ผู้รักษาสุดแกร่ง นิยาย บท 282

สรุปบท บทที่ 282 อาจารย์หยางปิง: ผู้รักษาสุดแกร่ง

อ่านสรุป บทที่ 282 อาจารย์หยางปิง จาก ผู้รักษาสุดแกร่ง โดย Internet

บทที่ บทที่ 282 อาจารย์หยางปิง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง ผู้รักษาสุดแกร่ง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ดังนั้นถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกระทบที่ยังต้องจัดการหลังจากนั้นอีก

ถ้าหากคุณน้าหยางปิงยอมช่วย ก็คงไม่มีปัญหาอะไร

ซูเหวินฉีรู้จักน้าหยางปิงตั้งแต่สมัยที่เพิ่งเดบิวต์ใหม่ๆ เธอก็คงจะไว้หน้ากันอยู่บ้าง

ทั้งสองคนขับรถมาถึงชานเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ห่างไกลมาก ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นชนบทของตงไห่ บริเวณรอบๆนั้นรายล้อมไปด้วยทุ่งนา

ด้านในมีคฤหาสน์อยู่หนึ่งหลัง ตกแต่งได้สวยมาก ถึงจะอยู่ในชนบทแต่มีสไตล์มาก ที่ลานประดับด้วยรั้วไม้ ด้านนอกมีดอกไม้และต้นไม้ ในสวนก็มีผักปลูกอยู่บ้าง เหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุที่จะใช้ชีวิตเกษียณที่นี่

ขณะที่รถขับมาถึงที่ประตู ซูเหวินฉีก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นรถแลนด์โรเวอร์จอดอยู่ที่นั่น

“นั่นมันรถของลู่ฟาน ”

ฉินจุนเอ่ยถาม “ลู่ฟานก็รู้จักผู้อาวุโสท่านนี้ด้วยหรอ ? ”

ซูเหวินฉีพยักหน้า “แม้ว่าลู่ฟานจะได้เดบิวต์ช้า แต่เขาก็มีคอนเนคชั่นที่ค่อนข้างดี แล้วเขาก็มีมิตรภาพที่ดีกับคุณน้าหยางปิงเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มไม่ง่ายซะแล้วหละ ”

ตอนนี้จุดประสงค์ของลู่ฟานชัดเจนมาก ก็คือต้องการจะจัดการซูเหวินฉี กดดันให้เธอจนตรอก จนถึงกับต้องผิดสัญญา ให้ดีที่สุดคือต้องไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในวงการ ในเวลานี้ไม่มีวิธีไหนแล้วนอกจากต้องมาขอร้องเขาเท่านั้น

เพียงแค่ซูเหวินฉีขอร้องเขา ไม่ว่าลู่ฟานคิดจะทำอะไรทีนี้ก็จะสามารถขู่เขาได้แล้ว

ซูเหวินฉีขมวดคิ้วและเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างเคร่งขรึม

หลังจากที่เข้าไปในคฤหาสน์แล้ว ก็มองเห็นหญิงชราผมขาวคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มชาอยู่บนเก้าอี้ และมีผู้ดูแลยืนอยู่ข้างเธอกำลังรินน้ำชาให้ ลู่ฟานนั่งอยู่ด้านข้างกับผู้จัดการของเขา

เมื่อลู่ฟานเห็นซูเหวินฉี ใบหน้าของเธอก็ดูสนุกขึ้นเล็กน้อย เธอรู้ว่าซูเหวินฉีจะต้องมาหาหยางปิง ดังนั้นลู่ฟานจึงได้ชิงมาที่นี่ก่อน

“อาจารย์หยางปิง ! ”

“ซูเหวินฉีมาแล้วหรอ ดีเลย มานั่งเร็วสิ ”

หญิงชรามีท่าทางที่ค่อนข้างใจดี แม้ว่าเธอจะอายุเจ็ดสิบแล้วแต่เธอก็ยังมีแรงมาก

ทุกคนทักทายกันและถามถึงสถานการณ์ในวงการบันเทิงช่วงนี้ ซูเหวินฉีและลู่ฟานพูดคุยกันอย่างสุภาพมาก แม้ว่าเรื่องระหว่างพวกเขาสองคนจะไม่ได้ถูกพูดออกมาตรงๆ แต่หญิงชราก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างนิดหน่อย

แต่ดูเหมือนว่าหยางปิงไม่พร้อมที่จะเข้าข้างใครเลย และไม่พร้อมที่จะเป็นสื่อกลางช่วยปรับความเข้าใจกันระหว่างทั้งสองคนอีกด้วย

คุยกันแบบสบายๆ เหมือนกับคนถามสารทุกข์สุขดิบ

จู่ๆลู่ฟานก็พูดออกมา “อาจารย์หยางปิง ฉันรู้ว่าคุณชอบไม้กฤษณา ก็เลยฝากคนไปซื้อไม้กฤษณาป๋ายฉีสองร้อยปีมา2อัน คุณอยากลองดูไหมคะ ? ”

หยางปิงเลิกคิ้วขึ้นและเริ่มสนใจขึ้นมาทันที

“หืม ? ไม้กฤษณาป๋ายฉีสองร้อยปีหรอ ? มันหาซื้อยากจะตายไป ฉันหามาตั้งนานแล้วก็ยังหาซื้อไม่ได้ ลำบากเธอแล้วหละ เสี่ยวลู่ ”

ลู่ฟานยิ้ม ” ลำบากอะไรกันคะ อาจารย์หยางปิงช่วยฉันมาตั้งมากมายก็ควรจะทำอะไรตอบแทนคุณบ้าง เราไปลองดูกันไหมคะ ? ”

“ดี ไปในห้องกันเถอะ ! ”

หยางปิงชอบไม่กฤษณามาก เมื่อเธอได้ยินว่ามีไม้กฤษณาป๋ายฉีสองร้อยปีที่ของดีและเป็นของหายากมากๆ เธอก็ต้องอยากเห็นเป็นธรรมดา

หลังจากเข้าไปในห้อง หยางปิงเอ่ย

“เสี่ยวลู่ ฉันได้ข่าวว่าช่วงนี้เธอมีเรื่องนิดหน่อย ถ้ามีอะไรอยากให้ฉันช่วยก็บอกมา ฉันแก่ขนาดนี้แล้วอายุก็ไม่น้อยแต่ก็ยังไว้หน้ากันได้อยู่ ”

เมื่อได้ยินหยางปิงพูดออกมาแบบนั้น ลู่ฟานก็ยิ้มออกมาทันที

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณอาจารย์หยางปิงมากๆค่ะ ! ”

พูดจบ เธอก็เหลือบมองซูเหวินฉีด้วยสายตาประชดประชัน

ซูเหวินฉีเริ่มมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนิดหน่อย ถ้าหากหยางปิงเลือกที่จะช่วยเขาขึ้นมาจริงๆ ต่อไปอาชีพนักแสดงของเธอก็จะยากขึ้นมากๆ

ฉินจุนที่ด้านข้างกลับขมวดคิ้ว

แม้ว่าหยางปิงจะเล่นไม้กฤษณามาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นไม้กฤษณาล้ำค่าเช่นนี้ และยังหาซื้อได้ยากอีก

เมื่อฉินจุนดมกลิ่นก็ขมวดคิ้ว เขายื่นมือออกมาแล้วค่อยๆลูบผงที่ได้จากไม้กฤษณา จากนั้นนำมาป้ายบนขอบจมูกเพื่อดมกลิ่น

ทันใดนั้นสีหน้าของลู่ฟานก็เปลี่ยนไปทันที “นายทำอะไรน่ะ อย่าแตะอะไรมั่วๆ ชดใช้ไหวหรือไง ! ”

หยางปิงเองก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อยเช่นกัน เพราะนี่คือไม้กฤษณาป๋ายฉีสองร้อยปีเชียวนะ และการที่ฉินจุนเอามือไปลูบ ถ้าต้องชดใช้คงเป็นเงินไม่น้อยเลย

แน่นอนว่าเรื่องเงินนั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาใหญ่ก็คือมันล้ำค่ามาก เธอไม่อยากจะเสียของชิ้นนี้ไปและยิ่งไม่อยากให้ใครมาทำอะไรมั่วซั่วกับมัน

แต่เธอคิดว่าฉินจุนนั้นเป็นผู้จัดการของซูเหวินฉีก็เลยไว้หน้าเขา และไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่สีหน้าของเธอแสดงออกแล้วว่าไม่พอใจอย่างมาก

ฉินจุนนำสิ่งนั้นมาป้ายบนจมูกเพื่อดมกลิ่น แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วทันที จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วกล่าว

“นี่มันของปลอม ”

เมื่อสิ้นเสียงลง สีหน้าของลู่ฟานก็เปลี่ยนไปทันที

“นายพูดบ้าอะไร นายไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ ! ”

หยางปิงเองก็ขมวดคิ้วทันที “คุณบอกว่านี่เป็นของปลอม ? คุณก็มีความรู้เรื่องไม้กฤษณาหรอ ? ”

ฉินจุนตอบ “รู้บ้างนิดหน่อยครับ ”

“ดี ถ้างั้นบอกฉันหน่อยว่าทำไมถึงบอกว่ามันเป็นของปลอมหละ ”

น้ำเสียงของหยางปิงไม่ค่อยดีหนัก เด็กคนนี้ก็อวดดีเกินไป หยางปิงเธอคลุกคลีกับไม้กฤษณามาหลายปีแล้ว เธอยังไม่กล้าวิจารณ์อะไรเลย เขาเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง จะมีความรู้เรื่องไม้กฤษณาสักแค่ไหนกัน ?

ท่าทีของซูเหวินฉีเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอกระชากฉินจุนเบาๆ เป็นการบอกเขาว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว

จะมาพูดถึงความรู้เรื่องไม้กฤษณากันต่อหน้าอาจารย์หยางปิง แบบนี้ไม่เรียกว่าสอนจระเข้ว่ายน้ำหรอ ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง