เขายื่นมือออกมานอกหน้าต่างรถ
เขายื่นกระดาษทิชชู่ออกมาให้
เธอสะดุ้งตกใจอยากจะปฏิเสธ แต่ยื่นมือไปรับไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ "ขอบคุณนะ"
ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขายังคงเหลืออยู่บนทิชชู่
เขารีบละสายตาจากใบหน้าเธอ หน้าต่างรถปิดลงและเร่งความเร็วออกไป
สิบโมงเช้า
ฉินกรุ๊ป
พนักงานยังคงทำงานตามตำแหน่งของตนเองต่อไป
บริษัทไม่ได้จ่ายค่าจ้างมานานกว่าหนึ่งเดือน แต่เนื่องจากฉินกรุ๊ปเป็นบริษัทเก่าแก่ในเมือง แม้จะมีข่าวเชิงลบแทบทุกประเภทบนอินเทอร์เน็ต แต่พนักงานไม่ยอมแพ้จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย
หากไม่รู้ว่าบริษัทมีหนี้จำนวนมาก ฉินอันอันเองก็คงไม่อยากเชื่อเลยว่าความสงบที่อยู่ตรงหน้าเป็นแค่ภาพลวงตา
ฉินอันอันเข้าไปในห้องประชุมพร้อมกับรองประธาน
เมื่อทนายความเห็นฉินอันอัน เขาก็พูดเข้าประเด็นเลยว่า "คุณฉิน ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ผมได้รับมอบหมายจากคุณพ่อของคุณ ให้เปิดพินัยกรรมของเขาในตอนนี้"
ฉินอันอันพยักหน้า
ทนายความเปิดเอกสารและพูดอย่างใจเย็น "พ่อของคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดหกรายการ แต่ละทรัพย์สินอยู่ใน... นี่คือเอกสาร โปรดตรวจสอบด้วยครับ"
ฉินอันอันหยิบเอกสารตรวจสอบอย่างละเอียด
“พ่อของคุณมีที่จอดรถทั้งหมดสามที่” ทนายความยื่นเอกสารให้เธออีกฉบับ “มีร้านค้าแปดแห่งและรถยนต์อีกสิบสองคัน”
ฉินอันอันไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินของครอบครัวเธอมากนัก
อย่างแรกเธอไม่สนใจ
อย่างที่สอง พ่อของเธอไม่เคยบอกเธอไว้อย่างละเอียด
ตอนนี้ทนายความเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับทรัพย์สินของพ่อเธอทีละอย่าง เธอก็รู้สึกสงบใจได้อยู่สักพัก
ไม่คิดเลยว่าพ่อจะรวยขนาดนี้
มีสินทรัพย์ถาวรตั้งมากมาย ทำไมไม่ขายไปเอามาเป็นค่ารักษาพยาบาลล่ะ?
“นอกเหนือจากทรัพย์สินข้างต้นแล้ว ยังมีบริษัทที่เราอยู่ในตอนนี้ด้วย” เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว ทนายความได้หยุดพูดไปพักหนึ่ง “พ่อของคุณวางแผนที่จะยกบริษัทนี้ให้กับคุณ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังประสบสภาวะขาดทุนอยู่ในตอนนี้”
ฉินอันอันมองไปที่ทนาย: "ขาดทุนไปเท่าไหร่ค่ะ?"
รองประธานดันแว่นตาบนดั้งจมูกด้วยมือของเขาแล้วพูดต่อ "ตอนนี้ขาดทุนไปอยู่ที่แปดร้อยล้าน ถ้าคุณรับบริษัทของพ่อคุณ คุณก็ต้องแบกรับหนี้ของเขาด้วย สินทรัพย์ทั้งหมด บ้านและรถที่ทนายเพิ่งพูดถึงก็อาจจะต้องขายไปทิ้งไปหมด เผื่อมาอุดช่องว่างที่บริษัทขาดทุน”
ฉินอันอันตกใจมาก
แปดร้อยล้าน!
ทั้งรถยนต์และบ้านของพ่อ แม้ว่าขายทิ้งออกไปทั้งหมด แต่มูลค่าก็คงไม่ถึงแปดร้อยล้าน!
“อันอัน เธอเลือกที่จะไม่รับก็ได้ ด้วยวิธีนี้ หนี้ของพ่อเธอจะไม่ตกอยู่กับเธอ” สีหน้าของรองประธานดูเศร้าเล็กน้อย “แต่ฉันหวังว่าเธอจะลองคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ บริษัทนี้คือความพยายามตลอดชีวิตของพ่อเธอ เธอทนเห็นมันล้มละลายได้ไหม?”
“หวังหว่านจื่อและฉินเค่อเคออยู่ที่ไหน” ฉินอันอันสูดหายใจลึกแล้วถาม
“อย่าพูดถึงแม่เลี้ยงของเธอเลย! ที่บริษัทกลายเป็นแบบนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของเธอทั้งนั้น เมื่อไม่กี่ปีก่อนเธอให้น้องชายของเธอเข้ามาดูแลเรื่องการเงินในบริษัท เอาเงินจากบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเองไปตั้งมาก ตอนนี้หนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้?” รองประธานถอนหายใจ
ฉินอันอันกุมหน้าผาก น้ำเสียงของเธอสั่น "ฉันก็ไม่อยากให้บริษัทของพ่อล้มละลาย แต่ฉันจะหาเงินได้มากขนาดนี้ได้ที่ไหน..."
"ยืมมาสิ!" รองประธานกล่าวว่า "การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทมาถึงขึ้นสุดท้ายแล้ว หากเราสามารถยืมเงินมาได้ พอมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา ปัญหาทางการเงินก็จะบรรเทาลงอย่างมากทันที"
ฉินอันอันเงยหน้าขึ้น ไม่อยากจะเชื่อเลย "ฉันจะยืมใครได้บ้าง มีใครสามารถให้ฉันยืมเงินได้มากขนาดนี้"
รองประธานได้เอ่ยว่า "ธนาคาร ถ้าธนาคารไม่ให้ยืม ก็ต้องหาเงินลงทุนจากทางอื่นมาลองดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลก็ค่อยยอมแพ้ ว่ายังไง?"
...
เอสทีกรุ๊ป
ชั้นบนสุดเป็นห้องทำงานของประธาน
หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานบานใหญ่ไม่มีที่ติ
รองประธานเลยตอบไปว่า "เธอยังไม่ได้แต่งหน้า สีหน้าเลยดูไม่ดี ไปคุยสภาพนี้ถือเป็นการเสียมารยาทนะ"
ฉินอันอันจึงเอ่ยต่อไปว่า "งั้นขอฉันดูเอกสารแนะนำผลิตภัณฑ์ก่อน"
รองประธาน "ได้สิ ฉันจะติดต่อประธานทั้งสองคนก่อน หากมีการนัดหมายฉันจะแจ้งให้เธอทราบ"
หกโมงเย็น
โจวซื่ออี้ได้รับข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว
“คุณเซิง เราทั้งคู่แพ้แล้ว” โจวซื่ออี้กล่าวว่า “ฉินอันอันไม่ยอมแพ้กับฉินกรุ๊ป ทำให้ฉันประหลาดใจจริง ๆ นอกจากนี้ เธอนัดกับประธานของธนาคารเจียงเฉิงและธนาคารซันไรต์ไปรับประทานอาหารค่ำในคืนนี้"
เซิงเป่ยผิดหวังมาก "ตาแก่จากสองธนาคารนั้นขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ยังกับอะไรดี ฉินอันอันเป็นเนื้อเข้าปากเสือเห็น ๆ! นอกจากนี้เธอยังไม่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลย จะไปรู้ได้ยังไงว่าสังคมข้างนอกมันอันตรายแค่ไหน แต่ฉันคิดไม่ออกจริง ๆ ทำไมเธอถึงไม่มาหาซื่อถิงล่ะ ซื่อถิงเป็นสามีในนามของเธอ ซื่อถิงเทียบกับตาแก่สองคนนั้นไม่ได้เหรอ?”
โจวซื่ออี้แอบมองสีหน้าของฟู่ซื่อถิง
เอ่อ ท่าจะอันตรายแล้วล่ะ
ไม่ว่าอย่างไรก็จาม ฉินอันอันก็ขึ้นชื่อว่าภรรยาของเขา
ถ้าเธอไปค้างกับตาแก่สองคนนั้นในคืนนี้ ฟู่ซื่อถิงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
โจวซื่ออี้รู้สึกหายใจไม่ออก เมื่อนึกถึงเขาที่กำลังจะไปอยู่หัวเจ้านายของเขา
ด้วยนิสัยของฟู่ซื่อถิง หากฉินอันอันกล้านอกใจเขาจริง คงได้ตายอนาถแน่
“คุณฟู่ ให้โทรไปเตือนคุณฉินดีไหม” โจวซื่ออี้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดไปอย่างไม่มั่นใจ
ข้อนิ้วของฟู่ซื่อถิงบีบแน่นจนเปลี่ยนเป็นสีขาว เสียงของเขาที่ดังออกมาอย่างแหบทุ้ม "ไม่ต้องติดต่อเธอ!"
เขาอยากเห็นว่าเธอกล้าก่อเรื่องลับหลังเขาจริง ๆ หรือไม่
เซิงเป่ยกระแอมเบา ๆ "เราไปดื่มกันไหม ฉันจะเลี้ยงเอง!"
ฟู่ซื่อถิงมีสีหน้าน่ากลัวมาก หลังจากปิดคอมพิวเตอร์เขาก็เริ่มเข็นรถเข็น
บอดี้การ์ดก้าวไปข้างหน้าทันทีและพาเขาออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
ทนความโง่ของนางเอกไม่ไหว ทำไมต้องให้เสิ่นอวี๋ได้หน้า ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย ถ้าไม่อยากเปิดเผยตัว ก็ส่งข้อความผ่านเว่ยเจินได้นี่ว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว ต้องดูแลอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วที่นังเสิ่นแท้ง ก็บอกให้ตรวจดีเอ็นเอสิ เพคาะตัวเองก็สงสัยว่าทำไมมันถึงจงใจให้แท้ง ตอนหลังมารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยังจะเก็บเงียบ ไม่บอกพระเอก ด้วยเหตุผลประสาท ๆ ว่าไม่อยากให้รู้สึกแย่ เอิ่ม แล้วปล่อยให้ถูกหลอกว่าเป็นคนรักษาน้องจนหายดี หลอกว่ามีลูกด้วย แบบนี้คือ ดีกว่าเหรอ งงกับตรรกะ...
ยังไงก็ให้อภัยไม่ได้ที่บังคับให้ทำแท้ง ต่อให้นางเอกยื้อลูกเอาไว้ได้ก็เหอะ ทำไมชอบเขียนให้นางเอกอภัยให้คนแบบนี้ นี่เป็นการใช้ความรุนแรงและการฆ่าคนชัด ๆ...
ตามหลายเรื่องอัพเดทไม่จบซักเรื่อง😂😂...
หยุดอัพเดท..หลายเรื่องมาก😂😂...
กำลังสนุก โดนเทอีกแล้ว😂😂😂...
รออยู่นะคะ...
อยากได้วันละ5ตอนเหมือนเดิมได้ไหมคะ🤩😍🥰...
แอดมิน..ให้อ่านวันละ1ตอน😁😁😁...
ข้ามไป 4 ตอน238-241...
สนุกมากค่ะ...