“ท่านประธาน เมื่อกี้คุณหนูสวี่คนนี้ก่อเรื่องที่ห้างสรรพสินค้า แล้วยังต้องการไล่ผมกับคุณหนูมู่ซย่าออกมา อ้อใช่แล้ว ผมยังเข้าใจว่า คุณหนูสวี่คนนี้ต้องการแย่งเสื้อผ้าที่คุณหนูมู่ซย่าถูกใจก่อนอีกด้วย…”
คำพูดของผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยทำให้หน้าของสวี่ซิงซิงซีดแล้วซีดอีก
เธอกำมืออย่างสำนึกผิด รีบเร่งอธิบายให้ฉินหรานเฟิงฟัง “ไม่ใช่อย่างนี้นะ…พวกเขาพูดเหลวไหล พวกเขาใส่ร้ายฉัน!”
ฉินหรานเฟิงพูดเยาะเย้ย “เรื่องครั้งนี้เป็นพวกเขาใส่ร้ายเธอ งั้นเรื่องหมาตัวนั้นของครั้งที่แล้ว ก็เป็นคนอื่นใส่ร้ายเธออีกเหรอ”
หน้าผากสวี่ซิงซิงมีเหงื่อเย็นๆออกมา “ฉัน…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว!” ฉินหรานเฟิงตัดบทพูดสวี่ซิงซิงโดยตรง “ฉันเคยพูดอย่าทำเหมือนฉันเป็นคนโง่ แต่นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่อีกแล้ว!ในเมื่อเธอไม่ยอมถอนหมั้น งั้นวันนี้ฉันกลับบ้านจะปรึกษาแม่ของฉันเรื่องถอนหมั้น!”
ถอนหมั้น!
สวี่ซิงซิงถอยหลังสองก้าวด้วยความตกใจ
โดนตระกูลฉินถอนหมั้น แล้วตระกูลใหญ่ที่ไหนจะต้องการเธออีก?
เธอไม่ยอมถอนหมั้น!
สวี่ซิงซิงก็ไม่รู้ว่าเอาความกล้าหาญจากที่ไหนมา ตรงเข้าไปกอดขาของฉินหรานเฟิงแน่นอย่างหุนหันพลันแล่น ร้องไห้และอ้อนวอน “ไม่นะ…คุณชายฉิน ฉันรู้ว่าผิด ครั้งนี้คุณให้อภัยฉันได้ไหม วันหลังฉันรบกวนคุณกับใครอีก ขอร้องคุณอย่าถอนหมั้น…”
ร่องรอยของความอดทนและความเห็นอกเห็นใจครั้งสุดท้ายของฉินหรานเฟิง ได้สิ้นสุดลงเพราะเรื่องนี้
เขามองที่พ่อบ้าน พูดเสียงเย็นชา “แกเป็นคนตายเหรอ ยังไม่รีบโยนคนออกไป?”
พ่อบ้านรีบพาบอดี้การ์ดสองคนมาเอาตัวสวี่ซิงซิงลากออกไป
คนที่โดนลากออกไปด้วยก็คือเพื่อนสาวที่เยี่ยซือเจวี๋ยไม่เคยแม้แต่ชายตามองตั้งแต่ต้นจนจบ
ทั้งสองคนโดนไล่ออกไปอย่างจนตรอก ส่งตรงไปที่รถตระกูลสวี่
ตอนที่สวี่ซิงซิงอยู่บนรถตลอดการเดินทางหน้ามืดไปหมด
เธอคิดไม่ถึง ครั้งนี้นึกว่าจะสามารถสอนบทเรียนที่โหดเหี้ยมให้แก่ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยและมู่ซย่าได้ ผลลัพธ์สุดท้าย ไม่เพียงแต่เธอไม่ได้สอนบทเรียนให้มู่ซย่า ยังโดนฉินหรานเฟิงยกเลิกการหมั้น?
“อา___” สวี่ซิงซิงสุดที่จะทนได้อยู่ในรถกุมหัวตัวเองกรีดร้อง ทำให้เพื่อนสาวและคนขับรถล้วนตกใจจนตัวสั่น
ในห้องรับแขก
มู่ซย่าดูด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นฉินหรานเฟิงไล่สวี่ซิงซิงออกไป ในใจนึกสงสัยทำไมคนๆนี้จู่ๆก็ไล่สวี่ซิงซิงออกไป
แต่ในใจเธอก็รู้สึกมีความสุขมาก
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ดีกับศัตรูของเธอก็คือเพื่อนของมู่ซย่า!
ดังนั้นมู่ซย่าจึงยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วพูด “ เรื่องคราวก่อนขอบคุณคุณมากนะ”
___แม้ว่าครั้งนั้นถ้าไม่มีฉินหรานเฟิงละก็ ใบหน้าของมู่ซย่าอาจถูกทำลายโดยหมาตัวนั้น”
คิ้วของมู่ซย่าโค้ง ฉินหรานเฟิงรู้สึกแค่ว่าโลกนี้กำลังหมุน
เขากำลังจะพูด จวินเฮ่าเซวียนถามอย่างไม่สบอารมณ์ “นายรู้จักกับคุณหนูมู่?
“ใช่ซิ!” ฉินหรานเฟิงพูดเบาๆกับจวินเฮ่าเซวียน “เธอก็คือแม่เทพธิดาคนนั้นที่ฉันบอก ฉันจะจีบเธอ!”
ใบหน้าของจวินเฮ่าเซวียนชั่วขณะก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนกินก้อนอึยังไงอย่างนั้น
ดังนั้นฉินหรานเฟิงเจ้าเด็กนี่ยังเจอมู่ซย่าเร็วกว่าเขาครึ่งเดือน?
จวินเฮ่าเซวียนยิ่งคิดยิ่งไม่สบอารมณ์ สีหน้าของเยี่ยซือเจวี๋ยก็ไม่ได้ดีไปถึงไหน
ผู้หญิงคนนี้ยิ้มสดใสสว่างไสวให้ทุกคน แต่กับเขาเพียงคนเดียวที่สีหน้าไม่ดี?
เขามีตรงไหนที่เธอไม่พอใจ?
เยี่ยซือเจวี๋ยกลั้นไว้นานมาก กำลังจะพูด โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา
หน้าจอโทรศัพท์โชว์ชื่อ “ซ่งชิงหมิง”
ผู้กำกับซ่งชิงหมิง?
เขาโทรฯมาทำไม
เยี่ยซือเจวี๋ยรับสายฯอย่างหงุดหงิด “ฮัลโหล?
เสียงที่ทนไม่ได้ของซ่งชิงหมิงดังมาจากปลายสาย “คุณชายเยี่ย คนนี้ที่คุณแนะนำไม่เหมาะสมที่จะเป็นนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้!ผมต้องรีบเปลี่ยนตัวเธอ!ถ้าหากคุณยังยืนกราน งั้นคุณก็เปลี่ยนผมออกเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!