เมื่อก่อนก็มีแบบนี้ ดาราดังๆ หลายคนมักจะบูชาอาจารย์เพื่อเรียนศิลปะ แต่พวกเขาไม่มีใครบรรลุเป็นอาจารย์เลย มีแต่พวกโกหก พวกเขาถูกปั้นขึ้นมาเท่านั้น
ฉินจุนเองก็คล้ายๆอยู่นิดหน่อย
เมิ่งเหวินกังขมวดคิ้ว “หุบปาก ! อย่าพูดอะไรไร้สาระ ลูกศิษย์ของอาจารย์น่ะอยู่ทั่วโลก และเราทุกคนล้วนเป็นคนพิเศษ เราพึ่งได้รับการชี้แนะจากอาจารย์สิบวันถึงเดือนครึ่งเท่านั้น แต่ศิษย์พี่นั้นติดตามท่านอาจารย์มาสิบปี ชีวิตของเขาแตกต่างไปจากเราอย่างสิ้นเชิง ”
เมิ่งเหวินกังเคารพฉินจุนมากและเชื่อในความสามารถในการสอนของอาจารย์
แต่คำพูดของผู้ช่วยของเขาก็ได้กระตุ้นความสงสัยบางอย่าง
ศิษย์พี่คงมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างจากคนอื่นสินะ ?
ไม่นาน ฉินจุนและคนอื่นๆ ก็มาถึงสถานีเป่ยจ้านของเมืองหลวง
ที่นี่คือสถานีรถไฟเก่าของเมืองหลวงของจังหวัด ตั้งแต่เปิดรถไฟความเร็วสูง คนก็ไม่ค่อยมาที่นี่แล้วก็กลายเป็นสถานีรถไฟร้างไปโดยปริยาย มีรถไม่กี่คันที่จะผ่านมาที่สถานีนี้่
ผู้บริหารซุน หวังจินไห่ เมิ่งเหวินกังและคนอื่นๆ มาถึง ทั้งสถานีรถไฟก็อยู่ภายใต้การเคอร์ฟิว และเมื่อทุกคนอยู่บนชานชาลา หวังจินไห่กล่าว
“เสอเกอมันฉลาดมาก เหมารถไฟไว้หนึ่งตู้แล้ว และกำลังจะแยกตัวออกจากสถานีเป่ยจ้าน ! ”
สถานีรถไฟสายทางเหนือเป็นเพียงสถานีรถไฟที่กำลังจะถูกทิ้งร้าง สิ่งกีดขวางบนถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ จึงไม่สมบูรณ์นัก ที่เสอเกอทำแบบนี้เขารู้ดีว่าวันหนึ่งเขาจะถูกจับจึงไม่ขึ้นเครื่องบินหรือรถไฟความเร็วสูง แต่เป็นการเหมาตู้รถไฟแทน แล้วเตรียมพุ่งชน !
ทุกคนมองไปที่ชานชาลาที่ธรรมดาแห่งนี้ ถ้ารถไฟวิ่งชน พวกเขาก็จะทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
“หัวหน้า ! หรือเราจะขับข้ามไปขวางกลางทาง
น่าจะสามารถหยุดพวกเขาได้ ”
ฉินจุนส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก ”
เมื่อเห็นฉินจุนปฏิเสธ หวังจินไห่ก็ขมวดคิ้ว “คิดหาวิธีอื่น ”
การขวางรถไฟสำหรับหวังจินไห่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แม้แต่เฮลิคอปเตอร์เขาก็ยังหยุดเอาไว้ได้ นับประสาอะไรกับอีแค่รถไฟ
แต่ปัญหาคือเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ตอนนี้เหลือเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่รถไฟจะวิ่งผ่าน และเขาไม่มีเวลามากพอที่จะเตรียมการ
เลขาหลิวพิจารณาเกี่ยวกับมัน แม้ว่ารถไฟสีเขียวนี้จะไม่เร็วเท่ารถไฟความเร็วสูง แต่ก็เป็นรถไฟโลหะ รางธรรมดาไม่สามารถหยุดได้เลย และอาจหยุดมันไม่ได้ด้วยรถ
“เอาแบบนี้แล้วกัน เราเปลี่ยนรางรถไฟกันเพื่อไม่ให้รถไฟวิ่งไปตามเส้นทางปกติ แล้วไปรอที่ชานชาลาถัดไป ! ”
ฉินจุนยังคงส่ายหัว “ไม่ต้องหรอก ”
เลขาหลิวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
“อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ดี คุณเลือกสักวิธีได้ไหม ? ”
สำหรับเลขาหลิวเขาไม่พอใจฉินจุนเช่นกัน
ผู้บริหารซุน หวังจินไห่และเมิ่งเหวินกังเป็นใคร ? ถูกคุณเรียกมาที่นี่ ตื่นเช้ากลับดึกเพื่อช่วยเขา ในขณะที่คุณยืนอยู่ตรงนี้ไม่ทำอะไรเลย และยืนทำท่าสูงส่งแค่นั้น
หากคุณมีความสามารถจริงๆ อย่าให้หัวหน้ามาช่วยสิ !
หวังจินไห่ขมวดคิ้ว “เลขาหลิว อย่าเสียมารยาท ! ”
เลขาหลิวพูดอย่างเย็นชา “หัวหน้าครับ ผมพูดจริง ทุกคนกำลังช่วยเขา แล้วคุณดูท่าทางของเขาสิ อะไรกัน ? ”
“อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ทำ แล้วตัวเองยังไม่คิดหาวิธีอีก ! ”
ฉินจุนหันศีรษะกลับมา เหลือบมองเลขาหลิวอย่างเย็นชาและกล่าวว่า
“ฉันมีวิธีของฉัน ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ”
เมื่อฉินจุนพูดแบบนั้นออกมา บรรยากาศในที่นั้นก็สงบลงทันที
ซุนเจี้ยนหมินก็เงียบเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง