ไป๋ชิงนั่งบนเตียงโดยใช้ผ้าห่มบดบังร่างอรชรไว้
สิ่งที่เผยให้ได้ยลโฉมคือไหล่อันเนียนหอมกับกระดูกไหปลาร้าอันประณีต ที่เต็มไปด้วยจุดแดงระเรื่อนิดๆ แม้จะอยู่ในสภาพเหม่อลอย ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เธอยังคงสวยเพริศพริ้ง เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
เสียงน้ำไหลในห้องอาบน้ำหยุดลงกะทันหัน ไม่นานโม่เซียวในผ้าขนหนูสีขาวนวลก็เดินออกมา
รูปร่างของเขากระชากใจกว่าหุ่นนายแบบฝรั่งที่เห็นตามนิตยสารเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นกล้ามอก กล้ามหน้าท้อง ไหล่กว้างและเอวเล็ก ทุกอย่างล้วนเพอร์เฟคไปหมด
“ใจลอยอะไร?” เสียงทุ้มที่มีความดึงดูดสูงของโม่เซียวเอ่ยขึ้น “คิดเสร็จหรือยังว่าจะเอาอะไร?”
ไป๋ชิงได้สติกลับคืนมา มองร่างกำยำของชายหนุ่มแล้วกลืนน้ำลาย
“พวกเราไม่หย่ากันได้ไหมคะ?” เสียงของเธอหวานนุ่ม นัยน์ตาไร้เดียงสาทอประกายแสงความน่าสงสัย
“ทำไมจู่ๆก็กลายเป็นคนเข้าใจยากอะไรแบบนี้?” มองผิวเผิน โม่เซียวจะมองเธอด้วยความอ่อนโยน ทว่าความจริงแล้ว กึ้งบึ้งนัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก “ชีชีกลับมาแล้ว”
ไป๋ชิงรู้สึกเศร้าสลด เธอย่อมรู้ดีว่าหยุนชีชีกลับมาแล้ว
หยุนชีชีคือผู้หญิงที่เติบโตมาพร้อมกับโม่เซียวตั้งแต่เด็ก
เพียงแต่เธอเป็นลูกนอกสมรสและไม่เป็นที่โปรดปรานของตระกูลหยุน ตระกูลโม่จึงไม่ยอมให้โม่เซียวแต่งหยุนชีชีเข้าบ้าน
ส่วนไป๋ชิงนั้น แม้นจะไม่ใช่ลูกคุณหนูจากตระกูลสูงส่ง แต่เธอบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน
ไร้มลทินที่ว่าคือการปราศจากมลทินอย่างแท้จริง
พ่อแม่ของเธอเป็นหมอธรรมดาๆ แต่พวกเขาโชคร้ายที่ต้องเสียชีวิตในขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนจากภัยพิบัติ
ซึ่งตอนนั้นพวกเขากำลังให้การช่วยเหลือแก่คุณย่าของโม่เซียว
พวกเขาสองสามีภรรยาต้องสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตของคุณย่าโม่
คุณย่าโม่อยากตอบแทนบุญคุณ บวกกับต้องการพรากโม่เซียวกับหยุนชีชีจากกัน
จึงบังคับให้โม่เซียวแต่งงานกับไป๋ชิง
ตอนนั้นสุขภาพของคุณย่าโม่ย่ำแย่ แพทย์เคยบอกให้ญาติทำใจหลายครั้งแล้ว
โม่เซียวจึงได้แต่จำใจยินยอม
ทว่าเขาบอกไป๋ชิงไว้ว่า เขาจะไม่มีวันชอบเธอแน่ เพราะเขาทำเพื่อให้คุณย่าโม่สบายใจเท่านั้น
ไป๋ชิงเข้าใจทุกอย่างดี
เธอแลดูเหมือนกระต่ายน้อยที่ไร้พิษสง ว่านอนสอนง่าย อ่อนโยนและไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร
ดังนั้นโม่เซียวจึงเสริมหนึ่งประโยคว่า “ระหว่างที่คุณเป็นคุณนายโม่ ผมไม่เคยปล่อยให้คุณลำบาก ผ่านมาสามปีแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ ผมจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณ”
ไป๋ชิงมองเขาด้วยความอ่อนระทวย
ที่จริงเธอไม่ได้แต่งงานกับเขาเพราะต้องการเงิน แต่เป็นการสานความฝันตอนวัยรุ่นของเธอให้เป็นจริงเท่านั้น
ตอนนี้ความฝันของเธอแหลกเป็นจุณแล้ว เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริง
เพื่อเอาชนะใจเขา เธออ่อนโยนและเชื่อฟังเขาตลอดสามปีที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ทำให้เขาชอบเธอไม่ได้อยู่ดี
เธอล้มเหลวอย่างหมดสภาพ
“อะโม่” ไป๋ชิงเรียกเขาแบบนี้ และมีเธอคนเดียวที่เรียกเขาแบบนี้
ทุกครั้งที่เธอเรียกเขาแบบนี้บนเตียง โม่เซียวก็จะอดไม่อยู่จัดการงัดทุกกระบวนท่าสวาทให้เธอแบบไม่ยั้ง
ทั้งที่เป็นกระต่ายน้อย แต่ช่างยั่วยวนได้ช่ำชองเหมือนเป็นจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง
เมื่อเขาจินตนาการภาพว่าเธอคงแต่งงานใหม่ และไปเรียกผู้ชายคนอื่นด้วยเสียงนุ่มนวลแบบนี้ เขาก็ไม่สบอารมณ์ยิ่ง
“ห้ะ?” โม่เซียวปรายตามองเธอ
ไป๋ชิงเพ่งมองดวงตาเขา ซึ่งขณะนี้กำลังสะท้อนดวงหน้าเธอ จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ยว่า “อะโม่ ฉันท้องค่ะ”
ใบหน้าโม่เซียวมืดครึ้มในบัดดล “คุณว่าอะไรน่ะ?”
ไป๋ชิงสะดุ้งโหยง กัดริมฝีปากที่ชายหนุ่มพึ่งลิ้มรสไปหมาดๆ “ฉันท้องค่ะ”
“เอาออกซะ” โม่เชียวตอบทันทีโดยไม่คิดจะตรึกตรอง
ไป๋ชิงชะงักงัน “อะไรนะคะ?”
“เอาออก” ใบหน้าอันคมคายและสุขุมของโม่เซียวแผ่ซ่านไปด้วยไอสังหาร “ผมไม่มีทางเปลี่ยนใจที่ไม่หย่ากับคุณ เพราะลูกคนนี้หรอกนะ อีกอย่าง ผมไม่อยากให้ลูกคนนี้เป็นตัวแทรกระหว่างผมกับชีชี”
น่ากลัวเหลือเกิน!
ไป๋ชิงรู้สึกเย็นเยียบไปถึงขั้วหัวใจ
แม้แต่ลูกก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งเขาไว้ เขาพูดออกมาได้เต็มปากว่าให้เอาออก
เลือดเย็นจริงๆ
ลูกคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขานะ
“ฮ่าๆๆ” ไป๋ชิงหัวเราะเบาๆ อย่างน่ารัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปริศนารักนัดบอด(จบ)