พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน
ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวย
ซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าว
ทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย
10 ปี ต่อมา.......
ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมาก
มีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกัน
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับ
บางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาท
เคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร
ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำ
ส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึก
ในตอนนี้ณชาโตเป็นสาววัยรุ่น ที่มีความสดใสน่ารัก กำลังเรียนชั้นมัธยมต้น
เธอสวมใส่เสื้อนักเรียนสีขาวเน็กไทและกระโปรงสั้นลายสก๊อตสีดำ
เป็นลายตรางหมากรุกยอดฮิตเหมือนผู้ชายเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน
แต่ถึงแม้ทั้งสองจะเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่เวลาอยู่โรงเรียนทั้งสองจะทำเป็นไม่รู้จักกัน
เพราะก่อนที่ณชาจะเข้ามาเรียนในโรงเรียนเดียวกันกับเคอร์ฟิว เธอได้ไปหาเขาที่บ้านแล้วทำข้อตกลงกับเขา
" พี่เคอร์ฟิวเปิดเทอมคุณพ่อกับคุณแม่จะให้ณชาไปเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่นะ "
เคอร์ฟิวผู้เย็นชาจ้องหน้าณชาแล้วเอ่ยเพียงสั้นๆอย่างสุขุมว่า
" แล้วไง? "
ณชายิ้มหวานออกมาแล้วเอ่ยต่อว่า
" แล้วเราสองคนน่ะเวลาอยู่โรงเรียนก็ไม่ต้องมาทำเป็นรู้จักกัน เจอกันก็ไม่ต้องทักกัน โอเค้ "
" ทำไม? "
ณชาจึงให้เหตุผลกับเคอร์ฟิวผู้เย็นชาว่า
" ก็เพราะว่าเราสองคนต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วไงล่ะ หากพี่มาใกล้ชิดสนิทสนมกับฉัน
พี่คิดดูสิ ว่าสาวๆในโรงเรียนจะคิดยังไง ฉันที่เพิ่งเข้าไปเป็นน้องใหม่ก็ต้องอยู่อย่างลำบากสิ จริงมั้ย
ฉันได้ยินมาว่า ในโรงเรียนพี่ฮอตมาก เล่นกีฬาก็เก่ง สาวๆกรี๊ดกร๊าดมาก
ดังนั้นฉันในฐานะเด็กใหม่จะไปสนิทสนมกับหนุ่มหล่อประจำโรงเรียนไม่ได้เข้าใจมั้ย "
เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นก็เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับลุกเดินออกไปจากห้องรับแขก
" ไร้สาระ "
ณชาได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจจนหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วรีบเดินตามเคอร์ฟิวออกไป
จากนั้นก็รั้งแขนเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยขอร้องอ้อนวอนด้วยท่าทางออดอ้อน
" นะๆ พี่เคอร์ฟิว เห็นใจน้องหน่อยนะ ช่วยทำตามที่น้องขอเถอะนะคะ "
เคอร์ฟิวมองคนที่กอดแขนเขาไว้แล้วเอ่ยเสียงเย็น
" ณชา เลิกพูดจาไร้สาระสักที ความสัมพันธ์ของเราเป็นความจริงที่ไม่น่าเปิดเผยตรงไหน
หากวันนี้เราโกหก วันหน้าเราก็ต้องโกหกต่อ
น้องมีความสุขกับการโกหกเหรอ แต่พี่ไม่มีนะ
ดังนั้น พี่จะไม่โกหกใคร "
เมื่อเคอร์ฟิวเอ่ยอย่างหนักแน่นว่าจะไม่โกหก
ไม่ทำตามคำขอของณชา
ทำให้ณชาต้องยื่นคำขาดออกมา ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ท่าทีดูไม่พอใจ
" ถ้าพี่ไม่ตกลง งั้นก็ได้ ณชาจะไม่เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่แล้ว
ณชาจะกลับไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่ให้ส่งณชาไปเรียนที่อื่น "
เอ่ยจบเธอก็สะบัดหน้าหมุนตัวเดินออกไปจากบ้านของเคอร์ฟิว
ด้วยความที่เคอร์ฟิวอยากให้ณชาเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเขา เขาจึงต้องยอมตอบตกลงอย่างยอมจำนน
" เออ ตกลงก็ได้ เปิดเทอมวันแรกก็เข้าเรียนให้ตรงเวลาแล้วกัน แล้วอย่าไปขัดขาใครเขาล่ะ "
ณชาได้ยินดังนั้นก็หยุดก้าว ยืนยิ้มอย่างดีใจแล้วหันมาทางเคอร์ฟิวด้วยสีหน้ายิ้มแฉ่ง
" พี่ตกลงแล้วนะ รักษาคำพูดด้วยล่ะ ไปก่อนนะ
แล้วเจอกันที่โรงเรียนในฐานะคนไม่รู้จัก บาย "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา