคล้ายคลับคลาว่าจะบุรุษผู้เลอโฉม

สาวๆ คนไหนเห็นบุรุษรูปงามเช่นนี้ คงใจเต้นโครมครามเป็นแน่แท้

หลี่หลิงซู่รึ? สวี่หยวนซวงรู้สึกสนอกสนใจในตัวเทพบุตรนิกายสวรรค์ผู้ทรงเสน่ห์ แต่นางไม่มีเวลาชื่นชมรูปลักษณ์อีกฝ่ายนัก จึงกวาดมองรอบๆ ด้วยท่าทีระแวดระวัง

จีเสวียนกับสวี่หยวนไหวก็ทำเหมือนกัน

หลี่หลิงซู่มาถึงแล้ว สวี่ชีอันยังอยู่อีกไกลรึ?

ในเวลานี้ ตงฟางหว่านหรงเอ่ยราบเรียบว่า “ไม่เป็นไร ท่านสกุลสวี่ยังไม่มา”

ทั้งสามคนแสดงความโล่งใจ จีเสวียนแย้มยิ้มขมขื่น บ่งบอกว่าสวี่ชีอันทำให้เขากลัว

ตงฟางหว่านหรงไม่สนใจทั้งสาม สืบเท้าตรงไปหาหลี่หลิงซู่ มองเขาด้วยสายตาเย็นชา

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

หลี่หลิงซู่กระโดดลงจากกระบี่บิน เมียงมองใบหน้าลูกท้อดูน่ารักของนาง แล้วเขาเอ่ยอย่างเริงร่า

“มาพบแม่นางที่ข้าถวิลหาตลอดเวลา”

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ

“ข้ารู้ ข้าไม่มีสิทธิ์พูดเช่นนั้น เพราะข้าไม่เคยเอ่ยลา มักทอดทิ้งพี่ชิงของเจ้าเสมอมา”

ใบหน้าทรงเสน่ห์ของตงฟางหว่านหรงเหมือนฉาบด้วยน้ำค้าง

“หลี่หลิงซู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดคำหวานลวงหลอกเหล่านี้แล้ว

“เพราะข้าชอบเจ้า ถึงอยากให้เจ้าได้ยินคำพูดเหล่านี้”

“ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะไปกับสวี่ชีอัน ทอดทิ้งข้ากับน้องชิง พวกเราสองพี่น้องจึงไม่ขอเกี่ยวข้องกับเจ้าอีก ความขุ่นข้องหมองใจ ขอตัดขาดแล้วสิ้น เจ้าไม่ต้องมาหาข้าอีก”

หลี่หลิงซู่สะดุ้งเล็กน้อย สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นซับซ้อนเศร้าสลด ผิดหวัง อาลัยอาวรณ์ เปรียบเหมือนชายผู้น่าเวทนาที่ผิดหวังในรัก

“พี่หรง ข้าขอโทษ…”

ตงฟางหว่านหรงหัวเราะเย้ยหยัน

“ที่เจ้าพูด ทำให้เจ็บปวดดั่งคมมีดแทงเสียจริง ให้ข้าขณะนี้ รู้ตัวว่าตนสูญเสียสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิต” เขากล่าว

ตงฟางหว่านหรงปราดมองเขาแวบเดียว เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา “รีบออกไป อย่ามาเกะกะที่แห่งนี้ มิเช่นนั้น อย่าหาว่าข้าไม่นึกถึงความรู้สึกเก่าๆ” ขณะเอ่ย นางก็คว้ากริชที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมา

หลี่หลิงซู่ส่ายหน้าเบาๆ

“ช่วงปีหลังมานี้ ข้ารู้สึกว่าความรักของเจ้ากับพี่ชิงถลำลึกเกินไป ทำให้ข้าไม่รู้สึกถึงความสุขเลยแม้แต่น้อย กระทั่งตอนปวดเอว

“สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่เหตุผลที่ข้าทิ้งพวกเจ้า ข้ามาหาใช่เพื่อขอให้เจ้าอภัยหรือแก้ต่างให้ตนเองไม่

“ข้าเป็นห่วงเจ้า”

เมื่อเห็นตงฟางหว่านหรงสีหน้าเย็นชา เขาพลันรู้สึกอกหักจนเกลียดชัง จึงชี้จีเสวียนและคนอื่นๆ เอ่ยด้วยความโกรธเคือง

“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าสวี่ชีอันน่ากลัวเพียงใด เจ้าก็รู้ว่าตอนสวี่ชีอันอยู่นอกเมืองยงโจว ทำให้คนกลุ่มนั้นวิ่งหนีจนเกราะหลุดลุ่ย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

“เหตุใดเจ้ากับพี่ชิงยังยื่นมือเข้ามายุ่ง การบำเพ็ญอย่างพวกเจ้ารึ แม้แต่ขนเส้นเดียวของสวี่ชีอันก็ไม่สะทกสะท้านหรอก”

ตงฟางหว่านหรงเย้ยหยัน “แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

หลี่หลิงซู่เอ่ยเสียงดัง

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า แต่ถ้าเจ้ายืนกรานจะอยู่ที่นี่แม้ตัวข้าตาย ก็จะพาเจ้าไปด้วย ข้าไม่ได้หวังให้เจ้ากับพี่ชิงตายเปล่า”

“เจ้าทำเองเลยสิ”

‘เอ่อ…’ หลี่หลิงซู่เงียบชั่วขณะ ก่อนยิ้มกลบเกลื่อน

“พี่หรง เจ้าไม่รักข้าแล้วจริงๆ…”

เขาเอ่ยลาทั้งน้ำตา

คล้อยหลังหลี่หลิงซู่ขี่กระบี่จากไป ตงฟางหว่านหรงนิ่งเงียบเป็นเวลานาน

“ไยจึงไม่ฆ่าเขาเล่า?”

ภายในหัว มีเสียงน่าหลันเทียนลู่ดังขึ้น

ตงฟางหว่านหรงส่ายหน้าเล็กน้อย “เขาเป็นเทพบุตรนิกายสวรรค์ การฆ่าเขาอาจกระตุ้นความแค้นจากนิกายสวรรค์เปล่าๆ ข้าไม่อยากสร้างศัตรูให้อาจารย์”

น่าหลันเทียนลู่หัวเราะ

“เจ้ายังรักเขาอยู่ ถ้าข้าไม่บังคับให้เจ้าฆ่าเขาเมื่อครู่ เจ้าคงไม่รีบไล่เขาไป”

“หว่านหรง รักนั้นไม่ยืนยาวนัก แม้พวกเราไม่ใช่ชาวนิกายสวรรค์ แต่กระนั้นก็ต้องตระหนักรู้การตัดอารมณ์ความรู้สึกอย่างเหมาะสมเช่นกัน ใช้ความรู้สึกมากเกินไป อารมณ์จะควบคุมเจ้าได้ง่ายดาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง