บูม!
เสียงดังสนั่นเสียงหนึ่ง ประตูใหญ่ที่ถึกทนถูกเตะให้แตก หยางยี่เดินเข้ามาด้วยแววตาที่เยือกเย็น
พอเดินเข้าประตู ก็เห็นชายวัยกลางคนที่ผมล้านกลางหัวคนหนึ่งกำลังเขวี้ยงโทรศัพท์อยู่ บนหน้าเขามีแต่เหงื่อเต็มไปหมด และกำลังตะโกนว่า“โทรไม่ติด โทรไม่ติด แม่งเอ่ย เป็นอะไรว่ะเนี่ย!”
เขาด่าไปด้วยพร้อมกับมองไปทางหน้าต่างด้วยสายตาที่หวาดกลัว
และในเวลานี้เอง เสียงหน้าประตูทำเขาตกใจ เขาหันหน้าไปดู ก็สบเข้ากับตาที่แดงเดือดของหยางยี่พอดี
“แก แก ทั้งหมดนี่แกเป็นคนทำใช่ไหม ไอ่สารเลว เชื่อไหมว่าฉันจะโทรแจ้งตำรวจมาจับแก!”ชายวัยกลางคนที่ผมล้านกลางหัวกำลังด่าว่าอย่างใจแป้ว
และข้างๆเขา มีผู้หญิงที่พันผ้าพันแผลบนหน้าผากอยู่คนหนึ่ง อายุเธอราวๆ30กว่า ดูแล้วน่าสงสาร
และแล้วเมื่อเธอมองเห็นหยางยี่ สีหน้ากลับเปลี่ยนไปทันที ตะโกนร้อง“มัน มัน มันนั่นแหละที่ทำร้ายฉัน ผู้อำนวยการ เร็วเข้า รีบเรียกคนมาจับมัน!”
บนหน้าหยางยี่ไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ เขามองดูผู้หญิงไปหนึ่งที จากนั้นก็มองไปที่ชายวัยกลางคน พูดด้วยความเย็นชา“ดีเลย อยู่กันครบ”
พูดจบ เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้นแล้วเดินขึ้นหน้าไป บีบเข้าที่คอของผู้หญิง ระหว่างนี้ชายวัยกลางคนที่ผมล้านกลางหัวได้ตกใจกลัวจนนั่งลงกับพื้นไปแล้ว
“ขยะสังคม เถียนเถียนเล็กขนาดนั้น แกทำลงไปได้ยังไง!”บนหน้าหยางยี่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
เขายังจำภาพตอนที่ตัวเองได้พบกับเถียนเถียน ผู้หญิงคนนี้คำก็เด็กสวะอีกคำก็เด็กสวะ ทำร้ายเถียนเถียนจนขาทั้งสองเลือดไหลด้วยมือคู่นี้!
กรึก!
หัวของผู้หญิงบิดไปอีกข้าง แววตาที่เคียดแค้นคู่นั้นตายตาไม่หลับ
ทิ้งผู้หญิงไว้ด้านข้าง หยางยี่มองไปทางชายวัยกลางคนที่ผมล้านกลางหัว พูดอย่างเฉยชาว่า“คุณครูตีนักเรียน อย่ามาบอกฉันว่าแกไม่รู้!”
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จริงๆ ฉัน……อ๊า!”
กรึก!
ชายวัยกลางคนยังไม่ทันพูดจบ หยางยี่ก็หยิบขาของเขาหักไปแล้วหนึ่งข้าง
การปล่อยละเลยก็นับว่าเป็นโทษ หักขาแกข้างหนึ่งเป็นการลงโทษ
สิ้นเสียงที่เย็นชาของหยางยี่ เจ้าตัวก็ได้โดดออกหน้าต่างไปแล้ว หายไปในโรงเรียนอนุบาล
“นักฆ่าดิน ซ่อนตัว”
เสียงเบาๆเสียงหนึ่งสะท้อนในบริเวณใกล้เคียง จากนั้นเงาดำทั้ง5ก็หายไปทันที ไร้วี่แวว เหมือนไม่เคยมีมาก่อน
……
ติ๊งต๊ง!
เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เสิ่นเสวี่ยที่นั่งเหม่ออยู่ในห้องโถงลุกขึ้นไปเปิดประตู
ไม่นาน ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเสิ่นเสวี่ยถึง60%เดินเข้ามา ข้างเธอมีวัยรุ่นที่หล่อเหลาอ่อนเยาว์อยู่คนหนึ่ง
ผู้หญิงมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเสิ่นเสวี่ย แต่อุปนิสัยกลับต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่เธอเข้าประตูมาก็ซบเข้าบนตัวของวัยรุ่น สายตากวาดมองรอบๆห้องโถงข้างหน้า แสดงท่าทีที่เยาะเย้ยออกมา“นี่นะเหรอ? ที่เธอจะขาย5ล้าน?”
วัยรุ่นเห็นผู้หญิงเปิดปากพูด จึงพูดตามว่า“นั่นนะสิ วิลล่าโพลี่ในตอนนี้ราคากำลังตก ห่างจากที่นี่ไม่ใกล้ก็มีบ้านผีสิงอยู่หลังหนึ่ง นี่น่ะไม่ถึง5ล้านหรอก”
เสิ่นเสวี่ยได้ยินเช่นนี้แต่สีหน้ายังคงเย็นชา เธอพูดอย่างเฉยชาว่า“5ล้าน ขาดแม้แต่สตางค์เดียวก็ไม่ได้ ฉันให้เวลาเธอ1ชั่วโมงในการเช็ดดู ไม่เอาละก็ฉันจะหาคนอื่น”
“โอ้โห!น้องสามเธอก็ยังคงใจแข็งเหมือนเดิมนะ ตกต่ำขนาดนี้แล้ว ฉันไม่รู้จริงๆว่าความใจแข็งของเธอมันมาจากไหนกัน!”
ผู้หญิง ก็คือพี่สองของเสิ่นเสวี่ยเสิ่นเย่วพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูก
เสิ่นเสวี่ยไม่พูดอะไร นั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง เธอจับโทรศัพท์ไว้ ไม่ขยับ
ส่วนเสิ่นเย่วเห็นเสิ่นเสวี่ยเป็นแบบนี้ บนหน้าเธอก็แสดงสีหน้าที่โกรธแค้นออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว