เยี่ยซือเจวี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เธอแน่ใจนะว่าความปรารถนาของเธอคือสิ่งนี้ ตอนนี้พูดใหม่ก็ยังไม่สาย”
สีหน้าของมู่ซย่าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นายเป็นตะเกียงวิเศษของอะลาดินหรือ ฉันบอกไปแล้วว่าส่งฉันถึงที่นี่ก็พอ”
ทุกคนที่อยู่รอบๆ รวมทั้งมู่ซินเย่ว์และซือถูชิงซานต่างก็มองมู่ซย่าและเยี่ยซือเจวี๋ยอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
ขอทานคนนี้รู้จักกับเยี่ยซือเจวี๋ย?
ดวงตาดำขลับของเยี่ยซือเจวี๋ยจ้องมองมู่ซย่า และในขณะที่เขากำลังจะอ้าปากพูด เสียงที่ระคนไปด้วยความปีติยินดีของคุณท่านซือถูก็ดังขึ้น...
“คุณชายเยี่ย! คุณมาหาผมทำไมถึงไม่โทรมาบอกผมก่อนล่ะครับ ไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ต้องขออภัยด้วยจริงๆ!”
ทันทีที่คุณท่านซือถูพูดจบ เขาจึงตระหนักได้ว่าสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาที่เขาเหมือนกำลังมองดูคนโง่
มู่ซินเย่ว์ถึงกับหลับตาลงแสร้งทำไม่รู้ไม่เห็น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ในที่สุด ซือถูไห่ก็รู้สึกถึงความผิดแปลก เขามองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
ทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับมู่ซย่า คิ้วของเขาขมวดย่นขึ้นทันที
“ซิงซาน ทำไมลูกถึงได้ให้ขอทานเข้ามาในงานวันเกิดล่ะ รีบไล่ออกไปซะ! อย่าให้เป็นมลพิษทางสายตาของคุณชายเยี่ย!”
ซือถูชิงซานใบหน้าค้างแข็ง แต่ในใจกลับรู้สึกยินดี เธอพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่สับสน “พ่อคะ เธอคือ...”
“พ่อ!” มู่ซย่าขัดจังหวะซือถูชิงซาน “พ่อจำหนูไม่ได้หรือคะ หนูซานซานไงคะ”
ซานซานคือชื่อเล่นของเธอ
“ซาน...” ซือถูไห่เลิกคิ้วขึ้น วินาทีต่อมาจึงละล่ำละลักถามออกมา “เธอคือ...มู่ซย่า?”
“หนูเองค่ะพ่อ” มู่ซย่าขยับเดินเข้าไปหา
จากกันไปสิบปี แม้ว่าความทรงจำช่วงวัยเด็กของเธอจะหายไป แต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ซย่า ซือถูไห่ก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
เขากำลังกลัว กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย
มู่ซย่าเองก็สังเกตเห็น แต่เธอยังคงพูดต่อโดยที่น้ำเสียงไม่ได้สะดุด “พ่อคะ ไม่เจอกันนานหลายปี หนูคิดถึงพ่อค่ะ”
ซือถูไห่ตัวแข็งทื่อ เขาบังคับตัวเองให้วางมือไปบนไหล่ของมู่ซย่า “กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดี...แต่ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ คุณชายเยี่ยก็ด้วย ทำไมถึง...ดูไม่ค่อยสะอาดนัก”
คำพูดของซือถูไห่ได้ย้ำเตือนให้ทุกคนได้ตระหนักว่า พวกเขามัวแต่ใส่ใจเยี่ยซือเจวี๋ยจนลืมสังเกตว่าเสื้อผ้าของเขาก็ยับย่นเหมือนคนตกน้ำมา
ซือถูชิงซานมองสลับไปมาระหว่างมู่ซย่าและเยี่ยซือเจวี๋ยอย่างสงสัย
สองคนนี้ คงจะไม่ได้มีอะไรกันใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม ซือถูชิงซานได้ขจัดข้อสงสัยนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว สถานะของเยี่ยซือเจวี๋ยสูงส่งขนาดนั้นจะสนใจมู่ซย่า สาวบ้านนอกที่ทั้งสกปรกและอัปลักษณ์ แถมเนื้อตัวยังเหม็นโฉ่แบบนี้ได้อย่างไรกัน
นอกเสียจากว่า เขาจะตาบอด!
มู่ซินเย่ว์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่อึดอัด จึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณท่านคะ ดูเหมือนคุณชายเยี่ยจะพามู่ซย่ามาส่งค่ะ”
“อย่างนี้เองหรอกหรือ” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่าทีรังเกียจที่มีต่อมู่ซย่าของซือถูไห่จึงลดน้อยลง
ถึงอย่างไร ตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้น มู่ซย่ายังเด็กอยู่เลย ทั้งยังได้ยินมาว่าเธอความจำเสื่อม คงจะจำอะไรไม่ได้หรอก
หากสามารถให้มู่ซย่าเกี่ยวดองกับตระกูลเยี่ยได้...ดีลนี้มีแต่กำไรไม่ขาดทุนแน่นอน!
ซือถูไห่รีบหันไปหาเยี่ยซือเจวี๋ยและส่งยิ้มหวานให้ “คุณชายเยี่ย ที่แท้คุณก็รู้จักกับลูกสาวสุดที่รักของผมนี่เอง! ขอบคุณมากที่มาส่งเธอ หากไม่รังเกียจก็เข้าไปในบ้าน มาทำความสะอาดเนื้อตัว ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ แล้วค่อยกลับไป ดีไหมครับ”
มู่ซินเย่ว์ก็รีบพูดเสริม “ใช่แล้วค่ะ คุณชายเยี่ย พอดีเลย ในบ้านมีเสื้อผ้าใหม่ที่จัดเตรียมไว้ให้แขกอยู่หลายชุด คุณเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยไหมคะ”
เยี่ยซือเจวี๋ยกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ
แต่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างสำอาง การทนใส่เสื้อผ้าที่เปียกน้ำทะเลมาจนถึงตอนนี้ก็ถือเป็นขีดสุดของเขาแล้ว
เมื่อเห็นว่าเยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้ปฏิเสธ ซือถูไห่จึงผายมือทำท่าเชื้อเชิญ พร้อมทั้งสั่งการมู่ซินเย่ว์ด้วยเสียงเบาๆ ทันที “จับมู่ซย่าอาบน้ำแต่งตัวให้ดี”
มู่ซินเย่ว์แต่งงานกับซือถูไห่มาเกือบสิบปีแล้ว เธอสามารถเข้าใจได้ทันทีถึงเบื้องหลังความหมายของคำว่า ‘อาบน้ำแต่งตัวให้ดี’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!
รอคะ จะมาต่อไหมหรือหาอ่านได้ที่ไหนอีกไหมคะ...
ช่วยอาซีด้วย🥺🥺...
ฉินหรานเฟิน ไม่ใช่เอ็ง 55/5/...
ชอบเธอเข้าแล้ววว...
บ้านซือถูนี่เลวในกระดูกจริงๆ...
❤️❤️❤️...