Chris Part
.
“ฉันรักเธอ”
“เรื่อง...จริงเหรอ”
“เรื่องจริง” ผมยืนยันหนักแน่น “ฉันไม่ได้พูดเพื่อให้เธอหายโกรธ ฉันถามตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และคำตอบที่ได้ก็อย่างที่ฉันบอกไป ว่าฉันรักเธอ”
พรีมเงียบไป เธอมองหน้าผมนิ่ง ๆ ผมเองก็มองเธอกลับไม่คิดจะหลบตา ผมรู้ดีว่าทั้งประวัติที่ผ่านมาของผม และเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อคืนอาจจะทำให้พรีมไม่มั่นใจ แต่ผมไม่เคยโกหกความรู้สึกตัวเอง ผมไม่คิดจะพูดคำว่ารักออกไปเพียงเพื่อให้พรีมหายโกรธ แต่ผมพูด เพราะผมรู้ตัวแล้วว่าผมรักเธอจริง ๆ
“เธอยังไม่เชื่อว่าฉันรักเธอก็ไม่เป็นไร แต่อย่าพูดเหมือนไม่หวงฉันแบบนี้ได้ไหม ฉันเสียใจนะรู้ไหม” พอเห็นว่าพรีมเริ่มอ่อนลงผมก็ใช้ลูกอ้อนทันที ผมใช้วิธีนี้อ้อนหม่าม้าเวลาทำให้หม่าม้าโกรธอยู่บ่อย ๆ ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าการพูดด้วยเสียงอ่อน ๆ ทำหน้าตาให้น่าสงสารแบบนี้ ใช้ได้ผลกับหม่าม้าทุกครั้ง รวมถึงพรีมด้วย เพราะตอนนี้พรีมกำลังยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่ตาแดง จมูกแดงจากการร้องไห้ก่อนหน้า แต่เพียงแค่ครู่เดียวเธอก็กลับไปทำหน้านิ่งอีกครั้ง
“แล้วนายจะอธิบายเรื่องผู้หญิงคนนั้นยังไง ฉันเห็นรูปที่นายจูบกับเธอด้วย”
“อย่าใช้คำว่าฉันจูบกับเขาได้ไหม เพราะถ้าเธอเห็นรูปจริง เธอจะรู้ว่าใครจูบใคร”
“ก็...” พรีมเถียงไม่ออก เพราะรูปนั่นมันเห็นได้ชัดว่าผมกำลังเอนหลังพิงพนักพิงโซฟาอยู่ดี ๆ คุณนัญมาจากไหนก็ไม่รู้มาจูบผมซะงั้น ผมไม่ได้ทำอะไรเลย “ฉันไม่รู้หรอก ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี่”
“ใช่ เพราะอย่างนั้นเธอต้องฟังฉันอธิบายก่อน แล้วค่อยตัดสินว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ”
“ก็เล่ามาสิ”
ผมจูงมือพรีมเข้าไปนั่งคุยกันดี ๆ ในบ้าน และจะได้ดูพอใจด้วยเผื่อลูกจะตื่น พรีมยอมตามมาแต่โดยดี เมื่อนั่งเรียบร้อยผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พรีมฟัง ตั้งแต่ที่ผมได้เจอคุณนัญครั้งแรก จนถึงเรื่องจูบ
“แล้วไม่รู้สึกอะไรเหรอที่ถูกจูบ”
“ไม่เลย” ผมส่ายหน้า ก่อนจะขยับเข้าไปกดจูบที่ริมฝีปากนุ่มหนึ่งทีเร็ว ๆ จนพรีมตั้งตัวไม่ทัน “จูบเมียดีกว่าตั้งเยอะ”
“ฉวยโอกาส” พรีมทุบผมไปทีหนึ่ง ก่อนจะถามต่อ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ”
“หลังจากนั้นฉันก็โมโห เดินออกมาจากผับ คุณนัญก็เดินตามมา และขู่เรื่องงานว่าจะทำให้บริษัทของพ่อฉันพัง”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” พรีมตาโต เธอคงไม่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะมีอยู่จริงไม่ใช่แค่ในละคร แต่เธอคงลืมไปว่าละครก็สร้างขึ้นมาจากชีวิตจริงทั้งนั้น
“ขนาดนั้นเลยแหละ ไอ้เนตั้นก็อยู่นะ มันนี่แหละที่ทำให้คุณนัญเลิกวุ่นวายกับฉันได้”
“เธอร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าคุณนัญเธอแค่เมา เลยเผลอทำอะไรโดยที่ไม่ได้กลั่นกรองออกมา” ผมมั่นใจว่าแววตาของตัวแข็งกร้าวขึ้นเมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนั้น “แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดแบบนั้นแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันกำลังคิดว่าคนที่ส่งข้อความมาให้เธอ...คือคุณนัญ” ผมบอกพรีมถึงเรื่องที่กำลังสงสัย ตอนแรกผมสงสัยคนอื่น และผมก็ดันวานให้คุณนัญสืบเรื่องให้อีกด้วย แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองกำลังถูกคุณนัญปั่นหัว หลอกล่อเหมือนผมเป็นคนโง่ ซึ่งผมไม่เถียง เพราะก่อนหน้านี้ผมโง่จริง แต่ตอนนี้ผมจะไม่ยอมให้เธอมาแสดงละครตบตาผมได้อีกแล้ว
“นายมั่นใจได้ยังไง”
“ทุกอย่างมันเหมาะเจาะกันเกินไป ทุกเรื่องเลย” ที่หนักที่สุดคงเป็นตอนที่เธอส่งข้อความมาให้พรีม ในตอนที่ผมออกไปคุยโทรศัพท์กับเธอพอดี จนพรีมมาเจอและเป็นเรื่องใหญ่โตแบบนี้ ไหนจะเรื่องที่เธอแสร้งว่าไม่เคยเล่นเฟซบุ๊คหรืออินสตราแกรมนั่นอีก ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอโกหกทุกอย่าง “แต่เพื่อความมั่นใจฉันจะให้เนตั้นช่วยสืบอีกที ต้องรอให้มันกลับจากเที่ยวกับเหมือนฝันก่อน เธอรอได้ใช่ไหม”
“รออะไร”
“รอสิ่งที่จะยืนยันได้ว่าฉันไม่ได้โกหกเธอไง รอฉันนะ”
"..."
"...นะ"
“อื้ม ฉันจะรอ”
.
.
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
.
'ว่ายังไงนะคะ นี่เฮียคิดว่าโบตั๋น...'
“เฮียขอโทษ” ผมเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายไปตามสายเพราะรู้สึกผิดจริง ๆ โบตั๋นคือคนแรกที่ผมสงสัยว่าเป็นคนที่แอบถ่ายคลิปและส่งข้อความนั้นมาให้พรีม เพราะผมเห็นในอินสตราแกรมว่าเธอเป็นเพื่อนกับลูกสาวเจ้าของโรงแรมนั้น อีกอย่าง... โบตั๋นก็ชอบผมมาก ถึงขั้นประกาศตัวว่ายังไงซักวันผมก็ต้องเป็นของเธอ และตอนงานแต่งงานของผมเธอก็ยังมาป่วนอยู่เลย ผมเลยคิดว่ามันมีโอกาสสูงที่จะเป็นโบตั๋น หลาย ๆ อย่างมันชักจูงให้ผมคิดแบบนั้น
'เฮียคริสคะ ถึงโบตั๋นจะชอบเฮียมาก แต่โบตั๋นก็ไม่ยุ่งกับคนที่แต่งงานแล้วหรอกนะคะ ยิ่งทำแบบนั้นมันก็ยิ่งดูไม่แพง เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรจากชู้อะค่ะ สู้เชิดหน้าแล้วหาผู้ชายคนใหม่ดีกว่า'
“ดูพูดเข้า” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ โบตั๋นเป็นผู้หญิงตรง ๆ แรง ๆ จนบางทีผมยังกลัว แต่ก็มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวไม่น้อย เพราะแบบนี้ผมถึงเกลียดเธอไม่ลง แม้จะรู้ดีว่าครอบครัวของเธอจะไม่ค่อยนิสัยดีเท่าไหร่ก็ตาม
'แต่ถ้าเฮียยังไม่ได้แต่งงาน เฮียก็ไม่มีทางรอดมือโบตั๋นไปได้หรอกนะคะ บอกไว้เลย' ผมรู้สึกเสียวสันหลังทันทีที่ได้ยินแบบนั้น โบตั๋นดูมุ่งมั่นมาก และถ้าเธอคิดจะจับผมจริง ๆ ผมคงไม่มีทางรอด เพราะขนาดตอนโน้นผมยังเผลอกายไปกับเธอนิดหน่อยเลย ยอมรับว่าโบตั๋นเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียและมีเสน่ห์มากจริง ๆ แต่ถ้ามายั่วผมตอนนี้คงไม่ได้ผล เพราะผมมีเมียแล้ว และรักเมียมากด้วย
ผมหัวเราะตัวเองเบา ๆ รู้สึกหมั่นไส้ตัวเองขึ้นมาตงิด ๆ ทีก่อนหน้าล่ะไม่มั่นใจ พอเริ่มมั่นใจในความรู้สึกตัวเองก็พูดคำว่ารักออกมาได้ง่ายขึ้นเหลือเกิน
“เอาเป็นว่าเฮียขอโทษด้วยแล้วกันที่เข้าใจผิดแบบนั้น”
'ก็ได้ค่ะ เห็นว่าเป็นคนเคยรักกันนะคะ' ผมอยากจะเถียงเหลือเกินว่าผมไปรักเธอตอนไหน แต่เพราะผมมีความผิดติดตัวก็เลยได้แต่เงียบ ฟังเสียงเล็ก ๆ นั้นบ่นอีกสองสามประโยคก็วางสายไป ก่อนวางสายเธอยังแสดงความยินดีกับลูกแฝดของผมอีกด้วย ผมสบายใจไปอีกเปราะ เพราะถ้าไม่ได้โทรไปสารภาพเรื่องที่เข้าใจผิดกับเจ้าตัว ผมคงไม่มีทางสู้หน้าโบตั๋นได้ ถึงแม้โบตั๋นจะไม่รู้ตัวมาก่อนก็เถอะว่าผมเผลอเข้าใจผิดเธอไป แต่ถ้าไม่ได้สารภาพผิดและขอโทษ มันคงติดอยู่ในใจผมไปตลอด
ผมเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง พลางนึกถึงสิ่งที่คุยกับเนตั้นเมื่อช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด