เมื่อเยี่ยซือเจวี๋ยได้ยินเสียงโกรธอย่างควบคุมไม่ได้ของซ่งชิงหมิง มีร่องรอยความสับสนในสายตาของเขา
เขามองไปที่ฉินหรานเฟิงกำลังคุยอยู่กับมู่ซย่าโดยไม่ได้ตั้งใจ อดกลั้นถามซ่งชิงหมิง “ทำไมล่ะ”
น้ำเสียงที่โกรธของซ่งชิงหมิงดังมา “เธอเป็นนางเอกของเรื่องนี้ แต่กลับดูถูกการแต่งหน้าว่าแต่งให้เธอน่าเกลียด ตัวเองก็ไปแต่งหน้าเองซะสวย พวกเราเป็นหนังเกี่ยวกับภัยพิบัตินะ!จะมีนางเอกที่ไหนหลบหนีในชุดเต็มยศได้? นี่ก็ยังไม่เป็นไรนะ…เมื่อกี้โหนสลิง เธอบ่นว่าเจ็บ อยากหาสตั๊นแมน!นี่มันต้องถ่ายระยะใกล้!”
เยี่ยซือเจวี๋ยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกโกรธของซ่งชิงหมิงผ่านหน้าจอ
พอได้ยินประโยคหลัง ในสมองของเยี่ยซือเจวี๋ยก็หันกลับไปที่มู่ซย่าอย่างสงสัย
“คุณพูดว่า…เมื่อกี้?เมื่อกี้คือเวลาไหน”
“ไม่กี่วินาทีก่อนผมโทรฯหาคุณ”
“ไม่กี่วิก่อนหน้า?” สุดท้ายเยี่ยซือเจวี๋ยรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาขรึมไปสองวิ แล้วถาม “นางเอกชื่ออะไร”
ซ่งชิงหมิง “ซานซาน ซือถูชิงซาน”
ซานซาน…(ซือถูชิงซาน)
ซานซาน…(มู่ซย่า)
ดวงตาสีดำของเยี่ยซือเจวี๋ยหรี่ลงทันที สมองก็แยกแยะๅเหตุและผล
ใสที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมมู่ซย่าจู่ๆอยากถ่ายหนัง รู้ว่าทำไมซ่งชิงหมิงทำไมถึงไม่พอใจมู่ซย่า
เพราะนั่นมันไม่ใช่มู่ซย่า!
เขาอดไม่ไหวที่จะสบถ “ไอ้เวร!!”
ซ่งชิงหมิงอีกด้านไม่รู้ว่าทำไมเยี่ยซือเจวี๋ยจู่ๆถึงสบถคำด่าออกมา เขากำลังจะถาม โทรศัพท์ก็โดนตัดสายทิ้งทันที
จากอีกด้านของสตูดิโอเสียงเจ้าเล่ห์ของซือถูชิงซานก็ดังขึ้น “ฉันบอกไปแล้ว ฉันต้องการสตั๊นแมน!รีบไปหาสตั๊นแมนให้ฉัน!ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เยี่ยซื่อกรุ๊ปถอนตัวทันที!”
ซ่งชิงหมิงปวดหัวจนต้องกดจุดที่ขมับ เขาโยนสคริปต์ในมือลงไปกองกับพื้นด้วยความหงุดหงิด
“ฉันไม่ทำแล้ว!”
…
ฝั่งด้านของตระกูลจวิน
มู่ซย่าอยู่ท่ามกลางฉินหรานเฟิงที่กระตือรือร้นแปลกๆ และจวินเฮ่าเซวียนที่จงใจแทรกกลางแปลกๆต่อฉินหรานเฟิง
เรื่องที่เธอคิดจะยืมรถ ยังไงก็หาช่องเปิดไม่เจอเลย
ในตอนที่เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรอยู่นั้น จู่ๆหางตาก็เห็นเยี่ยซือเจวี๋ยเดินมาทางเธอด้วยสีหน้าดูไม่ดี
วินาทีต่อมาเยี่ยซือเจวี๋ยก็ดึงฉินหรานเฟิงที่ยืนอยู่ตรงข้างหน้าเธอออก คว้าข้อมือของเธอแล้วพูด “ไปสถานที่หนึ่งกับฉัน!”
มู่ซย่ายังไม่ทันได้โต้ตอบกลับมา ก็โดนเยี่ยซือเจวี๋ยพาออกจากห้องโถง เดินออกไปด้านนอก
“เฮ้!”
“เฮ้!”
ฉินหรานเฟิงกับจวินเฮ่าเซวียนพูดเพื่อจะหยุดเยี่ยซือเจวี๋ยโดยพร้อมกัน แต่ทั้งสองคนยังไม่ทันก้าวขา หลัวอี้เหยียดแขนออกเพื่อหยุดพวกเขาไว้
“ฉันว่า…” หลัวอี้ขมวดคิ้ว ถาม “ยังมีใครจำเรื่องจริงจังของเราได้บ้าง?”
ฉินหรานเฟิงกับจวินเฮ่าเซวียนถึงนึกขึ้นมาได้ ยังมีไอ้หนุ่มที่กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนในตอนนี้เยี่ยซือเจวี๋ยกำลังพามู่ซย่าขึ้นรถของเขา
“คุณจะพาฉันไปไหน” มู่ซย่าลูบข้อมือที่แดงเพราะเยี่ยซือเจวี๋ย
คนนี้พลังเยอะจนไม่มีที่ใช้พลังเหรอ?ทุกครั้งที่จับเธอถึงใช้แรงเยอะขนาดนี้!
เยี่ยซือเจวี๋ยก็เห็นข้อมือของมู่ซย่าแดงเช่นกัน
คิ้วก็ขมวดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตัวเองจับแค่เบาๆข้อมือเธอก็แดงหมดแล้ว สาวน้อยคนนี้ผิวทำมาจากเต้าหู้หรือไง?
แต่ถ้าใช้เต้าหู้มาเปรียบเปรย ก็ดูเหมือนว่าจะเหมือนมาก ผิวของเธอช่างขาวราวกับเต้าหู้…
ความคิดเตลิดโดยไม่ได้ตั้งใจ
มู่ซย่าเห็นเยี่ยซือเจวี๋ยจ้องที่ข้อมือของเธอ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เธอปล่อยมือแล้วถามอีกครั้ง “คุณต้องการจะพาฉันไปที่ไหน ถ้าไม่มีธุระอะไรอย่างอื่น ฉันจะกลับบ้านแล้ว”
เยี่ยซือเจวี๋ยละสายตาจากมือของมู่ซย่า และหยุดที่ใบหน้าบอบบางของเธอ หลังจากนั้นสองวินาที เขาก็ถามว่า “เธออยากถ่ายหนังไหม”
“อะไรนะ?” มู่ซย่าถามอย่างแปลกใจ
เยี่ยซือเจวี๋ยพูดเบาๆ “ฉันเหมือนจะทำเรื่องอะไรผิดพลาดไป ตอนนี้ต้องพาเธอไปแก้ไขข้อผิดพลาด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!