PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด นิยาย บท 32

สรุปบท PLAYBOY : 31: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด

อ่านสรุป PLAYBOY : 31 จาก PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด โดย Cherr

บทที่ PLAYBOY : 31 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Cherr อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Pream Part

.

ฉันนอนหอบหายใจเหมือนวิ่งมาหลายกิโล ลืมตามองร่างสูงใหญ่ที่เดินไม่ใส่กางเกงไปหยิบทิชชู่มาเช็ดสิ่งที่เขาปลดปล่อยไว้บนร่างกายของฉันออกให้จนสะอาด ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างให้ฉัน

ถามว่าทำไมฉันถึงนอนเปลือยเปล่าอยู่แบบนี้ไม่ยอมลุกไปใส่เสื้อผ้าดี ๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อาย แต่ฉันไม่มีแรงจะลุก เซ็กส์เมื่อกี้คริสสุขสมไปรอบเดียว แต่ฉันตั้งสี่ครั้ง...สี่ครั้งภายในเวลาสามสิบห้านาที บอกเลยว่าตอนนี้มือสั่นขาสั่นสุด ๆ อายแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนให้คริสบริการทำความสะอาด รวมถึงติดกระดุมชุดนอนให้อยู่แบบนี้

“เหนื่อยไหม”

“นิดหน่อย” อันที่จริงไม่นิด แต่ในความเหนื่อยนั้นก็มีความสุขอยู่ด้วย ถือว่าทดแทนกันไปก็แล้วกัน

“อีกสิบนาทีเจ็ดโมง ฉันจะไปอุ่นข้าว เธอนอนพักก่อนนะ เจ็ดโมงค่อยออกไป” คริสลูบผมฉันเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก เขาคงรู้ว่าฉันโกหกเขา และดูออกว่าฉันเหนื่อยมากแค่ไหน แน่สิ...ฉันไม่ได้แข็งแกร่งแบบเขานี่

“ขอบคุณนะลูกที่วันนี้ไม่แกล้งพ่ออีก” คริสก้มลงจูบท้องฉันเบา ๆ ทั้งสองข้าง ก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวมาจูบหน้าผากฉันเหมือนกลัวว่าฉันจะอิจฉาลูกยังไงยังงั้น

“ขอบคุณนะพรีม”

“อื้อ”

เมื่อคริสเดินออกไปฉันซุกหน้าลงกับหมอนตัวเองด้วยความกระดากอาย ฉันทำลงไปได้ยังไงนะ ผีตัวไหนเข้าสิง

ถ้าทุกคนคิดว่าตอนที่คริสเข้ามาปลุกฉันแล้วฉันยังไม่ตื่นนั่นคือเรื่องจริง บอกเลยว่าคิดผิดมาก ๆ เพราะฉันตื่นก่อนที่คริสจะตื่นด้วยซ้ำ แต่ที่แกล้งหลับต่อ ยอมตื่นสาย ยอมผิดสัญญาที่บอกว่าจะทำอาหารเองในวันหยุด เพียงเพื่อต้องการจะยั่วเขา

ใช่ ฉันตั้งใจยั่วเขา

คุณคงไม่คิดว่าจู่ ๆ กระดุมที่ติดมาได้ทั้งคืนจะหลุดออกกะทันหันในตอนเช้าหรอกนะ ฉันปลดมันเอง และตั้งใจให้คริสเห็น ฉันรู้ว่าเขาต้องการ แต่เขาเกรงใจฉัน และฉันเองก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากชวนเขาก่อน สุดท้ายก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา

และมันก็ได้ผล คริสตบะแตกจนจับฉันฟัดไปทั้งตัว

ฉันรู้ดีว่าเซ็กส์ไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเซ็กส์คือปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตคู่ให้ดำเนินต่อไปได้อย่างสงบสุข เราแต่งงานกันแล้ว มีลูกแล้วด้วย ฉันเลยไม่คิดที่จะมานั่งหวงตัวไม่ให้สามีแตะ ฉันพร้อมจะยอมเขา เพียงแค่เขาร้องขอเท่านั้น เพราะฉันไม่มีทางเรียกร้องเองเด็ดขาด ความเป็นกุลสตรีที่มีอยู่จาง ๆ ในสายเลือดทำให้ฉันยังหน้าบางอยู่ ถ้าไม่ใช่ตอนที่อารมณ์อย่างว่าครอบงำคงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นแน่นอน ได้แต่แอบยั่วโดยที่เขาไม่รู้ตัวแบบนี้

ฉันลุกขึ้นเมื่อถึงเวลา ขาของฉันยังสั่นอยู่เล็กน้อย ตรงนั้นก็รู้สึกเหมือนยังมีของ ๆ คริสคาอยู่ ฉันรีบเดินเข้าห้องน้ำทำความสะอาดจุดเร้นลับ เผื่อว่าความรู้สึกนั้นจะหายไปบ้าง แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร

เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันเลยเดินขัด ๆ ไปทั้งวัน เมื่อไหร่จะชินนะ...

.

.

สัปดาห์ที่ 21

.

โรงพยาบาล

“เห็นเพศน้องคนขวาแล้วค่ะ” เสียงของหมอทำให้ฉันและคริสรีบหันไปมองด้วยความตื่นเต้น วันนี้หมอนัดมาตรวจตามปกติ ฉันท้องได้ห้าเดือนเศษแล้ว ท้องฉันใหญ่ขึ้น และแรงดิ้นจากเด็กทั้งสองฝั่งก็ชัดขึ้นจนคนเป็นพ่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ว่างเป็นไม่ได้ต้องมานั่งจับ นั่งจูบท้องให้ฉันใจสั่นเล่นตลอด คริสตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้ที่สุด เพราะเขาอยากรู้เพศลูกอีกคนใจจะขาด อยากเห็นการเจริญเติบโตของลูก รวมถึงจะได้รูปอัลตร้าซาวด์อันใหม่ด้วย

เห่อไม่มีใครเกินจริง ๆ

“ผู้หญิงหรือผู้ชายครับหมอ”

“คนขวาที่ตัวโตกว่าเป็นผู้หญิงนะคะ” คุณหมอมิเชลหันมาส่งยิ้มกว้างให้ฉันและคริส “ท้องแรกได้แฝด แถมได้ชายหญิงอีก วิธีธรรมชาติด้วย โชคดีสุด ๆ เลยค่ะ”

ฉันยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ท้องเดียวได้คุ้มทุกอย่าง ทั้งแฝด ทั้งสองเพศ แต่ก็แอบเขิน ๆ นิดหน่อยที่หมอพูดเรื่องวิธีธรรมชาติ น้อยคนที่จะรู้ว่าความจริงแล้วที่ได้ลูกแฝดมานี้ เป็นเพราะคุณภาพถุงยางที่รองรับความร้อนแรงของคริสไม่ไหว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยกเครดิตที่ทำให้ได้ลูกแฝดกับใครดี ถุงยางที่รั่ว ร่างกายฉันที่พรั่งพร้อมสำหรับมีบุตร หรือสเปิร์มของคริสที่แข็งแรงสุด ๆ

เรื่องแบบนี้ตอนแรกมันลำบากใจที่จะนึกถึง แต่พอเข้าใจกันแล้วและเริ่มใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนครอบครัวอื่นเราก็เริ่มทำใจได้ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราเริ่มพูดถึงเรื่องในวันนั้นกันได้ปกติ มันไม่ได้มีความเจ็บปวดหรือคำว่าผิดพลาดผุดขึ้นมาเวลาที่นึกถึงอีกแล้ว มันกลับกลายเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ทำให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกสองชีวิต บางครั้งเวลาที่เราพูดถึงเรื่องนั้น เรายังมานั่งเถียงกันแบบขำ ๆ เลยด้วยซ้ำว่าใครแข็งแรงกว่ากันจนได้ลูกแฝดในครั้งเดียว

เมื่อฉันหันไปมองคริส ก็พบว่าคริสเองก็กำลังมองมาแล้วยิ้มกว้างให้ฉันอยู่เหมือนกัน ฉันส่งยิ้มกลับไป คริสยืนอยู่ห่างจากฉันที่นอนอยู่บนเตียงพอสมควร แต่กลับรู้สึกถึงความสุขที่สื่อถึงกันได้อย่างประหลาด อาจจะเพราะสายใยของลูกที่ผูกเราไว้ หรืออาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้น...ฉันเองก็ไม่แน่ใจ

“อะแฮ่ม” เสียงกระแอมของหมอทำให้ฉันหันกลับไปมองเธอ สายตาที่เธอมองมาทำให้ฉันหน้าร้อนขึ้น เมื่อกี้มัวแต่ส่งยิ้มให้กับคริส ลืมไปเลยว่าเราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน “ขอหมอรายงานเรื่องของน้อง ๆ หน่อยนะคะ”

“ค่ะ” ต่อให้ไม่ได้ส่องกระจกฉันก็รู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงมากแน่ ๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถูกแซวเพราะอะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่ได้แย่ แต่น่าอายสุด ๆ

“ความยาวและน้ำหนักของทั้งคู่ปกตินะคะ คนผู้หญิงตัวใหญ่กว่าเหมือนเคย ส่วนคนผู้ชายก็ตัวเล็กกว่า แต่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์อันตราย ไม่ต้องกังวลไปนะ” หมอรีบเอ่ยดักทันที เพียงแค่ครั้งเดียวที่คริสมาหาหมอกับฉัน หมอก็จับได้แล้วว่าคริสขี้กังวลแค่ไหน หมอเลยรีบบอกตัดหน้าเพื่อให้เขาได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะผิดปกติอีก

เมื่ออัลตร้าซาวด์เสร็จเราก็มานั่งฟังหมอเหมือนเคย หมอมิเชลรีบยื่นรูปถ่ายอัลตร้าซาวด์ให้คริสทันทีอย่างรู้หน้าที่ คริสเองก็รีบรับมาพร้อมยิ้มหน้าบาน ดูเพียงแค่ครู่เดียวก็พับเก็บใส่กระเป๋าอย่างถนอมเหมือนครั้งที่แล้ว

“ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากเลยค่ะ น้ำหนัก ความดันของคุณแม่ น้ำตาลในเลือดของคุณแม่ก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ห้ามลืมทานยาที่หมอให้ไปนะคะ เดี๋ยวจะมีปัญหาเอาได้”

“ค่ะ ฉันกินไม่เคยขาด สามีฉันเขาเตือนตลอด” ฉันยกความดีความชอบให้คริสอีกครั้ง ตัวฉันที่มัวแต่ทำงานเพราะโปรเจกต์ที่ทำอยู่ใกล้เสร็จเต็มทน เลยทำให้บางครั้งก็ลืมอะไรที่สำคัญไปบ้าง คริสเลยอาสาดูแลส่วนนี้ให้ เขาเตรียมยาให้ฉันทุกมือ ต่อให้เป็นมื้อกลางวันตอนที่ฉันยังอยู่ที่ทำงานเขาก็ไม่ลืมที่จะโทรมาเตือนให้ฉันกินยาด้วย ถ้าไม่ได้เขาฉันคงลืมตลอด

“มีสามีดีนี่ดีจริง ๆ เลยค่ะ” หมอมิเชลเอ่ยหยอกล้อด้วยดวงตาที่เป็นกระกายระยิบระยับ ก่อนจะเอ่ยถามออกมา “มีอะไรสอบถามไหมคะ”

“ผมอยากถามกำหนดคลอดน่ะครับ ว่าจะเป็นช่วงไหน” คริสรีบถามขึ้นมาทันที เขานับเวลาไว้แล้วแหละว่าฉันควรคลอดตอนไหน แต่เขาก็ยังต้องการคำยืนยันจาหมอให้มั่นใจ

ก๊อก ก๊อก

“เข้ามาเลยครับ....อ้าว พิมมี่”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะบอส ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินเองได้” นิโคลัสก็เป็นอีกคนที่ดูจะห่วงเหลือเกินว่าฉันจะเดินไม่ไหว ฉันรีบยกมือห้ามก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของหนุ่มตาฟ้าด้วยตัวเอง

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ฉันเอาแบบไฟนอลมาให้ค่ะ” ฉันยื่นแฟ้มให้นิโคลัส แฟ้มนี้เป็นแบบเสื้อผ้าที่ฉันแก้จากแบบเดิมที่มันยังมีจุดบกพร่องอยู่ จริง ๆ แล้วงานมันดำเนินไปได้ค่อนข้างช้า เพราะระหว่างที่แก้แบบนี้ฉันต้องออกแบบคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงรวมถึงคอลเลคชั่นหน้าหนาวให้นิโคลัสร่วมกับดีไซน์เนอร์คนอื่น ๆ ไปด้วย โชคดีที่งานชิ้นนั้นผ่านไปได้ด้วยดีและผลตอบรับดีเกินกว่าที่คิดไว้ด้วยซ้ำ ฉันจึงเริ่มกลับมาลุยงานของตัวเองต่อ

นิโคลัสรับแฟ้มไปเปิดดู เขาพยักหน้าเรื่อย ๆ เวลาที่ได้เห็นแบบที่ฉันออกแบบ และเมื่อถึงหน้าสุดท้ายเขาก็ยิ้มกว้าง

“ผมซื้อ” ดวงตาของนิโคลัสเป็นประกายระยิบระยับ “คอลเลคชั่นหน้าร้อนนี้จะเปิดที่ออสเตรียเลียปลายพฤศจิกายน คุณสะดวกหรือเปล่า เพราะผมมั่นใจว่างานชิ้นนี้จะทำให้คุณแจ้งเกิดได้แน่นอน”

“ฉันไม่ได้หวังขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันตอบจากใจจริง ไม่ได้หวังมีชื่อเสียงขนาดนั้น แต่ก็หวังว่าจะมีคนถูกใจงานของฉันเหมือนที่นิโคลัสถูกใจอยู่บ้าง “ฉันคลอดสิงหานี้ค่ะ มีเวลาฟื้นฟูร่างกายสามเดือน คิดว่าไหวค่ะ”

“สามเดือน น้อยเกินไปหรือเปล่า”

“แค่มีเดินแบบนี่คะ ฉันแค่รอเดินถือช่อดอกไม้สวย ๆ หลังฟินนาเร่ ไม่ได้หนักอะไรอยู่แล้ว” ฉันเอ่ยยิ้ม ๆ คิดว่าตอนนั้นร่างกายคงเริ่มเข้าที่ ฉันรอนานกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว โอกาสมาถึงก็ต้องรีบคว้าไว้ อยากกลับประเทศไทยแล้วเหมือนกัน

“งั้นก็ตามใจคุณ”

ฉันยิ้ม ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงมือถือของตัวเองดังขึ้น ชื่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอทำให้ฉันขมวดคิ้ว

“แซนดี้”

ฉันคิดไปเองหรือเปล่าที่เมื่อพูดชื่อแซนดี้นิโคลัสดูสนใจมากขึ้น แม้เขาจะไม่ได้แสดงท่าทีมากนัก แต่มันก็ยังสังเกตได้

“ฉันขอตัวก่อนนะคะบอส”

“อืม” นิโคลัสส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ฉัน ฉันค่อย ๆ เดินออกมาจากห้อง ก่อนจะกดรับสายของเพื่อนสนิท

“ว่ายังไงแซนดี้”

‘พิมมี่ ฉัน...’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด