หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 462

เธอถูกคำพูดของธนพัตทำเอาตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในใจของพชิราเต็มไปด้วยความกลัว เพราะเธอคบกับธนพัตมานานหลายปี เธอรู้ว่าเรื่องในครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา เกรงว่าเขาคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่

เธอตัวสั่นงันงก กัดริมฝีปากแน่นพลางกลืนน้ำลายลงคอ พชิราพูดขึ้นว่า “บุรินทร์รับปากกับฉัน และยังให้ฉันคิดหาวิธีพาคุณออกไปที่ไกล ๆ แล้วเขาก็เป็นคนหาคนมาลักพาตัวคุณไป”

พชิราเงยหน้าขึ้นมองธนพัต สีหน้าเต็มไปด้วยความประหม่า “ตอนเราสองคนออกไปเที่ยวในครั้งนั้น ที่จริงบุรินทร์ส่งคนมาติดตามพวกเราตลอด ก่อนที่จะหาโอกาสลงมือ”

เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ มือของธนพัตก็กำหมัดแน่นจนส่งเสียงออกมา เขายังคงจำได้ว่าตอนนั้นอารมณ์ของพชิราดูไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่พอเขาถาม เธอก็ยังยืนกรานไม่ยอมพูดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

ต่อมาเธอก็บอกว่าเธออารมณ์ไม่ดี อยากจะออกไปเที่ยวเล่นสักหน่อย แล้วเขาก็ตอบตกลงทันที วันนั้นเขาขับรถพาเธอไปแถวชานเมืองด้วยกัน

แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แผนที่รอให้เขากระโดดไปติดกับดักก็เท่านั้น

เมื่อได้ยินเสียงนั้น สาริศาก้มหน้าลงมองมือของธนพัต ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือตกใจ มือของเขายังคงสั่นเทาเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็เอื้อมมือไปกุมมือเขาเอาไว้

เวลาผ่านไปหลายปี ตอนนี้พึ่งจะมารู้เบื้องหลังความจริงของเรื่องราวทั้งหมด แถมยังถูกคนที่ตัวเองไว้ใจที่สุดในตอนนั้นทรยศและทำร้าย ตอนนี้เขาคงจะรู้สึกแย่มากสินะ

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในมือ ร่างกายของธนพัตที่เอาแต่ตึงเครียดอยู่ตลอดก็ผ่อนคลายลงในที่สุด เมื่อหันไปเห็นความกังวลบนใบหน้าของสาริศา เขาก็รีบสงบอารมณ์ของตัวเองลงทันที ก่อนจะจับมือเธอไว้ พลางแสดงสีหน้าบอกให้เธอวางใจ

เมื่อมองมือสองมือที่จับประสานกันอยู่ตรงหน้า แววตาของออสตินหม่นหมองลงเล็กน้อย ส่วนพชิราที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาพูดกลับมองไม่เห็นการกระทำของทั้งสองคน และยังคงอธิบายเหตุการณ์ในปีนั้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“แล้วเรื่องหลังจากนั้นคุณก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนของบุรินทร์โปะยาสลบให้พวกเราทั้งสองคนก่อน แล้วก็จับเราสองคนมัดผูกติดกันแล้วเอาไปขังไว้ในโกดังร้าง” หลังจากพูดจบ พชิราก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ธนพัตอย่างละอาย แต่กลับไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาเธอจะเป็นมือของทั้งสองที่ประสานกันไว้แน่น

ความหวาดกลัวในแววตาถูกแทนที่ด้วยความหึงหวง พชิราเปลี่ยนอารมณ์ความกลัวเป็นความโกรธ เธอวางแผนมานานกว่าหลายปี คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายกลับถูกคนอื่นแย่งไปซะได้

เมื่อเห็นสีหน้าของพชิราที่เปลี่ยนไป สาริศาก็ตระหนักขึ้นได้ว่าแบบนี้ไม่เหมาะสม จึงรีบร้อนดึงมือออกจากมือของธนพัตที่กุมเอาไว้ หลังจากปรับสีหน้าท่าทางแล้ว สาริศาก็เอ่ยปากถามอีกว่า “เมื่อห้าปีก่อนฉันเคยตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน ข้อมูลที่พบบ่งบอกว่าเธอหนีออกมาจากกองเพลิงเองคนเดียว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เมื่อได้ยินคำถามของสาริศา ความแค้นเคืองในใจของพชิรายิ่งปะทุรุนแรงขึ้น จงใจถามซะละเอียดขนาดนี้ เพราะต้องการทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับธนพัตให้สิ้นซากไปเลยใช่ไหม

แต่เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของธนพัต พชิราก็รู้ทันทีว่าเธอจำเป็นต้องตอบคำถาม “ฉัน ...ตอนนั้นฉันไม่ได้โดนยาสลบ ฉันยังรู้สึกมีสติดี คนที่บุรินทร์หามาพวกนั้นแค่แกล้งมัดฉัน ดังนั้นฉันก็เลยแกะเชือกแล้วก็หนีออกมา"

"แล้วเธอก็ทิ้งธนพัตไว้ที่นั่นคนเดียว!" คำตอบของพชิราทำให้สาริศาทั้งตกใจทั้งโมโห "เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา เธอไม่รู้เหรอว่าการที่ทิ้งเขาไว้ที่นั่นมันอันตรายมากแค่ไหน เธอต้องการจะฆ่าเขาให้ตายชัด ๆ"

เมื่อรับรู้ได้ถึงความโกรธเคืองแทนเขาของคนข้างกาย ในใจของธนพัตก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา เธอโกรธแทนเขาขนาดนี้แสดงว่าในใจของเธอยังมีเขาอยู่ใช่หรือเปล่า?

เมื่อคิดได้แบบนั้น ในใจของธนพัตก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อ 5 ปีก่อนสาริศาเคยบอกเรื่องนี้กับเขา ว่าในตอนนั้นมีความเป็นไปได้ว่าพชิราอาจจะหนีออกจากกองเพลิงเอง แต่ตอนนั้นเขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมเชื่อเธอ แถมยังคิดว่าเธออิจฉาริษยาเลยจงใจพูดแบบนั้นเพื่อจะใส่ร้ายพชิรา

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาเชื่อที่เธอพูด แล้วลองตรวจสอบเรื่องทุกอย่างอย่างละเอียด ป่านนี้ความจริงทุกอย่างคงจะเปิดเผยไปนานแล้ว แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็คงไม่ต้องแยกจากกันนานหลายปีขนาดนี้

"ฉันเปล่า" พชิราปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนก พลางหันไปมองทางธนพัต " ธนพัต คุณเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายคุณจริง ๆ บุรินทร์ต่างหาก ฉันไม่คิดว่าเขาจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนั้น ตอนที่ฉันกำลังจะหนีฉันช่วยแกะเชือกให้คุณแล้ว ฉันกลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย ฉันไม่ได้อยากให้คุณตายจริง ๆ นะ!"

"ในเมื่อจุดประสงค์ของพวกเธอแค่ต้องการจะทำร้ายฉัน แล้วทำไมเธอจะต้องแกล้งตายแล้วหนีไปต่างประเทศด้วย?" ธนพัตไม่อยากฟังคำอธิบายไร้ประโยชน์พวกนี้ของพชิรา ธนพัตเพียงแค่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"ฉัน...ฉัน..." พชิรามองไปรอบ ๆ เอาแต่อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก

"ทำไม!" ธนพัตขึ้นเสียงสูง บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทำเอาเธอแทบหายใจไม่ออก

"เป็นเพราะบุรินทร์!" เธอตกใจกลัวธนพัตมาก พชิราจึงโยนความผิดทุกอย่างไปให้บุรินทร์ทั้งหมด "บุรินทร์กลัวว่าเรื่องนี้จะถูกตามสอบสวน ก็เลยให้ฉันแกล้งตายแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ เขา...เขายังให้เงินปิดปากฉันจำนวนมหาศาล แล้วสั่งให้ฉันไม่ให้กลับมาที่นี่อีกตลอดชีวิต"

หลังจากพูดจบพชิราก็รู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหน้าธนพัต ตอนนั้นเพื่อที่จะให้บุรินทร์ยอมตอบตกลงรับปากเธอให้เร็วที่สุด เธอถึงกับเป็นฝ่ายยื่นเงื่อนไขว่าหลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบลงเธอจะแกล้งตายแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้คนตามสืบเรื่องนี้

แถมเธอยังใช้เรื่องนี้แบล็คเมล์หลอกเอาเงินจากบุรินทร์เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แค่เงินที่ตระกูลกีรติเมธานนท์ให้มาไถ่ตัวธนพัตเท่านั้นที่ตกเป็นของเธอ เธอยังให้บุรินทร์ล้วงกระเป๋าตัวเองเอาเงินให้เธออีกหลายสิบล้าน เงินจำนวนมากขนาดนั้น เพียงพอที่เธอจะใช้ชีวิตหรูหราอยู่ในต่างประเทศไปได้ตลอดชีวิต

"แล้วใครเป็นคนให้เธอกลับมา?" ธนพัตขมวดคิ้วแน่น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เพื่อเงิน เพื่ออำนาจ เพื่อของนอกกายพวกนั้น พวกเขากลับเลือกที่จะพรากชีวิตของเขาได้โดยไม่ลังเลเลย เขารู้สึกสงสารตัวเองในตอนนั้นมากจริง ๆ

"ฉันกลับมาเพราะคุณ" พชิราพูดทั้งน้ำตา "ธนพัต หลังจากไปต่างประเทศฉันถึงได้รู้ว่าคุณสำคัญกับฉันมากแค่ไหน ฉันลืมคุณไม่ได้ และละทิ้งความรู้สึกระหว่างเราสองคนไม่ได้ หลายปีมานี้ฉันคอยติดตามเรื่องของคุณอยู่ตลอด ต่อมาพอฉันรู้ว่าคุณแต่งงาน ฉันก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป"

พูดจบพชิราก็เอื้อมมือไปหาธนพัต แต่ธนพัตกลับเบี่ยงตัวหลบ การกระทำนี้ทำให้พชิราร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม "ธนพัต ฉันรักคุณจริง ๆ ผ่านมานานหลายปี แต่ในใจของฉันก็ยังมีแค่คุณคนเดียว ฉันรักคุณมากกว่าสาริศาเป็นร้อยเท่าพันเท่า ถ้าไม่มีคุณฉันอยู่ไม่ได้จริง ๆ"

เมื่อรู้สึกว่ามือของตัวเองเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง พชิราก็ควบคุมลากเก้าอี้ไถลเข้าไปหยุดตรงหน้าธนพัต เธอแทบอยากจะกระโจนเข้าหาเขาอย่างอดไม่ไหว

"ธนพัต ธนพัตเราสองคนโตมาด้วยกัน ไม่มีใครที่รู้จักคุณดีไปกว่าฉัน และไม่มีใครที่เหมาะสมกับคุณเท่าฉัน พวกเรากลับมาคบกันใหม่ได้ไหม? พวกเราจะต้องมีความสุขมากแน่ เมื่อก่อนตอนเราคบกันก็มีความสุขมาก คุณแต่งงานกับฉันได้ไหม? ฉันจะ..."

"พอแล้ว!" เขาผลักพชิราออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกขยะแขยง "พชิรา เธอทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ