ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง นิยาย บท 14

ผู้ที่เต็มใจช่วยเหลืออาชญากรคนหนึ่ง เมิ่งหว่านชูไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้อีก นอกจากพวกตระกูลหลี

แต่ใครจะรู้เล่าว่า สุดท้ายแล้ว ที่พวกเขาให้การช่วยเหลือก็เพื่อฆ่าคนปิดปาก!

เธอควรจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าสันดานของตระกูลหลีก็เหมือนอสรพิษ การฆ่าคนเพื่อทำลายหลักฐานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

คราวนี้จบกัน ไม่เพียงเธอทำเบาะแสชิ้นสุดท้ายหลุดลอยไป ตระกูลหลียังรับรู้ว่ามีการสืบหาผู้กระทำความผิด หากตระกูลหลีรู้ว่าเธอรู้ความจริงแล้ว ศพรายต่อไป มิต้องเป็นเธอหรอกหรือ  

สิ่งที่ได้รับรู้อย่างกะทันหันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง และเป็นเวลานานกว่าหัวใจที่ตื่นเต้นนี้จะสงบลงได้

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอทำได้เพียงอดทนไว้อย่างเงียบๆ จะให้พ่อแม่บุญธรรมรู้ไม่ได้เด็ดขาด

หลังจากหยุดพักผ่อนสามวัน เธอก็กลับไปทำงานต่อ

เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของตระกูลหลี นอกจากไปหาแม่บุญธรรมที่โรงพยาบาลทุกวันแล้ว เธอยังพยายามไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคนตระกูลหลีอีกด้วย

ในขณะเดียวกันก็ปฏิบัติตาม ‘คำแนะนำของแพทย์’ อย่างเคร่งครัด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนและพักผ่อนอย่างเหมาะสม

แต่ในทางลับ เธอควักเงินจำนวนหนึ่งหาหน่วยงานนักสืบเอกชนอีกครั้งเพื่อสืบเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพ่อแม่บุญธรรม

หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างเงียบสงบ

เธอหาเวลาไปโรงพยาบาลเพื่อ ‘ตรวจซ้ำ’ โดยผลออกมาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์หาฉิงมั่วหันหลังจากที่เมิ่งหว่านชูออกไปแล้ว “คุณชายฉิงคะ คุณเมิ่งได้ตรวจอัลตราซาวนด์แล้ว ทารกอายุกว่าสองเดือนในครรภ์มีพัฒนาการที่ดีมากค่ะ"

“เธอไม่ได้มีภาวะแท้งคุกคามหรอกหรือ ช่วงนี้เธอยังไปส่งอาหารทุกวัน ไม่กระทบกระเทือนบ้างเลยหรือไง” ฉิงมั่วหันเอ่ยถาม

“คุณเมิ่งอาศัยอยู่ในชนบทมาตั้งแต่เล็ก ร่างกายค่อนข้างแข็งแรงค่ะ เธอไม่ได้บอบบางเหมือนสตรีมีครรภ์ทั่วไป”

“เข้าใจแล้ว”

เดิมเขาคิดว่าความวุ่นวายในแต่ละวันของเมิ่งหว่านชูจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตรแบบนี้

คลับเยว่เซ่อ

เมื่อฟ้ามืดลง จำนวนคนในคลับค่อยๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้แสงสี บรรดาหนุ่มสาวที่เหนื่อยล้าจากความกดดันในหน้าที่การงานก็ปลดปล่อยอย่างเต็มที่ บ้างก็เต้นรำบนฟลอร์ บ้างก็ร่ำสุราอยู่บนโต๊ะ

เมิ่งหว่านชูอดจะถอนหายใจไม่ได้เมื่อเห็นภาพนี้ หากไม่ใช่เพราะตระกูลหลีจงใจทำร้ายพ่อแม่บุญธรรม เวลานี้ เธอคงจะกำเงินในโทรศัพท์มือถือกลับบ้านเกิดแล้วไปเปิดบาร์สักแห่ง หรือไม่ก็ร้านสะดวกซื้อสักที่ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสงบสุข

เวลาประมาณสี่ทุ่ม ขณะที่เมิ่งหว่านชูซ่อนตัวอยู่มุมห้อง วิทยุสื่อสารก็ส่งเสียงดังขึ้น “พี่ชู พี่ชู รีบมาที่ห้องน้ำชายที คุณชายเซียวกำลังตามหาพี่อยู่”

“ห้องน้ำชาย? ไปที่อื่นสิ ฉันเป็นผู้หญิงจะให้ไปทำอะไรห้องน้ำชาย”

เมิ่งหว่านชูกดวิทยุสื่อสารและพูดกรอกเข้าไป

“ไอ้หยา พี่ชู พี่รีบมาเถอะ คุณชายเซียวเจาะจงชื่อพี่ พี่วางใจได้ ในห้องน้ำชายไม่มีคนอยู่ครับ” เฉินจัวรับรู้ถึงความกังวลของเมิ่งหว่านชู

“เซียวเฉิงอีกแล้ว! ได้ๆๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เมื่อพูดจบ เมิ่งหว่านชูก็เหน็บวิทยุสื่อสารเข้าที่เอว และเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

ทันทีที่เธอเดินไปถึงห้องน้ำชาย เพื่อนๆ รปภ. ก็รีบทักทายเธอ “รีบไปดูเร็วๆ คุณชายเซียวกำลังนอนกอดโถส้วมไม่ยอมลุกขึ้นเลย”

“เขาระบุให้เธอมาที่นี่ด้วย”

“ฮ่าๆ พี่ชู พี่ต้องจับเอาไว้นะ ไม่แน่ว่าไก่ป่าจะได้กลายเป็นหงส์แล้ว”

......

เมื่อได้ยินพวกพ้องล้อเลียน เธอเตะเสี่ยวจัวจื่อทันที “นายว่าใครเป็นไก่ป่ายะ”

“อุ๊ยๆๆ ปากผมเนี่ย”

เฉินจัวยิ้มหน้าเจื่อน “พี่ชูเป็นปลาหลีฮื้อกระโดดผ่านประตูมังกรต่างหากล่ะ”

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พวกนายไปทำงานไป ประเดี๋ยวผู้จัดการเห็นเข้าจะหาว่าพวกเราขี้เกียจ” เธอโบกมือไล่เพื่อนๆ ออกไปลาดตระเวนที่บาร์

เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำชาย ห้องน้ำห้องแรกเปิดออก เธอชะเง้อศีรษะและเดินเข้าไป ก็ได้เห็นเซียวเฉิงนั่งอยู่บนโถส้วม อาเจียนใส่ถังขยะไม่หยุด

เซียวเฉิง คุณชายรองตระกูลเซียวแห่งหลานเฉิง แม้ว่าหน้าตาท่าทางจะหล่อเหลาเอาการ แต่กลับเป็นคนไม่มีอะไร ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกผู้ดีที่เหลวไหลและคุณชายจอมเสเพล

เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ ก็จะกลายเป็นเป้าหมายให้ผู้คนหัวเราะเยาะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง