แค่พริบตาเดียวก็เข้าสู่วันที่สองแล้ว เรื่องแรกหลังจากที่มู่ซย่าตื่นขึ้นมาก็คือหันไปมองเยี่ยซือเจวี๋ยที่นอนอยู่ข้างๆ แต่แล้วพื้นที่บนเตียงตรงนั้นกลับว่างเปล่า
เยี่ยซือเจวี๋ยไปไหน
มู่ซย่าตื่นเต็มตาทันที ลุกขึ้นมาตามหาคน เมื่อถามพ่อบ้านแล้วจึงได้รู้ว่าเยี่ยซือเจวี๋ยออกจากบ้านไปบริษัทเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
เธอรู้สึกหัวใจโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ตอบแค่”ออ” เดินกลับห้องไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก
แต่ชั่วพริบตาต่อมา เธอก็มองเห็นกล่องสีดำกำมะหยี่กล่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะในห้องรับแขก ข้างๆกันนั้นยังมีการ์ดที่เขียนตัวอักษรพร้อมลายเซ็นทิ้งเอาไว้
มู่ซย่าคลี่การ์ดออก บนการ์ดเขียนเอาไว้ด้วยลายมือฉวัดเฉวียนว่า “ของขวัญวันแต่งงาน ให้คุณ”
ปลายนิ้วของมู่ซย่าแข็งทื่อ หยิบกล่องกำมะหยี่ขึ้นมา วินาทีที่เปิดออก แสงวิบวับของเพชรที่อยู่บนแหวนได้ส่องประกาย จนทำให้เธอรู้สึกแสบตา
มู่ซย่าแข็งทื่อไปทั้งตัวทันที ในสายตาไม่มีสิ่งอื่น มีแต่แหวนเพชรวงนั้นที่วางนิ่งอยู่ในกล่อง
แค่เยี่ยซือเจวี๋ยมอบร้านอาหารหว่านเย่ว์ให้เธอ ก็เหนือความคาดหมายมากแล้ว
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเยี่ยซือเจวี๋ยจะมอบแหวนเพชรให้เธออีก เพราะว่าการแต่งงานของทั้งสองคนเป็นแค่ในนามเท่านั้น ไม่ใช่การแต่งงานด้วยความรักเหมือนคู่รักทั่วไป
วินาทีนี้ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นสายหนึ่งที่ส่งผ่านบริเวณหน้าอกของเธอไปยังสมอง จากนั้นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
มือที่สั่นเทาของมู่ซย่าหยิบแหวนเพชรวงนั้นออกมา สวมไปที่นิ้วนางข้างขวาของตัวเอง
ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ขนาดกำลังพอดี
มู่ซย่าอดไม่ได้ที่ลูบไล้เพชรที่อยู่บนแหวน บริเวณมุมปากมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัว
ผ่านไปครู่ใหญ่ มู่ซย่าจึงได้สติกลับมาจากความเซอร์ไพรส์
เธอใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าส่งข้อความให้กับเยี่ยซือเจวี๋ย
เนื้อหาในข้อความนั้นง่ายมาก
“ฉันเห็นแหวนแล้ว มันสวยมาก”
แต่เมื่อพิมพ์ตัวอักษรเสร็จแล้ว เธอกลับไม่ยอมกดปุ่มส่งออกสักที
ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำอย่างบอกไม่ถูก
นี่เธอเป็นอะไรไป
ทั้งๆที่สมองของเธอบอกเธอว่า นี่เป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ สักวันเธอก็ต้องแยกจากเยี่ยซือเจวี๋ยอยู่ดี
แต่ในวินาทีที่มองเห็นแหวนเพชร เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ เหมือนจิตใจของเธอจะถูกเติมเต็มไปด้วยแหวนเพชรแล้ว
เธอรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองนั้นจอกแหนที่ลอยเคว้งคว้างอยู่บนผิวน้ำ แต่เมื่อเห็นแหวนเพชร จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าจอกแหนนั้นเกิดรากฝังดินมั่นคงขึ้นมา
ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่า แหวนวงนี้ที่เยี่ยซือเจวี๋ยมอบให้ ทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์และรู้สึกเป็นความจริงขึ้นมา
แต่มู่ซย่าก็รู้ดีว่า เธอกับเยี่ยซือเจวี๋ย......แต่งงานกันปลอมๆเท่านั้น
ในขณะที่มู่ซย่ากำลังลังเลว่าจะส่งข้อความไปดีหรือไม่นั้น เยี่ยซือเจวี๋ยก็ได้ส่งข้อความมาก่อนแล้ว
“ยังไม่ตื่นเหรอ”
มู่ซย่านิ้วแข็งทื่อ รีบลบข้อความเดิมทันที เปลี่ยนเป็นพิมพ์คำว่า “เพิ่งตื่น”
วินาทีต่อมา เยี่ยซือเจวี๋ยก็โทรมาหาเธอโดยตรง
มู่ซย่าไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกแค่ว่ามือถือร้อนผ่าว จนลามไปจึงแก้มของเธอด้วย
เธอกระแอมในลำคอเพื่อปรับเสียง สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล”
ปลายสายมีเสียงของเยี่ยซือเจวี๋ยดังขึ้น ทุ้มต่ำและอบอุ่น “กินอาหารเช้าหรือยัง”
มู่ซย่ากำมือถือไว้แน่นก่อนจะตอบว่า “ยังเลย......”
เยี่ยซือเจวี๋ยตอบรับว่า “อืม” ก่อนจะพูดว่า “ที่บริษัทมีเรื่องด่วนต้องจัดการ พอจัดการธุระที่นี่เสร็จแล้วก็ต้องรีบไปทำงานที่ยุโรป น่าจะใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ถึงจะกลับมา”
มู่ซย่านิ่งอึ้งไป รีบถามขึ้นมาว่า “นายจะไปยุโรปเหรอ กี่โมง”
“อีกครึ่งชั่วโมงจะออกเดินทางไปสนามบินแล้ว”
มู่ซย่าสีหน้าขรึมลง
ครึ่งชั่วโมง......เธอคงไม่ทันไปส่งเขา
“เธอวางใจได้ ฉันแพลนไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องโรงเรียนของเธอ และ......คนที่จะคอยปกป้องเธออย่างลับๆ พวกเขาจะปกป้องเธอไม่ให้เกิดอะไรขึ้นอย่างเด็ดขาด” เยี่ยซือเจวี๋ยพูด แล้วก็เสริมขึ้นมาอีกว่า “ถ้าจัดการงานเสร็จก่อนเวลา ฉันจะรีบกลับมาโดยเร็ว”
มู่ซย่าด่าเขาว่าตาโง่ในใจ
จะไปทำงานยังเอาแต่เป็นห่วงเธอ ไม่เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!