ฉินอันอันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
หลังจากที่รู้ตัวว่าถูกวิ่งราวโทรศัพท์ ขาทั้งสองก็แยกออกเตรียมวิ่งไล่ตาม
แต่หลังจากวิ่งไปได้สองก้าว เธอก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองตั้งท้องอยู่ จึงหยุดวิ่ง หันหลังกลับอย่างรวดเร็วและเดินไปในเขตหมู่บ้าน
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ป้าจางก็โทรศัพท์ไปหาฟู่ซื่อถิง
“คุณผู้ชายคะ โทรศัพท์ของคุณผู้หญิงถูกคนร้ายขโมยไปตอนเดินเล่นค่ะ ดิฉันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเป็นเพื่อนเธอแล้ว แต่ตำรวจบอกกับพวกเราว่า คงไม่น่าจะได้คืน ตอนคุณผู้หญิงกลับมา ตาเธอแดงก่ำเลย บอกว่าในโทรศัพท์มีข้อมูลสำคัญเยอะมาก ตอนนี้เธอแอบร้องไห้อยู่ในห้องค่ะ”
ป้าจางทนไมไหวแล้ว คิดว่าถ้าเธอบอกเรื่องนี้กับฟู่ซื่อถิง บางทีอาจจะใช้ประโยชน์จากเส้นสายของฟู่ซื่อถิง สามารถนำโทรศัพท์เธอกลับคืนมาได้
ที่จริงแล้วป้าจางไม่แน่ใจหรอกว่าฉินอันอันแอบร้องไห้อยู่ในห้องหรือเปล่า แต่ป้าจางจงใจพูดแบบนี้ เพื่อดูว่าจะทำให้ฟู่ซื่อถิงใจอ่อนลงได้หรือไม่
คืนนี้ฟู่ซื่อถิงนัดกับถังเฉียวเซินไว้แล้ว
ตอนนี้เขาอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดหมายไว้เรียบร้อยแล้ว และถังเฉียวเซินจะมาถึงในไม่ช้า
หลังจากรับสายป้าจางแล้ว เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ไม่ถึงหนึ่งนาที จากนั้นจึงตัดสินใจได้
หลังจากที่ถังเฉียวเซินมาถึงร้านอาหาร เห็นเพียงโจวจื่ออี้ เขาก็เลิกคิ้วถาม “เจ้านายของนายล่ะ?”
“ประธานถังครับ ขออภัยด้วย เจ้านายของผมเพิ่งจะออกไป เกิดเหตุฉุกเฉินที่บ้านของเขา ดังนั้นเขาจึงให้ผมรออยู่ที่นี่เพื่ออธิบายให้คุณฟังครับ” โจวจื่ออี้กล่าวขอโทษ
ถังเฉียวเซินหัวเราะเบา ๆ “บังเอิญจังเลย? เขาคงไม่ใช่ไม่อยากเจอฉัน ก็เลยหาเหตุผลลวก ๆ ขึ้นมาใช่ไหม?”
โจวจื่ออี้ “ถึงแม้เจ้านายของผมจะไม่อยากเจอคุณ ก็ไม่ถึงกับต้องหนีหรอกครับ เขาไม่เคยกลัวใคร”
ถังเฉียวเซินนั่งลงบนเก้าอี้แล้วใช้เวลามองโจวจื่ออี้อย่างตั้งใจ “แต่ฉันจำได้ว่าเข้ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนในตระกูลนี่นา ใครในบ้านเขาที่เกิดเรื่องงั้นเหรอ? ถึงขนาดเบี้ยวนัดกันแบบนี้”
โจงจื่ออี้ “ภรรยาของเขาครับ”
ถังเฉียวเซิน “…”
โจวจื่ออี้ “ผมเดาว่าเจ้านายของผมนัดคุณมา น่าจะเพราะเรื่องของฉินอันอัน ประธานถังครับ ถึงแม้ว่าคุณสมบัติผมอาจไม่เพียงพอ แต่ว่าผมยังอยากขอเตือนคุณ เจ้านายของผมชอบฉินอันอันมาก จะเป็นการดีกว่าถ้าคุณจะรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสมกับฉินอันอัน”
หลังจากถังเฉียวเซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยว่า “จื่ออี้ นายเคยคิดที่จะเปลี่ยนงานไหม? ฉันเสนอเงินเดือนที่สูงกว่าให้นายได้นะ”
โจวจื่ออี้พูดอย่างจริงจังและหวาดกลัว “ประธานถัง ขอบคุณสำหรับความใจดีของคุณ แต่ว่าผมไม่มีแผนการเปลี่ยนงานอยู่ในสมองของผมครับ ตราบใดที่ประธานฟู่ไม่ไล่ผมออก ผมก็จะไม่ทิ้งเขา”
“เพราะอะไร?” ถังเฉียวเซินงุนงง
“คุณไปถามถังเฉียนก็ได้ว่าทำไมถึงไม่อยากออกจากเอสทีกรุ๊ป”
“ถังเฉียนไม่อยากออกจากเอสทีกรุ๊ปเพราะว่าเธอชอบฟู่ซื่อถิง หรือว่านายก็ชอบฟู่ซื่อถิงด้วยเหมือนกัน?!” ถังเฉียวเซินพูดพร้อมกับยิ้ม
“ผมชอบเขา เป็นความชอบแบบเคารพ” โจวจื่ออี้กล่าวตรงไปตรงมา “โลกภายนอกมักพูดเสมอว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้าย นั่นเป็นเพราะว่าคนเรามีหลายด้าน คนที่ไม่ยิ้มแย้ม ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนไม่ดี คนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อาจซ่อนมีดเอาไว้ในรอยยิ้มนั้นก็ได้”
ถังเฉียวเซิน “นายกำลังพูดถึงฉันงั้นเหรอ?”
โจงจื่ออี้ “เปล่า เปล่าเลย ผมไม่ได้จะเหน็บแนมคุณ คุณเองก็เป็นคนดี แต่ผมไม่อยากทรยศเจ้านายตัวเอง”
โจวจื้ออี่รู้ดีว่า ถังเฉียวเซินยอมจ่ายเงินเดือนสูงกว่าเพื่อแย่งชิงตนเอง และจะใช้เขามาจัดการฟู่ซื่อถิง
ในฐานะมือขวาของฟู่ซื่อถิง เขารู้จักฟู่ซื่อถิงดีกว่าใคร
“ถ้าหากผมทรยศประธานฟู่ในวันนี้ วันหน้าก็สามารถหักหลังคุณเพื่อผลประโยชน์ที่สูงขึ้นได้เช่นเดียวกัน คิดดูแล้วคุณคงไม่วางใจที่จะใช้คนแบบนี้” โจวจื่ออี้กล่าว
......
สถานีตำรวจ
การมาถึงของฟู่ซื่อถิง ทำให้บรรยากาศทั่วทั้งสถานีตำรวจตึงเครียด
หลังจากหัวหน้าตำรวจรับสายแล้วก็รีบวิ่งมา
“โทรศัพท์ของคุณถูกขโมยเหรอครับ? โจรคนนี้ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา! ผมจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที! รับรองว่าภายในยี่สิบชั่วโมงคุณจะได้โทรศัพท์คืนมา!”
หัวหน้าตำรวจตบหน้าอกเขา รับรองกับฟู่ซื่อถิง
ฟู่ซื่อถิง “ไม่ใช่โทรศัพท์ผมที่ถูกขโมย”
“โอ้! ผมตกใจแทบตาย! ผมนึกว่าโทรศัพท์คุณถูกขโมย…”
“เป็นโทรศัพท์ของภรรยาผมที่ถูกขโมย” ฟู่ซื่อถิงดื่มชา “ผมขอคืนภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงได้ไหม?”
หัวหน้าตำรวจตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “ได้ครับ! ได้แน่นอน! ตอนนี้ระบบเฝ้าระวังสกายอายระจายไปเส้นหลักทุกเส้นแล้ว ต้องเอากลับมาได้แน่! ผมจะให้ลูกน้องตรวจสอบอย่างสุดกำลังทันที!”
ฟู่ซื่อถิงพยักหน้า “ลำบากคุณแล้ว”
“ไม่ลำบาก ไม่ลำบากเลยครับ! นี่คือสิ่งที่พวกเราควรทำ!” หัวหน้าตำรวจพลิกหน้าบันทึกประจำวันของคืนนี้แล้วเอ่ยว่า “ภรรยาของคุณชื่อฉินอันอันเหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย