ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 413

มู่ซย่าสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาทันทีแล้วหยิบโทรศัพท์มาดู ชื่อผู้โทรเป็นของฟางอี้หัง นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมฟางอี้หังถึงได้โทรมาหาเธออีก? เห็นว่าเหอเถียนน่าจะหลับไปแล้ว เธอจึงลงจากเตียงไปรับโทรศัพท์ในห้องน้ำ

“ฮัลโหล น้องชาย มีอะไรหรือเปล่า…..”

มู่ซย่ายังไม่ทันพูดจบ อีกฝั่งก็มีเสียงที่ดูกังวลของฟางอี้หังดังขึ้น “ลูกพี่ช่วยด้วย!”

ยังมีเสียงการต่อสู้ที่ตามหลังเสียงของฟางอี้หังมาอีกด้วย

สีหน้าของมู่ซย่าดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที จับมือถือไว้แน่นแล้วถามเสียงทุ้มว่า “พวกนายอยู่ที่ไหน?”

“ร้านอาหารปิดดึกที่อยู่หลังมหาวิทยาลัย”

“ฉันจะรีบไป!” มู่ซย่าวางสายแล้วเตรียมเดินออกจากห้องทันที

และในขณะนี้ เหอเถียนก็ได้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วถามว่า “มู่ซย่า เธอจะไปไหนเหรอ?”

“เกิดเรื่องกับเพื่อนคนหนึ่ง ฉันต้องไปหลังมหาวิทยาลัยสักหน่อย”

“เวลานี้ประตูหอพักได้ปิดลงแล้ว งั้นให้ฉันลงไปกับเธอนะ น้าที่ดูแลหอพักเป็นญาติฉันเอง ฉันจะขอให้เขาช่วยเธอเปิดประตูเอง”

มู่ซย่าหยุดนิ่งสักพักแล้วพยักหน้า “ได้ รบกวนเธอหน่อยนะ”

“ไม่เป็นไร เธอช่วยฉันไว้เยอะขนาดนี้ ฉันยังไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงเลย” เหอเถียนพูดไปด้วยแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที

เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเหอเถียน มู่ซย่าจึงเดินออกจากประตูหอพักหญิงที่เลยเวลาเข้าออกได้อย่างราบรื่น เหอเถียนอยากตามออกไปช่วยด้วยอีกคน แต่มู่ซย่าได้ปฏิเสธทันที

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เธอกลับไปนอนต่อเถอะ หากเช้าแล้วถ้าฉันยังไม่กลับ จำไว้ว่าช่วยฉันลาหน่อยนะ”

“ฟางอี้หัง! นายทำอะไร? !” จวินหรงเซวียนมองฟางอี้หังด้วยความโกรธ

นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังมีเวลาโทรศัพท์อยู่อีกเหรอ?

ฟางอี้หังรีบตอบว่า “ฉันก็โทรหาลูกพี่ไง! ก็นายไม่ให้ฉันโทรบอกคนในตระกูลจวินและไม่ให้บอกคนในบ้านฉัน ยังไงพวกเราก็ควรเรียกกำลังเสริมมาหน่อยไหม?”

จวินหรงเซวียนจ้องฟางอี้หังอย่างหมดคำพูด “เรียกกำลังเสริมงั้นเหรอ? นี่นายคิดว่ามู่ซย่าคือกำลังเสริมงั้นเหรอ? เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง นายนี่มันซื่อบื่อจริงๆ อธิษฐานให้เธอไม่ต้องมาจะดีกว่า!”

มาแล้วจะยิ่งเพิ่มจุดอ่อนให้พวกเขาอีกคน อีกอย่างพวกนั้นก็มีแค่ประมาณสิบคนเอง ตอนนี้พวกเขาก็ได้เอาชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งพวกเขาสองคนจัดการได้ไหวอยู่แล้ว ถ้าหากเรียกคนของตระกูลจวินมา คนของตระกูลจวินจะหาว่าด้านการต่อสู้ของเขามันใช้ไม่ได้ แล้วจะต้องถูกบีบบังคับให้เขาเรียนหนังสือต่ออีกไม่ใช่เหรอ? พอฟางอี้หังได้รับคำเตือนจากจวินหรงเซวียนถึงฉุกคิดได้ว่า ถึงแม้มู่ซย่าจะเจ๋งยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องการต่อยตีกัน ผู้หญิงจะสู้ไหวได้ไง?

มันทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที พอจะโทรกลับไปหามู่ซย่าว่าไม่ต้องมาเด็ดขาด คนพวกนั้นก็ได้เข้ามาในร้านแล้ว