หลังจากพูดจบฉินจุนก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าของเท้าซ้ายของนักข่าวหญิง วางกระเทียมกองใหญ่ไว้ในมือแล้วกดลงที่ฝ่าเท้าของนักข่าวหญิง
“ฟ่อ……”
ไม่มีความเจ็บปวดอะไร เพียงแค่รู้สึกเย็นๆ
กระเทียมนี้ไม่ได้ถูกนำออกจากตู้เย็นแต่เป็นกระเทียมที่มีอุณหภูมิห้องอยู่ด้านนอก แต่ไม่คิดว่ามันจะเย็นสบายขนาดนี้เมื่อนำกระเทียมวางบนฝ่าเท้า
ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็ถือว่ามันช่างสบายตัวสุดๆไปเลย
นักข่าวหญิงสาวพิงเก้าอี้แล้วหลับตา
จู่ๆ โอเว่นก็ยิ้มเยาะอีกครั้ง “เธอกำลังทำอะไรอยู่ กำลังนวดงั้นเหรอ? แพทย์แผนจีนนั้นตลกสิ้นดี เธอมีอาการบาดเจ็บที่จมูก แต่ทำการนวดเท้าของเธอ มันจะมีประโยชน์อย่างไรกัน?ที่นี่มีหมอและสื่อมีอยู่มากมายคุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง!
โอเว่นพูดจบนักข่าวผู้หญิงเงยหน้าขึ้นจับจมูกเธอแล้วพูดขึ้นทันที
“หืม? ดูเหมือนเลือดจะไม่ไหลแล้ว!”
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาทีนักข่าวหญิงก็ยืนขึ้นใช้กระดาษเช็ดจมูกของเธอและปรากฏว่าไม่มีเลือดแล้วจริงๆ
ทันใดนั้นนักข่าวทุกคนก็ตกตะลึงและนักข่าวต่างชาติเหล่านี้ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจเช่นกัน
คนไข้มีเลือดกำเดาไหลไม่สามารถรักษาที่จมูกได้ แต่สามารถรักษาจากเท้าได้ แถมยังเป็นวิธีที่ง่ายๆอีกด้วย!
ตัวนักข่าวสาวเองรู้สึกประหลาดใจมาก ต้องได้สัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจความมหัศจรรย์ของแพทย์แผนจีน
ใบหน้าของโอเว่นดูน่าเกลียดเล็กน้อยในเวลานี้ และเขาก็ถอนหายใจอย่างเย็นชา “เขาก็แค่โชคดีเท่านั้น นักข่าวหญิงสาวกินยาของฉันไปเมื่อกี้และผลของยามีความล่าช้า และเพียงเพราะเขาบังเอิญรักษาพร้อมกับที่ยาออกฤทธ์เฉยๆ ”
คำพูดของโอเว่นทำให้ทุกคนต้องหัวเราอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
ช่างเป็นคำอธิบายที่คุ้นเคย
เมื่อชาวต่างชาติได้รับการรักษาอาการเป็นลมครั้งก่อนหน้านั้น และนี่คือสิ่งที่หม่าฮั่นซิงพูดได้พูดไว้ และโอเว่นผู้นี้ก็เย้ยหยันเขาไว้
ตอนนี้เขาก็ใช้เหตุผลแบบเดียวกัน ไม่อายเลยจริงๆ
เมื่อเห็นว่าทุกคนล้อเลียน โอเว่นก็พูดขึ้นทันที
“ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่อ งั้นพวกเรามาทำการทดสอบแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนตะวันตกกันไหมล่ะ?”
เมื่อเสียงของโอเว่นเบาลง นักข่าวทั้งหลายก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และทุกคนก็หยิบกล้องขึ้นมาชี้ไปที่โอเว่นและแพทย์คนอื่นๆทันที
การปะทะกันของการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกเป็นหัวข้อที่ดูสากลมาโดยตลอด ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของตะวันตกหลายคนชอบที่จะท้าทายกับการแพทย์แผนจีนและรู้สึกว่ายาจีนเป็นอะไรที่ไร้สาระ แต่การทดสอบจริงแบบนี้ยังค่อนข้างหายากเลยทีเดียว
เพราะของแบบนี้มันเปรียบเทียบกันยาก ถ้าหาไม่เจอสองคนที่เป็นโรคเดียวกันและแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกต้องทำการรักษาพร้อมกันถึงจะเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อนได้
ไม่งั้นหากคนสองคนรักษาผู้ป่วยหนึ่งรายหมอรายแรกอาจกล่าวได้ว่าผลล่าช้าและทำให้ไม่สามารถตัดสินได้
คราวนี้โอเว่นเป็นตัวแทนของแพทย์แผนตะวันตก ที่จะมาปะลองกับแพทย์แผนจีนที่ถนนแพทย์แผนจีน จนกลายเป็นข่าวใหญ่
หม่าฮันซิงและคนอื่นๆก็ต่างสูดหายใจทันที่ เมื่อต้องการแข่งขันกับโอเว่น
“คุณบอกมาสิ คุณจะแข่งยังไง?
เสียงเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของโอเว่น “ตอนนี้ฉันมีคนไข้อยู่คู่หนึ่งที่นี่พวกเขาเป็นฝาแฝดและมีอาการเหมือนกัน งั้นเรามาลองใช้พวกเขาสองคนมาเป็นคนไข้ในการแข่งขันกันดีไหม?
หม่าฮั่นซิงขมวดคิ้ว ให้เจ้าฝรั่งคนนี้หาคนไข้มาเอง อาจจะมีบางอย่างที่ยุ่งยากเกิดขึ้นก็ได้ ถ้าผู้ป่วยมีอคติต่อพวกเขา มันจะยุติธรรมได้อย่างไรกัน?
แต่ให้หาคนป่วยที่เป็นฝาแฝด ที่มีอาการคล้ายกันมาในเวลานี้ ก็คงไปหาไม่ได้แน่นอน
ฉินจุนยิ้มเย้ยอีกครั้ง และกล่าวว่า “ในเมื่อคุณต้องการที่จะแข่งละก็ งั้นพวกเราก็จะสู้กันให้ถึงที่สุด”
“ได้สิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง