“อะ…อะไรนะ?” ฟางอีหังตกใจสุดขีด
ทว่าเพราะหน้าบวมมาก ทำให้แสดงสีหน้ามากไม่ได้ ดังนั้นจึงถามไปตรงๆ “เพราะอะไรอ่ะ? เมื่อวานนายยังบอกอยู่เลยว่าจะประคบประหงมพี่สะใภ้ในอนาคตของนายแล้วให้เธอช่วยพูดกับพี่นายให้อนุญาตให้นายไปเข้ากรม แล้วทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”
สีหน้าของจวินหรงเซวียนซับซ้อน ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนมา เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้เลย แม้แต่มู่ซย่าก็สู้ไม่ได้ ถึงเข้ากรมไปก็มีแต่ขายหน้าเปล่า
เขาควรเชื่อฟังคนที่บ้านแล้วตั้งใจเรียนไปบริหารธุรกิจที่บ้านต่อไป
จวินหรงเซวียนถอนหายใจ “นายอย่าถามว่าฉันเป็นอะไรเลย แต่ยังไงฉันก็ตัดสินใจแล้ว ว่าจะอยู่ในห้องนี้ต่อแล้วตั้งใจเรียนไปบริหารธุรกิจของตระกูลตามที่ที่บ้านบอก”
“เคๆ ฉันก็ว่าดีเหมือนกันที่นายตัดสินใจแบบนี้ เพราะในกรมมันลำบากเกิน อีกอย่างฉันจะไม่เจอนายอีกตั้งหลายปี แต่ว่านายรู้ไหมว่าจะทำยังไงเพื่อให้อยู่ห้องนี้ต่อไปได้? นายต้องอยู่ในท็อป 20 คนเลยนะ! แล้วคนในห้องนี้ก็มีแต่พวกหัวกะทิทั้งนั้น นายจะสู้ไหวเหรอ?”
จวินหรงเซวียนแน่วแน่มาก “ไหวไม่ไหวก็ต้องลองดู”
ฟางอีหังหันกลับไปยืนเป็นเพื่อนจวินหรงเซวียนโดยไม่พูดอะไรต่อ
ถ้ามีเขาอยู่ด้วย ก็จะตัดคู่แข่งให้กับจวินหรงเซวียนไปหนึ่ง
ใช่ เขาต้องห้ามถูกโอวหยางโม่ไล่ออกก่อนที่จะถึงการสอบประจำเดือน เขาต้องอยู่เป็นที่โหล่ให้จวินหรงเซวียนให้ได้!
ขณะที่พวกเขาทั้งสองยืนจนขาชานั้น ในที่สุดเสียงออดก็ดังขึ้น
โอวหยางโม่เดินออกมาก่อนคนแรก เมื่อเห็นว่าทั้งสองยังคงยืนอยู่ไม่ไปไหน ทำให้รู้สึกแปลกใจเผยสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมา
“อาจารย์ครับ” จวินหรงเซวียนก้าวเข้าไปถาม “พวกผมยืนไปคาบหนึ่งแล้ว คาบต่อไปพวกผมเข้าไปเรียนปกติได้แล้วใช่ไหมครับ?”
สีหน้าของโอวหยางโม่ยิ่งตะลึงใจกระทั่งหันไปมองทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นโดยสัญชาตญาณ เมื่อมั่นใจว่าพระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นจากทางทิศตะวันตก เขาถึงได้หันกลับไปมองจวินหรงเซวียนและฟางอีหัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!
อยากได้หนังสือเป็นเล่มมีขายไหมค่ะ...
รออค้า...
รอนะคะ ขอบคุณที่มาต่อให้นะคะ...
อยากอ่านมาต่อได้ไหมคะ...
รอคะ จะมาต่อไหมหรือหาอ่านได้ที่ไหนอีกไหมคะ...
ช่วยอาซีด้วย🥺🥺...
ฉินหรานเฟิน ไม่ใช่เอ็ง 55/5/...
ชอบเธอเข้าแล้ววว...
บ้านซือถูนี่เลวในกระดูกจริงๆ...
❤️❤️❤️...