ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) นิยาย บท 112

บทที่ 112 ความจริงใจ (2)

มือที่ถือถ้วยชาชะงักค้างกลางอากาศ หยุดนิ่งไปไม่ไหวติง

ในที่สุดซูเฉินก็เผยเสียงหัวเราะออกมา

เขายกถ้วยชาขึ้นดื่มจนหมด จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองซางเจิน

“ข้ายังสงสัยว่าจะปิดบังเรื่องนี้กับองค์กรใหญ่เช่นท่านไปได้สักเท่าไหร่”

พูดแล้วก็ละสายตาจากซางเจินตวัดไปมองเยี่ยเม่ย จากนั้นชิงไป๋ ถงลู่ และคนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก

ในตอนนั้นเอง นัยน์ตาเขาพลันเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

เยี่ยเม่ยไม่อาจทนไหว แหวเสียงดังขึ้นมา “เจ้า…… เจ้า…… ไม่ได้ตาบอดหรือ?”

นางไม่รู้ว่าซูเฉินไม่ได้ตาบอดเลยแม้แต่นิด

ชิงไป๋และคนอื่น ๆ สีหน้าขำขัน ดูท่าจะรู้ความลับนี้มานานแล้ว

“ตาหายเมื่อไหร่?”

“ท่านรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่?”

พริบตาต่อมา ซางเจินและซูเฉินก็เอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกัน

ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา

ซูเฉิน “ตาข้าหายดีในวันเดียวกับที่ข้าสังหารหลินเซี่ย”

“หายดีเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?” ผู้อาวุโสซางตกใจ

แต่นั่นก็สามารถอธิบายได้ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมเขาจึงสามารถสังหารหลินเซี่ยได้

“เช่นนั้นท่านเล่า? ข้าไม่แปลกใจที่ท่านรู้ว่าข้าเป็นหน้ากากปีศาจ แต่ท่านรู้ได้อย่างไรว่าการตายของหลีเกี่ยวพันกับข้า?” ซูเฉินเอ่ยถาม

เมื่อมีกังเหยียนและหลินชูอยู่ ซูเฉินจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้ว่าตนเป็นหน้ากากปีศาจ ยามเมื่อรู้ว่าเขาคือหน้ากากปีศาจ เช่นนั้นย่อมรู้ว่าตาเขาหายดีแล้ว แต่ที่รู้เรื่องหลีหลีเช่นนี้นับว่าหายากนัก

ซางเจินตอบ “ท่านทำลายศพได้แนบเนียนมาก ไม่หลงเหลือร่องรอยใดไว้ แต่ครั้งหน้าท่านต้องทำให้รอบคอบกว่านี้ เศษซากเครื่องมือต้นกำเนิดเป็นตัวบ่งชี้ว่าเคยเกิดการต่อสู้ขึ้น ห้องลับที่พังทลายเพียงเท่านั้นก็บ่งบอกได้แล้วว่ามีคนย้อนกลับไปและมีความลับที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้ หากหาให้ดีอย่างไรก็ต้องมีเบาะแสเหลืออยู่บ้าง”

“แต่ก็หลงเหลือเบาะแสอยู่ไม่มากใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าข้าเป็นคนลงมือเสียหน่อย”

“ตอนที่ท่านทักทายทุกคนที่นี่ ท่านกลับไม่ถามถึงหลีเลย ใช่หรือไม่?” ซางเจินโต้กลับ

“เอ่อ……” ซูเฉินพูดไม่ออก

เขาไม่คิดว่าตนจะมาพลาดเช่นนี้

ซางเจินผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

ซูเฉินเกาหัว “หวังว่าพวกท่านจะไม่ติดใจเรื่องนี้”

ถงลู่หัวเราะ “เจ้าบัดซบหลีนั่นต้องการครอบครองสมบัติไว้แต่เพียงผู้เดียว สมควรตายแล้ว หากแต่คุณชายซู ในเมื่อขุมสมบัติของกองกำลังหุบเขาเงาไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เราค้นหาเจอ คุณชายก็ควรทำตามข้อตกลงมิใช่หรือ?”

ซูเฉินเอ่ยขึ้นตาไม่กะพริบ “ขออภัยด้วย เรื่องนี้นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การสังหารผู้ฝึกตนขั้นพลังด่านกลั่นโลหิตนั้นเป็นเรื่องสาหัสมาก”

“……” ได้ยินคำเขาแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่รู้จะเอ่ยคำใด

เจ้าสังหารคนของเราไปคนหนึ่ง แต่กลับทำท่าทีราวกับเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมเสียอย่างนั้น

หากแต่ถงลู่เพียงเอ่ยไปอย่างนั้น ตอนนี้พวกเขามุ่งความสนใจไปยังเรื่องเนินกลบวิญญาณ และมีเพียงซูเฉินที่รู้ว่าชุมสมบัติกองกำลังหุบเขาเงามีมากมายเพียงไหน ดังนั้นแม้พวกเขาจะบังคับให้ซูเฉินยอมแบ่งสมบัติ อีกฝ่ายก็อาจบอกว่ามีสมบัติเพียงสามหมื่นก็ยังได้ คนอื่นไม่อาจทำอันใดได้

ของที่เสียไปแล้วไม่จำเป็นต้องเรียกหากลับมาอีก มีแต่จะใช้สถานการณ์ในตอนนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนได้อย่างไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)