ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 116

เธอเพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์ก็ได้ยินเสียงฉินหรานเฟิงกับจวินเฮ่าเซวียนสองคนกำลังทะเลาะกัน

“เจ้าหนุ่มพอได้แล้วมั้ง ปากบอกว่าเป็นรักแท้ มีแฟนเก่าคนไหนของนายบ้างที่ไม่พูดว่าเป็นรักแท้?”

“นายเองก็พอแค่นี้ได้แล้ว คนที่โสดตั้งแต่กำเนิดอย่างนายจะเข้าใจอะไร? ยังจะรักแรกพบอีก นายมันก็แค่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน ฉันว่านายยกเธอให้ฉันดีกว่า”

“ต้องยกให้นาย นายลองถามหมัดของฉันก่อนไหม”

“เจ้าหนูแกจะเอาจริงใช่ไหม?”

“แน่นอน!”

มองทั้งสองคนตรงหน้าที่ไม่รู้ทะเลาะกันเรื่องอะไร จะต่อยกันอยู่แล้ว มู่ซย่ารีบเอ่ยขึ้นมาทันที “ที่นี่มันโรงพยาบาล พวกนายจะทำอะไร?”

จวินเฮ่าเซวียนกับฉินหรานเฟิงนิ่งไปทั้งคู่ หันไปมองทางประตูลิฟต์

เมื่อเห็นมู่ซย่า ทั้งสองคนเผยสีหน้าตื่นตะลึง

“มู่ซย่า เธอมาได้ไง?” จวินเฮ่าเซวียนรีบเข้ามาต้อนรับทันที ฉินหรานเฟิงก็เดินตามมาติดๆ

มู่ซย่ากำลังจะพูด เยี่ยซือเจวี๋ยก็ชิงพูดตัดหน้าเธอขึ้นมา “บางทีเธออาจมีวิธีรักษา ดังนั้นเลยพาเธอมาลองดู พวกนายสองคนอย่าทำตัวงี่เง่า ถ้าหากว่างมากนักก็กลับบ้านไปนอน”

“ไม่ว่างๆ พวกเรายุ่งจะตาย จริงไหม? เฮ่าเซวียน?”

จวินเฮ่าเซวียนไม่สนใจฉินหรานเฟิงแม้แต่นิดเดียว ถามมู่ซย่าด้วยความสงสัย “เธอรักษาโรคทางจิตเป็นด้วยเหรอ?”

มู่ซย่าพูดอย่างถ่อมตน “ฉันเพียงแค่รู้เกี่ยวกับภาวะเครียดหลังจากได้รับบาดเจ็บอยู่นิดหน่อย ดังนั้นเลยมาลองดู คนไข้พักอยู่ห้องไหนเหรอ?”

หลัวอี้ใช้มือข้างขวาชี้ไปห้องผู้ป่วย “ห้องนี้”

มู่ซย่าก้าวเท้าเข้าไปด้านใน

หลัวอี้มองแผ่นหลังของมู่ซย่า แล้วหยิบมือถือขึ้นมาด้วยนัยน์ตาลึกซึ้งและโทรออก

“อยู่ไหน? รีบมาชั้น13มาดูคนไข้ของเธอด่วน”

สายตาของเยี่ยซือเจวี๋ยมองไปยังหลัวอี้ ขมวดคิ้วถามขึ้นมา “นายเรียกใครมา?”

“เป็นหมอรักษาประจำตัวเขา เป็นนักจิตวิทยาชื่อดังที่ฉันดึงตัวมาจากต่างประเทศอย่างยากลำบาก หมอเจี่ยน”

เยี่ยซือเจวี๋ยเคยได้ยินชื่อเสียงของหมอเจี่ยนอยู่บ้าง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญสูง สืบทอดมาจากสองสามีภรรยาวิลเลียม

สองสามีภรรยาวิลเลียมเป็นแพทย์ทางด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงดังระดับโลก สามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้ แน่นอนว่าต้องเก่งมากจริงๆ

เพียงแต่...

“มู่ซย่ามาดูให้แล้ว นายเรียกเจี่ยนมาทำอะไร?”

หลัวอี้ยักไหล่เล็กน้อย “ก็กลัวว่าเธอจะรักษาคนจนตายไง เลยให้หมอเจี่ยนมาจับตาดูไว้ ฉันจะบอกอะไรให้นายฟัง เจ้าหมอนี่เป็นคนที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา ฝีมือการแพทย์ของเธอพวกเราก็ยังไม่เคยเห็น นายอย่าเห็นว่ามู่ซย่าเป็นเพื่อนของนายแล้วจะจัดการตามความรู้สึกได้ เขาต้องไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”

เยี่ยซือเจวี๋ยใช้สายตาเคร่งขรึมมองไปที่หลัวอี้เล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย

คนอื่นก็ทยอยเดินตามเข้าไปในห้องผู้ป่วย

ภายในห้องผู้ป่วย

มู่ซย่าใช้สายตาตรวจมอง ดมหรือฟังเสียงการตอบสนอง สอบถามอาการ และการจับชีพจรที่เป็นศาสตร์การรักษาของแพทย์แผนจีนโบราณมาตรวจอาการชายหนุ่มบนเตียงที่ตอนนี้ผอมจนเหลือแต่กระดูก

“สติไม่ชัดเจน ดวงตาเลื่อนลอย ชี่ตับไม่สมดุล การไหลเวียนไม่ปกติ ฉันลองส่งเสียงขึ้นมาก็มีอาการกลัวอยู่บ้าง ใจสั่นเป็นต้น เป็นลักษณะของอาการเครียดหลังจากได้รับบาดเจ็บจริงๆ”

จวินเฮ่าเซวียนกับฉินหรานเฟิงที่ยืนด้านข้างรีบตบมือรั่วๆ “ถูกต้อง คุณหนูมู่เธอพูดได้ถูกต้องเป๊ะ”

“นึกไม่ถึง คุณหนูมู่จะมีฝีมือด้านนี้ น่ายกย่องจริงๆ”

หลัวอี้แบะมุมปากอย่างไม่เห็นด้วย เขาเคยบอกแล้วว่าเป็นโรค PTSD โรคเครียดผิดปกติ มู่ซย่าแค่พูดอีกรอบเท่านั้น ไม่มีอะไรน่ายกย่อง?

ตอนนั้นเอง ประตูห้องผู้ป่วยถูกผลักเข้ามา

“หมอเจี่ยน” หลัวอี้รีบเรียกเขาให้เข้ามาและพูดกับมู่ซย่า “นี่คือนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ วิชาการแพทย์ของเจี่ยนได้รับถ่ายทอดมาจากสองสามีภรรยาวิลเลียม”

เมื่อได้ยิน “ชื่อสองสามีภรรยาวิลเลียม” ดวงตาของมู่ซย่าสั่นไหวเล็กน้อย

นั้นไม่ใช่พ่อแม่บุญธรรมของเธอเหรอ?