ป้าจางรู้สึกลำบากใจมาก “อิ๋นอิ๋น หมอบอกว่าคุณควรนอนบนเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน แต่ตอนนี้คุณยังอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เลยนะคะ ถ้าดิฉันพาคุณออกไป คุณผู้ชายจะว่าเอาได้”
ฟู่สืออิ๋นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วถามว่า “คุณผู้ชายคือใครเหรอคะ?”
ป้าจางตอบ “ฟู่สือถิง” แล้วชะงักไปชั่วขณะ ก่อนถามว่า “คุณเรียกเขาว่าอะไร?”
ฟู่สืออิ๋นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปทางนอกหน้าต่าง “ออกไปเดินเล่นกันค่ะ”
ป้าจาง “…”
ป้าจางไม่กล้าทำอะไรโดยไม่ขออนุญาต ดังนั้นจึงโทรหาเสิ่นอวี๋
จากนั้นไม่นาน เสิ่นอวี๋รีบมาทันที
“อิ๋นอิ๋น หนูอยากออกไปเที่ยวข้างนอกงั้นเหรอ?” เสิ่นอวี๋ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ฉันพาหนูออกไปได้ แต่ว่าหนูต้องนั่งรถเข็นนะ ไม่อย่างนั้นฉันกลัวว่าตอนที่เดินหนูจะเวียนหัว”
ฟู่สืออิ๋นเพียงแค่อยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น การนั่งรถเข็นจึงไม่ใช่ปัญหา
หลังจากที่เธอพยักหน้า ป้าจางก็เข็นรถเข็นที่ฟู่สือถิงเคยใช้มาก่อนออกมา
“ป้าจาง ฉันเข็นเธอออกไปเองค่ะ!” หลังจากที่เสิ่นอวี๋พูดกับป้าจาง เธอก็เข็นอิ๋นอิ๋นออกไปที่ลานหน้าบ้าน
หากเสิ่นอวี๋ต้องการอยู่ในตำแหน่งคนข้างกายของฟู่สือถิงอย่างมั่นคง ก่อนอื่นต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอิ๋นอิ๋น
เช่นเดียวกับตอนนี้ เธอเข็นอิ๋นอิ๋นออกไป อิ๋นอิ๋นก็ไม่ได้ต่อต้านเหมือนเมื่อก่อน
นี่เป็นความก้าวหน้าที่ดีมาก
ด้วยความก้าวหน้าไปทีละน้อยในแต่ละวัน เธอเชื่อว่าความสัมพันธ์ของเธอกับอิ๋นอิ๋นจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในไม่ช้า
วันนี้อุณหภูมิยังสูงกว่าสามสิบองศา แต่แสงแดดไม่แรงมากเท่าไหร่
“อิ๋นอิ๋น หนูยังปวดหัวอยู่ไหม? ถ้าหากว่ายังปวดมาก ฉันสามารถสั่งยาแก้ปวดให้ได้นะ” เสิ่นอวี๋ถามเสียงเบา
จากการตัดสินของเสิ่นอวี๋ ตอนนี้อิ๋นอิ๋นน่าจะอายุประมาณสิบขวบ
ดังนั้นจึงปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็กสิบขวบ
อิ๋นอิ๋น “ไม่เอาค่ะ”
เว้นแต่เป็นยาที่พี่ชายให้เธอกิน ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่กินยาที่เสิ่นอวี๋เอาให้
เสิ่นอวี๋ยิ้มและพูดว่า “อิ๋นอิ๋น หนูพูดออกมาแบบนี้มันเยี่ยมมากเลยจ้ะ! ฉันเองก็เหมือนสือถิงที่อยากให้หนูฟื้นตัวได้ไว ๆนะ”
ฟู่สืออิ๋นไม่ตอบ
หลังจากสูดอากาศข้างนอกได้สักพัก ทันใดนั้นเธอก็เอ่ยถามว่า “คุณเป็นคนผ่าตัดให้หนูจริงเหรอ?”
ถ้าเป็นเสิ่นอวี๋ที่ผ่าตัดให้เธอ ทำไมก่อนสลบไป เธอถึงไม่เคยเห็นหน้าเสิ่นอวี๋มาก่อนเลย?
ในสมองของฟู่สืออิ๋นจำได้แค่ภาพอันคลุมเครือของฉินอันอันเท่านั้น
น่าเสียดาย เธอไม่รู้ว่าฉินอันอันชื่ออะไร
คำพูดนี้ทำให้เสิ่นอวี๋ใจเต้นรัว!
สายตาและน้ำเสียงขณะที่อิ๋นอิ๋นพูดคำนี้ ไม่เหมือนเด็กสิบขวบเลย
หรือว่าเธอจำได้แล้วว่าใครเป็นทำการผ่าตัดให้เธอ?!
ทันใดนั้นเสิ่นอวี๋ก็หน้าแดงไปถึงหู แล้วเริ่มครุ่นคิดว่าฟู่สือถิงจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากความลับถูกเปิดเผย
“คุณหมอเสิ่น?” เห็นว่าเธอเงียบไม่พูดอะไร อิ๋นอิ๋นเลยเรียกเธอ
เสิ่นอวี๋สูดหายใจลึกแล้วตัดสินใจลองเสี่ยงดู “ใช่แล้วจ้ะ! อิ๋นอิ๋น หนูคิดอะไรออกบ้างแล้วใช่ไหม? หนูพูดกับฉันได้นะ”
อิ๋นอิ๋นเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรอีก
......
วันรุ่งขึ้น ช่วงเช้าตรู่
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ตอนที่ฉินอันอันกำลังหลับอย่างสะลึมสะลือ
เธอถือโทรศัพท์ไว้ตรงหน้า เหลือบมองชื่อหลีเสี่ยวเถียน แล้วรับสาย “เสี่ยวเถียน เพิ่งจะเจ็ดโมงกว่า…ทำไมเธอถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ?”
ระยะนี้เธอต้องทำงานล่วงเวลาทุกคืน ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นจางหยุนที่ส่งทั้งสองคนไปโรงเรียน
หลีเสี่ยวเถียน “พ่อกับแม่ฉันไปเที่ยวน่ะ ฉันเลยไปส่งพวกท่านที่สนามบิน! ตอนขากลับผ่านสตาร์ริเวอร์พอดี ดังนั้นฉันก็เลยแวะที่นี่ เธออยู่ตึกไหนเหรอ? ฉันซื้ออาหารเช้ามาด้วย ฉันจะไปดูบ้านใหม่เธอ!”
ฉินอันอัน “! ! !”
ฉินอันอันปีนลุกขึ้นจากเตียง เพราะว่ารีบลุกขึ้นทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ จึงเวียนหัวอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉินอันอัน! ฉันมาถึงทางเข้าชุมชนของเธอแล้ว นี่เธอไม่ยอมให้ฉันเข้าไปใช่ไหม?” หลีเสี่ยวเถียนใช้มือข้างหนึ่งเท้าเอว น้ำเสียงโกรธเคืองเล็กน้อย
ฉินอันอันรีบออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองคนไปโรงเรียนแล้ว เธอจึงเอาของเล่นเด็กที่อยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งหมดไปไว้ในห้องเด็ก
หลังจากจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว เธอก็ส่งตำแหน่งที่ตั้งให้หลีเสี่ยวเถียน
ไม่เกินสามนาที เสียงออดประตูก็ดังขึ้น
ฉินอันอันที่กำลังแปรงฟัน ได้เดินออกมาจากห้องน้ำ
ตอนนี้เอง…ไมค์ที่กำลังเปลือยท่อนบน ก็ชิงเดินไปเปิดประตูเสียก่อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...