พี่เลี้ยงพยักหน้าอย่างเศร้าสร้อย “ฉันจะไปหาเธอ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
รถคันหรูของฟู่สือถิงก็เข้ามาที่โรงเรียนนานาชาติแองเจลา
หลังจากจอดรถที่ลานจอด ฟู่สือถิงก็พาเสิ่นอวี๋เดินไปที่ตึกสีชมพูที่ฟู่สืออิ๋นอยู่
ฟู่สืออิ๋นอยู่คนเดียวในตึกนี้
มีคนที่คอยดูแลเธอในเรื่องชีวิตประจำวัน การเรียน และเรื่องสุขภาพ
ฟู่สือถิงเปิดประตูเข้าไป และห้องนั้นก็เงียบจนแทบได้ยินเสียงเข็มตก
คิ้วได้รูปของเขาขมวดแน่น
พี่เลี้ยงเมื่อได้รู้ว่าเขามาก็รีบวิ่งมาทันที
“คุณฟู่คะ คุณอิ๋นอิ๋นหายไปค่ะ” พี่เลี้ยงร้องไห้จนตาแดงก่ำ “เราหาไปทั่วทั้งโรงเรียนแล้วแต่ก็หาเธอไม่เจอ กล้องวงจรปิดก็เสียอีก ฉันไม่รู้ว่าเธอไปไหน… คุณอิ๋นอิ๋นของดิฉัน… ดิฉันตะโกนจนเสียงแหบแล้ว หากว่าเธอได้ยินเสียงดิฉันเธอต้องออกมาแน่”
ร่างของฟู่สือถิงแข็งทื่อทันทีและเขาก็กำมือเป็นหมัดแน่น
“เมื่อคืนฉันบอกเธอว่าคุณเจอหมอที่เก่งมาก และตราบใดที่การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีเธอก็จะหายได้… เธอถามว่าการผ่าตัดเป็นยังไง… ดิฉันไม่น่าบอกความจริงเธอเลย คำตอบคงทำให้เธอกลัวแล้วเมื่อคืนเธอก็ฝันร้ายจนร้องไห้ ดิฉันเดาว่าเธอคงไปซ่อนเพราะว่ากลัว” พี่เลี้ยงคุกเข่าลงกับพื้นอย่างสำนึกผิด
ฟู่สือถิงใจสลาย แต่เขาก็เอาโทสะไประบายใส่พี่เลี้ยงไม่ได้
พี่เลี้ยงดูแลสืออิ๋นมาตลอดหลายปีและทุ่มเททำงานด้วยใจแถมไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลย
ตอนนี้สืออิ๋นน่าจะกำลังกลัวและไปซ่อน
“หาจนทั่วแล้วแต่ก็ยังไม่เจอเหรอ?” ฟู่สือถิงถามอย่างเคร่งเครียด “เป็นไปได้ไหมว่าเธอหนีออกไปข้างนอก?”
พี่เลี้ยงร้องไห้และบอกว่า “ยามที่ประตูบอกว่าไม่เห็นคุณอิ๋นอิ๋นออกไปค่ะ ดิฉันกำลังคิดว่าเราน่าจะสูบน้ำจากสระน้ำในโรงเรียนดีไหมคะ? หากว่าคุณอิ๋นอิ๋นตกน้ำไปล่ะ? เธอว่ายน้ำไม่เป็นด้วย โฮ”
สีหน้าตอนนี้ของฟู่สือถิงมืดครึ้ม
“ผมจะให้คนสูบน้ำออกเดี๋ยวนี้” ผู้อำนวยการรีบโทรจัดการโดยไม่รอให้เขาสั่ง
ตอนนั้นเองหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยก็วิ่งเข้ามา
“ผู้อำนวยการ คุณฟู่ ประมาณสิบโมงเช้ามีไฟดับที่ห้องของยาม ยามที่อยู่ทำหน้าที่ตอนนั้นก็วิ่งออกไปที่ห้องไฟ เขาออกไปประมาณสิบนาที เราเลยบอกไม่ได้ว่าคุณอิ๋นอิ๋นฉวยโอกาสช่วงสิบนาทีนั้นออกไปแล้วหรือเปล่า”
แววตาของฟู่สือถิงหม่นแสงลงในตอนนั้น
‘ไอคิวของอิ๋นอิ๋นนั้นเท่ากับเด็กสามขวบ หากว่าเธอออกไปยังโลกภายนอก เธอไม่มีทางจะมีชีวิตรอดได้แน่’
‘เมื่อคนอื่นเห็นรูปร่างหน้าตาที่เป็นผู้ใหญ่ของเธอ พวกเขาก็จะไม่เห็นเธอเป็นเด็ก’
‘หากพวกคนชั่วเห็นว่าเธอมีความบกพร่องทางสติปัญญา…’ หัวใจฟู่สือถิงบีบรัดและเขาก็ไม่กล้าจะคิดถึงเรื่องนั้น
ฟู่สือถิงเร่งฝีเท้าออกจากห้องและโทรให้คนออกตามหาทั่วทั้งเมือง
เวลาเดียวกันเขาก็โทรหาสถานีตำรวจเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากถนนด้านนอกโรงเรียน
เขาต้องหาตัวอิ๋นอิ๋นให้ได้เร็วที่สุด
ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายอย่างมากขึ้น
เวลาเดียวกัน
ที่สตาร์ริเวอร์
จางหยุนมองผู้หญิงที่เสี่ยวหานพากลับมา สีหน้าของเธอแค่คำว่าตกใจก็คงจะน้อยเกินไป
“คุณยาย มีคนจะเปิดสมองเธอ” เสี่ยวหานอธิบายให้จางหยุนฟัง “ผมไม่อยากให้เธอตาย ให้เธออยู่บ้านเราก่อนเถอะครับ”
จางหยุนกอดเสี่ยวหานไว้แล้วอธิบายให้เขาฟัง “เสี่ยวหาน เธอต้องมีครอบครัวแน่ ๆ และหากว่าหลานพาเธอกลับมาที่บ้านเรา ครอบครัวของเธอก็ต้องเป็นห่วงแน่”
เสี่ยวหานถามฟู่สืออิ๋น “คุณมีครอบครัวไหม?”
ฟู่สืออิ๋นไม่รู้ว่าครอบครัวหมายถึงอะไร เธอเลยส่ายหน้าอย่างแรง
“คุณยาย เธอไม่สบาย” เสี่ยวหานนิ่วหน้าละบอกแผนของเขา “ให้แม่รักษาเธอก่อนที่จะให้เธอไปเถอะ”
จางหยุนถอนใจ “แล้วหลานกลับมาจากโรงเรียนได้ยังไง? ครูรู้ไหมว่าหนูกลับมา?”
“อ้อ… ผมต้องกลับไปโรงเรียน” เสี่ยวหานบอกพลางมองฟู่สืออิ๋น “คุณต้องไม่ดื้อนะ”
ฟู่สืออิ๋นพยักหน้าหนักแน่น และทำตัวเชื่อฟังจนทำให้คนใจอ่อนยวบ
เมื่อจางหยุนไปส่งเสี่ยวหานขึ้นแท็กซี่กลับไปโรงเรียนแล้ว เธอก็กลับบ้านแล้วรีบโทรหาฉินอันอัน
“อันอัน ตอนนี้ยุ่งหรือเปล่า? ถ้าไม่ก็รีบกลับมาเร็วเข้า เสี่ยวหานพาผู้หญิงกลับมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...