นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่า เรื่องที่เต็มไปด้วยควันไฟอย่างการทำกับข้าว พอมู่ซย่าเป็นคนทำออกมาแล้ว กลับดูเหมือนเป็นงานศิลปะซะงั้น
คงจะเป็นเพราะว่ามู่ซย่ามีมือที่นิ้วเรียวยาวสวยงามและผิวขาวใสแหละนะ
มู่ซย่าไม่ได้สังเกตว่าเยี่ยซือเจวี๋ยจ้องมองเธอตลอด หลังจากที่เธอจดจ่ออยู่กับปรุงไส้เสร็จ ก็เริ่มใช้ไม้นวดมานวดแผ่นเกี๊ยวต่อ
เมื่อกี้ตอนที่เธอปรุงไส้ก็ใช้อุปกรณ์เอาแป้งที่นวดไว้ไปทำให้มันฟูขึ้นมา ตอนนี้มานวดแผ่นเกี๊ยว ท่าทางก็ชำนาญอย่างมากเช่นกัน
เยี่ยซือเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูด “เธอทำพวกนี้บ่อยๆ เหรอ”
“ก็คงใช่แหละ ตอนที่ฉันอยู่ต่าง…อยู่ชนบท บางทีเบื่อกับข้าวที่บ้าน ก็จะลงมือทำกับข้าวที่มันง่ายๆ เองบ้าง เกี๊ยวถือว่าง่ายที่สุดแล้ว หลังจากห่อเสร็จแค่เอาไปต้มให้สุกก็พอแล้ว”
“อื้ม” เยี่ยซือเจวี๋ยแกล้งทำเป็นไม่ได้สังเกตที่มู่ซย่า “พลั้งปาก” ไปเมื่อกี้ เริ่มที่จะห่อเกี๊ยวเอง
เยี่ยซือเจวี๋ยทำกับข้าวไม่เป็น แต่ห่อเกี๊ยวกลับทำได้ดีมาก รูปร่างที่ทำออกมาก็ถือว่าดี ทรงกลมๆ ไม่นับบางทีที่ทำให้แผ่นเกี๊ยวขาด
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก ห่อเกี๊ยวกันอย่างเงียบๆ แต่เยี่ยซือเจวี๋ยกลับไม่รู้สึกว่าเรื่องจุกจิกแบบนี้จะน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย
แถมยังรู้สึกดื่มด่ำกับช่วงเวลาที่เงียบสงบแบบนี้อีก
ไม่นาน เกี๊ยวที่ห่อเสร็จก็ต้มสุกแล้วเอาออกจากหม้อแล้ว
“งั้นฉันมาลองชิมฝีมือเธอหน่อย” เยี่ยซือเจวี๋ยคีบเกี๊ยวขึ้นมาอันหนึ่งแล้วเอาเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจนัก
แม้ว่ามู่ซย่าจะดูชำนาญเรื่องการปรุงไส้และนวดแผ่นเกี๊ยว แต่สำหรับคนเหนืออย่างเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวอะไรเขาก็เคยชิมมาหมดแล้วทั้งนั้น
อีกอย่างบริษัทอาหารที่อยู่ในเครือของเยี่ยซื่อกรุ๊ปก็เพิ่งจะพัฒนาเกี๊ยวน้ำออกมาหลายประเภท แม้ว่าจะเป็นเกี๊ยวน้ำแช่แข็ง แต่ราคาแพง และรสชาติก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน
เขาเพิ่งจะชิมเกี๊ยวพวกนั้นไป ไม่คิดว่าในประเทศจะมีเกี๊ยวแบบไหนที่สามารถสู้เกี๊ยวของบริษัทอาหารในเครือของเขาได้
เยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แค่อยากจะหาข้ออ้างมาหัวเราะเยาะเธอคืนแค่นั้นเอง
แต่หลังจากที่เขาเอาเกี๊ยวเข้าปากแล้ว น้ำซุปที่เต็มไปด้วยความหอมสดชื่นของผัก และความสดอร่อยของหมูสับนั้นอบอวลอยู่ภายในช่องปาก ประสบการณ์การลิ้มรสที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้นทำให้เยี่ยซือเจวี๋ยยักคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เขามองมู่ซย่าด้วยความตะลึง
วัตถุดิบและการปรุงของเธอนั้นธรรมดามาก เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในห้องครัวของโรงแรม แต่รสชาติที่สดอร่อยขนาดนี้ เขาเพิ่งจะได้ลิ้มชิมครั้งแรกจริงๆ
นัยน์ตาดำของเยี่ยซือเจวี๋ยมีแสงสว่างผ่านไป
มู่ซย่ายังไม่ได้ชิมเกี๊ยว เห็นท่าทางที่เยี่ยซือเจวี๋ยอึ้งไป เธอเองก็อึ้งไปแล้วถามว่า “ไม่อร่อยเหรอ”
“เปล่า” เยี่ยซือเจวี๋ยเคี้ยวอย่างละเอียดแล้วกลืนเกี๊ยวลงไปแล้วค่อยพูด “รสชาติก็ดี ห่อเองก็จะประมาณนี้แหละนะ”
มู่ซย่า “…”
ให้ฟ้าเป็นพยาน เขาช้าอย่างกับเต่า รอเธอห่อเสร็จ เขาห่อไปแค่หกอันเอง
ที่เขากินนั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นเขาที่ห่อเอง
แต่ปากของเยี่ยซือเจวี๋ยก็ไม่เคยพูดอะไรดีๆ ออกมาอยู่แล้ว มู่ซย่ารู้สึกว่า “รสชาติก็ดี” คำประเมินสี่คำนี้ก็ถือว่าเป็นการประเมินที่สูงสำหรับเยี่ยซือเจวี๋ยแล้ว
เธอไม่ได้ถามอะไรอีก ก้มหน้ากินเกี๊ยวอย่างเงียบๆ
แต่หลังจากที่เธอกินไปคำหนึ่งแล้วก้มหน้าไปอีก ก็พบว่าเกี๊ยวสามสิบกว่าอันในจาน ตอนนี้เหลือแค่ครึ่งเดียวเอง
ทางเยี่ยซือเจวี๋ยในปากก็กัดไว้อันหนึ่ง ในถ้วยก็กองกันเป็นภูเขาเล็กๆ ตะเกียบในมือก็ยังคงยื่นไปคีบในจาน
มู่ซย่าคีบมาอันหนึ่งอย่างเงียบๆ จากนั้นก็กลืนลงไป มุมปากก็แอบยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
พระอาทิตย์ขึ้นส่งแสง มู่ซย่าใส่เสื้อผ้าที่เยี่ยซือเจวี๋ยให้คนซื้อมา จากนั้นก็เดินออกมาทางประตูโรงแรม
เธอกำลังจะเรียกรถ แต่รถอเนกประสงค์ที่แพงที่สุดของตระกูลซือถูมาจอดอยู่ต่อหน้าเธอ
คนขับลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เปิดประตูให้เธออย่างนอบน้อม พูดว่า “คุณหนูใหญ่ คุณท่านให้ผมรอคุณอยู่ที่นี่ เชิญขึ้นรถครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!