ผู้รักษาสุดแกร่ง นิยาย บท 531

เมื่อเห็นฉากนี้ อายะรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที แต่เธอไม่มีทางเลือก นอกจากต้องกัดฟันและหลับตาลง เธอทำได้เพียงหวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็วๆ

……

เช้าวันรุ่งขึ้น อายะเห็นรายงานข่าวใหญ่และเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากในทันที

ข้างต้นเป็นข่าวเชิงลบที่เกี่ยวกับไช่ไช่ทั้งหมด

“อุตสาหกรรมไวน์เหลียนเหอได้ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ของซูเปอร์โมเดลไช่ไช่ เหตุผลเฉพาะไม่ชัดเจนและยังไม่มีการตอบสนองใดๆของทั้งสองฝ่ายในขณะนี้”

“ไป๋เวยเทคโนโลยีชีวภาพได้ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ให้กับไช่ไช่”

“บริษัทเครือข่ายอินเทอเน็ตต้าเฉิงได้ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ให้กับไช่ไช่”

“……”

บริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กหลายแห่งได้ยกเลิกการเป็นสปอนเซอร์ของไช่ไช่ทั้งหมด แม้ว่าการสนับสนุนของพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่การถอนตัวดังกล่าวทำให้รูสึกราวกับว่าไช่ไช่ทำอะไรผิดบางอย่าง

เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้น ทุกคนก็เริ่มสงสัย

แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ แต่เรื่องการถอนตัวครั้งนี้ก็ถูกสื่ออื่น ๆ เผยแพร่ออกมา และยังไม่มีใครในทุกๆบริษัทออกมาชี้แจงอะไร

ไม่พูดไม่ปฏิเสธ นั่นก็แปลว่ายอมรับ

คนฉลาดก็จะสามารถรู้ได้ในทันทีว่าซูเปอร์โมเดลคนนี้ ต้องไปทำให้ผู้มีอำนาจบางคนไม่พอใจแน่ๆ แล้วเขาก็ตกเป็นเป้าหมาย บางทีเขาอาจถูกปิดกันเส้นทางนี้ของเขาในอนาคตก็ได้

ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีคนเปิดรูปภาพบนเว่ยป๋อ

ภาพแสดงให้เห็นไช่ไช่ยืนอยู่บนชั้น 3 ของ ภัตตาคารพิพิธภัณฑ์ติ่มซำ ล้อมรอบด้วยขวดไวน์และตู้ไวน์ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น

ในกล้องไม่มีคนอื่นอยู่เลย มีเพียงแค่ไช่ไช่

ภาพนี้ถูกแพร่ออกเพียงรูปเดียว มันก็ดูเหมือนกับว่าไช่ไช่ได้ทำลายตู้ไวน์นี้ด้วยตัวเอง

จากนั้นก็มีข่าวอีกข่าวตามขึ้นมาทันที

“ซูเปอร์โมเดลไช่ไช่เมาไม่มีสติ และพังตู้ไวน์สิบล้านในภัตตาคารพิพิธภัณฑ์ติ่มซำ!”

“ไช่ไช่ทุบตู้ไวน์สิบล้าน และไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้ผู้สนับสนุนถอนทุนออกไปพร้อมๆกัน”

“เมาแล้วสร้างปัญหาแบบนี้ยังจะเรียกว่าเป็นคนดังอีกเหรอ? ควรแบนไปเลยดีไหม?”

“……”

สื่อต่าง ๆ เริ่มรายงานข่าวของไช่ไช่ เผลอแวบเดียวข่าวของไช่ไช่ก็ดังเป็นพลุแตก

อายะมองข่าวด้วยความกังวลเล็กน้อย

“มีคนให้ความสนใจมากมายแบบนี้ มันจะทำให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีกไหม?”

สิ่งดีๆไม่ไปเคยแพร่ออกไป แต่สิ่งเลวร้ายๆนี่มักจะกระจายออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว หลายคนที่ไม่รู้จักไช่ไช่ ตอนนี้พอข่าวไช่ไช่นี้ออกไปอย่างกะทันหัน ทุกคนก็รู้จักเธอกันหมดแล้ว

อาจมีใครบางคนปรากฏตัวขึ้นเพื่อสนับสนุนเธออีกครั้ง ถ้าถึงตอนนั้นมันจะไม่เป็นการพยายามเปล่าเหรอ?

ชายนวดชาวต่างชาติหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกังวล นี่คือวงการนางแบบ และมันก็มีความแตกต่างจากวงการบันเทิงอยู่พอสมควร”

ไม่ว่าข่าวเชิงบวกหรือข่าวเชิงลบในวงการบันเทิงนั้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ศิลปินโด่งดังมากขึ้น ดังนั้นบางบริษัทก็จะสร้างกระแสเชิงลบและจงใจดึงความสนใจจากบล็อกเกอร์ข่าวร้าย

แต่วงการโมเดลนั้นแตกต่างออกไป สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในการเป็นนางแบบคือพรีเซ้นผลิตภัณฑ์ แต่หากข่าวเชิงลบปรากฏขึ้น ก็จะเป็นการยากที่จะได้รับการยอมรับในอนาคตอีก

หากชื่อเสียงของนางแบบไม่ดี ก็จะเกษียณไปโดยปริยาย

อายะพยักหน้า และก็มีร้อยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

ไช่ไช่ อย่าโทษฉันที่โหดร้ายแบบนี้ นี่มันก็คือการแข่งขันทางธุรกิจ

ไม่นานข่าวเหล่านี้ก็มาถึงหูของไช่ไช่ เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเห็นข่าวและคอมเม้นเหล่านั้น ไช่ไช่ก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างพังทลายลงไปหมด

ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นอายะที่เมาและก่อเรื่อง แต่กลับกลายมาเป็นเธอ

และภาพนี้เห็นได้ชัดว่ารูปภาพกับมันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย ในตอนนั้นไช่ไช่เองก็ดื่มและแก้มของเธอก็แดงเล็กน้อยและนั้นมันทำให้เธอดูเหมือนคนกำลังเมาจริงๆ

เธอยืนอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยอายะคิดหาทางออก

“พี่อายะ เดี๋ยวพวกเราไปฉลองที่ไหนกันดี ไปกินข้าวกันไหม?”

“ใช่ๆๆ ขอแสดงความยินดีกับพี่อายะล่วงหน้าเลยนะคะ”

“……”

แม้การแข่งขันจะยังไม่เริ่มต้น แต่ตำแหน่งแชมป์ของอายะก็มั่นคงแล้ว ทุกคนรู้ว่าอายะกำลังจะคว้าแชมป์ หากไม่มีไช่ไช่ ใครจะเทียบอายะได้?

ดังนั้นควรกล่าวคำชมล่วงหน้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอายะไว้ก่อน

อายะยิ้มอย่างแผ่วเบา เพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ได้ถือพระจันทร์ไว้ท่ามกลางหมู่ดาว เมื่อก่อนความรู้สึกแบบนี้เคยเป็นของไช่ไช่ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นของอายะได้ในตอนนี้

อายะเดินไปที่ไช่ไช่ เห็นท่าทางไม่แยแสของเธอ อายะจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“นี่ไม่ใช่ไช่ไช่เหรอ เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ดูเจียมตัวจัง ปกติฉันจำได้ว่าคุณต้องพาคนติดตามมาหลายสิบคนด้วยไม่ใช่เหรอ?”

ไช่ไช่มองบนและเหลือบไปมองอายะที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ทันได้พูดอะไร

คนเนรคุณแบบนี้ พูดกับเธอไปมันจะมีประโยชน์อะไร?

อายะเยาะเย้ย “เป็นอะไรไป ทำไมไม่พูดล่ะ เย็นชาจังเลยนะ เหอะๆ”

หลังจากพูดแล้ว อายะก็นั่งลงบนที่นั่งหลักของห้องแต่งตัว

ห้องแต่งตัวมีพื้นที่จำกัด มีโต๊ะเครื่องแป้งเพียงสี่หรือห้าโต๊ะ ดังนั้นสาว ๆ จำนวนมากจึงต้องแข่งขันกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มีกฎหลังเวทีว่าใครที่มีมีอำนาจกว่าก็จะได้ใช้ก่อน

หลังจากที่ อายะมาถึง เธอก็นั่งตรงบนโต๊ะเครื่องแป้งของไช่ไช่และมองดูเครื่องสำอางราคาแพงและหรูหราบนโต๊ะ อายะถอนหายใจอย่างเย็นชา

“ใครกันช่างไม่มีตาเอาซะเลย เอาของมาวางไว้บนโต๊ะฉันอย่างแบบนี้?”

หลังจากพูดจบ อายะก็ปัดมือและผลักเครื่องสำอางบนโต๊ะลงกับไปกองพื้น

เพี้ยง!

เครื่องสำอางทั้งหมดพังหมดเลย