ทุกคนต่างก็อยากรู้เช่นกันว่านาฬิกาเรือนนี้ของหวังตงเสวี่ยเป็นของจริงหรือของปลอม
ถ้านาฬิกาที่สวยขนาดนี้เป็นของปลอม พวกเขาก็อยากซื้อสักเรือนเช่นกัน
หวังตงเสวี่ยลำบากใจเล็กน้อย แต่เธอก็ถอดออกมา นี่เป็นของขวัญที่ฉินจุนมอบให้ แล้วยังเคยช่วยชีวิตเธอไว้ด้วย
ดังนั้นไม่ว่านาฬิกาเรือนนี้จะของจริงหรือของปลอม เธอก็ชอบมันมาก และไม่รังเกียจมันสักนิด
แน่นอนว่าฉินจุนก็ไม่ได้สนใจอะไร นาฬิกาที่เขาซื้อเองกับมือก็ต้องเป็นของจริงอยู่แล้ว
หลังจากที่ส่งนาฬิกาไปให้ เว่ยเจี้ยนจวินก็ผงะไป เหลือบมองที่หน้าปัด และทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา
“โอ้ว ปาเต็กฟิลิปป์เลยเหรอ ฮ่าๆๆ ถ้านาฬิกาเรือนนี้เป็นของจริง คุณก็เป็นเศรษฐีคนเดียวบนโต๊ะของเราเลยนะเนี่ย!”
ปาเต็กฟิลิปป์เป็นเหมือนโรลส์-รอยซ์ของนาฬิกา เป็นนาฬิกาที่หรูหราที่ ถูกที่สุดก็อยู่ที่หลายแสนหยวน เรือนที่สวยหน่อยก็เป็นล้าน
นาฬิกาที่ราคาขนาดนี้มาอยู่ในมือหวังตงเสวี่ยได้อย่างไร
ฟังจากที่ถังโหรวพูด หวังตงเสวี่ยคนนี้เป็นก็เป็นแค่คนจนๆ มาจากชนบท มีชีวิตยากจนมาก เธอจะซื้อนาฬิกาอย่างนี้ได้อย่างไร
ส่วนฉินจุนนั่นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย เป็นแค่คนกระจอกๆ คนหนึ่ง แม้แต่รถก็ยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับนาฬิกา
หลังจากรับปาเต็กฟิลิปป์ของหวังตงเสวี่ยมา หวังเจี้ยนจวินก็ขมวดคิ้วทันที เขาก้มศีรษะลงเพื่อมองใกล้ ๆ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม
ถังโหรวผงะไปครู่หนึ่ง “สามี? เป็นอะไรคะ หรือว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของจริงหรอ?”
เว่ยเจี้ยนจวินทำงานอยู่ในแวดวงธุรกิจเครื่องประดับ เขาต้องรู้จักนาฬิกาที่มีชื่อเสียงอย่างนี้อยู่แล้ว
“ไม่น่าใช่มั้ง…”
นาฬิกาเรือนนี้ดูจากหน้าปัดแล้วน่าจะเป็นของแท้!
แต่นาฬิการาคาแพงขนาดนี้ พวกเขามีปัญญาซื้อได้ยังไง?
เมื่อเว่ยเจี้ยนจวินพูดแบบนี้ ทุกคนก็อยากรู้อยากเห็นทันที หรือว่าไม่ได้เจอกันไม่กี่ปีหวังตงเสวี่ยก็กลายเป็นคุณนายแล้ว?
สามารถใช้นาฬิกาหลายแสนได้แล้ว?
เว่ยเจี้ยนจวินพลิกนาฬิกามาดูดีๆ ก็แค่นหัวเราะออกมา
“ถ้าไม่ดูร่องรอยที่ข้างหลัง ฉันเกือบจะคิดว่ามันเป็นของจริงแล้วนะเนี่ย”
เว่ยเจี้ยนจวินชี้ไปที่น็อตตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของหน้าปัด และพูดว่า
“น็อตตัวนี้ถูกปิดไว้เมื่อนำออกมาขาย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ถูกใครเปลี่ยนชิ้นส่วนภายใน”
“แต่ตอนนี้น็อตที่ปิดไว้ถูกแกะออกมาแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ นาฬิกาเรือนนี้เคยถูกแกะแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้เลยที่ปาเต็กฟิลิปป์ของแท้ใหม่เอี่ยมจะถูกแกะ แม้ว่าจะถูกซ่อม มันก็จะถูกปิดผนึกไว้อีกครั้ง”
“มีเพียงสถานการณ์เดียวเท่านั้นที่จะทำลายตัวซีลนี้ นั่นคือการแกะมันเอง”
“นาฬิกาเรือนนี้เป็นของปลอม”
หลังจากพูดจบ เว่ยเจี้ยนจวินก็คืนนาฬิกาให้
“หวังตงเสวี่ยใครให้นาฬิกาเรือนนี้เหรอ?”
หวังตงเสวี่ยกำลังจะพูด ฉินจุนก็ก็ยอมรับโดยตรง
“ผมให้เอง”
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็คลุมเครือขึ้นมาทันที ต่างก็มองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไร และทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง