บางทีอาจเป็นเพราะว่าในชีวิตของฟู่ซื่อถิงเขาไม่ได้ชอบใครหลายคนมากนัก ดังนั้นพอเขาปฏิบัติกับใครด้วยความเป็นมนุษย์นิด ๆ หน่อย ๆ คนรอบข้างก็พากันนึกว่าเขาชอบคน ๆ นี้
แต่ความรักที่เธอปรารถนาคือการเคารพซึ่งกันและกัน แทนที่จะเป็นการบังคับอีกฝ่ายอย่างเผด็จการ
หลังจากรถขับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลฟู่แล้ว บอดี้การ์ดเดินไปอยู่ตรงหน้าฟู่ซื่อถิงก่อน
อาจเพราะกลัวเขาโกรธ ดังนั้นบอดี้การ์ดจึงอธิบายให้เขาฟังว่า “คุณหนูฉินเพิ่งจะบอกกับผมบนรถว่า คำพูดที่เธอพูดเมื่อคืนทั้งหมด ก็เพื่อทดสอบการทำงานของเครื่องจับเท็จครับ”
ฉินอันอันเปลี่ยนรองเท้าที่ประตูอย่างไม่รีบร้อน แล้วถือโอกาสเงี่ยหูแอบฟังอย่างไม่ปิดบัง
“เธอยังบอกด้วยว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะยั่วให้คุณโกรธไปดสียทุกครั้ง” บอดี้การ์ดพูดต่อ
ฟู่ซื่อถิง “เธอไม่มีปากรึไง? ถึงต้องให้นายมาพูดแทน?”
บอดี้การ์ดถอยออกไปด้วยความโกรธทันที และไม่ลืมส่งสายตาเตือนเธออย่างดุ ๆ
ดูเหมือนเขากำลังพูดว่า ‘ถ้าคุณไม่ง้อเจ้านายของผม ผมก็จะบังคับให้คุณทำมันอยู่ดี!’
ฉินอันอันเดินไปหาฟู่ซื่อถิงอย่างช้า ๆ
หลังจากเดินไปถึงโซฟาตรงหน้าเขา เธอก็นั่งลง รวบรวมความกล้าเตรียมเอ่ยปากพูด
“ไปงานปาร์ตี้คนโสดมางั้นเหรอ?” เขาชิงเอ่ยปาก เปล่งเสียงถามก่อน
ฉินอันอัน “หืม? นั่นคืองานปาร์ตี้คนโสดเหรอ? ฉันไม่เห็นรู้เลย ฉันรู้แค่ว่าที่นั่นมีแต่คนรวยไปร่วมงาน ฉันถึงได้เพื่อหาเงินทุน”
ฟู่ซื่อถิงขมวดคิ้วมุ่น “…แล้วเธอได้เงินทุนแล้วหรือยัง?”
“ยังไม่ได้ ฉันเข้าไปในงานได้ไม่ถึงสิบนาที บอดี้การ์ดของคุณก็โทรมาเรียกให้ฉันกลับ”
ฟู่ซื่อถิงถามกลับ “นี่คุณกำลังโทษผมเหรอ?”
ฉินอันอันรู้สึกหิวเล็กน้อย จึงหยิบแอปเปิ้ลจากถาดผลไม้ขึ้นมากัด “ฉันโทษคุณ คุณให้เงินฉันได้ไหมล่ะ?”
“ฝันไปเถอะ”
“เหอะ ๆ! เพราะงั้นฉันจะไม่ยอมให้คุณทำลายอารมณ์ดี ๆ ของฉันหรอก”
“อารมณ์ดีขนาดนี้ เพราะวันนี้ได้ไล่รองประธานและหัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาของเธอออกไปแล้วใช่ไหม?” น้ำเสียงของฟู่ซื่อถิงสงบนิ่ง
ฉินอันอันหยุดกัดแอปเปิ้ล ดวงตาทรงลูกพลัมมองไปที่เขา “ฟู่ซื่อถิง คุณชอบฉันเหรอ?”
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมต้องคอยตรวจสอบเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ของคน ๆ หนึ่งอย่างละเอียดด้วย?
หลังจากที่ถามออกไปแล้ว บรรยากาศก็ชะงักงันในชั่วพริบตา
ความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจได้ถาโถมคนทั้งคู่
ฉินอันอันยัดแอปเปิ้ลเข้าปาก
ฟู่ซื่อถิงมองดูเธอด้วยสายตาที่ล้ำลึกมากจนดูราวกับจะกลืนหินทุกอย่างลงไป
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงของเขาก็ลอดขึ้นมาว่า “คุณล่ะ?”
......
เขากำลังถามเธอว่าชอบเขาไหมงั้นเหรอ?
ทันใดนั้นหัวใจเธอก็เต้นผิดปกติ ใบหน้าขึ้นสี พูดจาตะกุกตะกัก “…ฉันไม่กล้าพูดว่าฉันชอบคุณหรอก แล้วก็ไม่กล้าพูดว่าไม่ชอบคุณด้วย…ที่จริงแล้วฉันไม่กล้าชอบคุณ…”
ดูเหมือนลิ้นจะพันกัน
พูดจบแล้วเธอก็คิดวนไปเวียนมาอยู่แบบนั้น
แต่ก็หวังว่าเขาจะเข้าใจ
“ฉินอันอัน ฉันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด” สายตาของเขามีประกาย แต่น้ำเสียงของเขากลับสงบนิ่งผิดปกติ
“คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องต่อต้านผม”
“ฉันไม่ได้ต่อต้านคุณ” ฉินอันอันกระแอม “ฉันแค่อยากมีชีวิตของตัวเอง”
‘ชีวิตของจัวเองเหรอ?’
‘ชีวิตของตัวเอง ไม่มีเขาอยู่ในนั้นแน่นอน’
เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นจิบ
“ราคาหนึ่งพันล้านไม่ถือว่าต่ำอะไร ถ้าขายราคานี้ ถึงปลดหนี้แล้ว เธอก็ยังมีเงินเหลือใช้อยู่” จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง
เธอนิ่งอึ้งไปหลายวินาที ถึงรู้ตัวว่าเขากำลังพูดเรื่องบริษัท
“พ่อของฉันไม่ต้องการขายบริษัทให้คนอื่น”
“การถูกฟ้องล้มละลายเป็นการขายทิ้งเพื่อชำระหนี้เหมือนกัน แถมยังได้ไม่คุ้มราคาด้วย”
ฉินอันอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบเขาว่า “ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ แต่ฉันก็มีความคิดของตัวเอง”
เมื่อพูดจบ เสียงหัวเราะของเขาก็ดังลอดมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้มแบบนี้
รอยยิ้มนี้ของเขา มีเสน่ห์จนทำให้คนหลงใหล
ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา คือในคอมพิวเตอร์ของเขา
เขากอดผู้หญิงคนนั้นและยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...