บทที่ 128 เนินกลบวิญญาณ (2)
คลื่นแห่งความมืดโถมกระหน่ำตรงเข้าหาซูเฉินผู้เตรียมพร้อมรับมือเอาไว้แล้ว เขาใช้ออกก้าวย่างหมอกอสรพิษถอยออกไปอย่างรวดเร็วดุจควัน ในขณะเดียวกันการป้องกันบนร่างกายของเขาก็ถูกซ้อนทับขึ้นไปอีกชั้น
ควันสีดำเป็นราวกับวิญญาณชั่วร้ายพุ่งเข้าใส่ร่างของซูเฉิน กระตุ้นให้เกิดเสียงดังก้อง
โล่ป้องกันบนร่างกายของซูเฉินเริ่มปรากฏแตกขึ้นทีละนิด เสียงกระทบฟังดูเปราพบางราวกับโดนหนามเม่นเข็มโลหิตกระหน่ำใส่
หลังจากเสียงเปราะดังก้อง โล่ป้องกันก็แตกออกทีล่ะชั้นราวกับเปลือกไข่
ซูเฉินถอยกลับเร็วยิ่งขึ้น เขาเพิ่มโล่ป้องกันบนร่างและเปลี่ยนทิศทางอย่างต่อเนื่อง
ควันสีดำก่อตัวเป็นมังกรไล่ตามเด็กหนุ่มอย่างไม่ลดละ ปกคลุมไปทั่วห้องโถง เมื่อได้ลองสังเกตใกล้ ๆ ปรากฎว่ามันคือแมลงสีดำที่ไม่มีชื่อจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในควันสีดำ ที่แท้เสียงเปราะแปะราวกับเม็ดฝนที่ตกกระทบลงบนโล่ป้องกันของซูเฉิน เกิดจากแมลงเหล่านั้นเอง
พวกมันมีปากแหลมที่ยาวและเปลือกที่แข็งเหมือนกระดูก ในตอนนี้พวกมันกำลังบินเข้าหาซูเฉินอีกครั้งพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน
โล่ป้องกันบนร่างกายของซูเฉินไม่สามารถต้านทานการโจมตีชุดนี้ได้ ขณะที่โล่ป้องกันชั้นสุดท้ายกำลังจะแตกออก ฝูงแมลงก็เริ่มพุ่งมาข้างหน้ามากขึ้น ทันใดนั้นซูเฉินก็พลิกมือของเขาและมีลูกไฟปรากฏขึ้น
ตูม!
ลูกไฟพุ่งเข้าใส่ฝูงแมลง เปลวไฟที่รุนแรงลุกลามเผาแมลงพิษจำนวนมากให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
เมื่อซูเฉินเห็นว่ามันได้ผล เขาก็ส่งลูกไฟอีกลูกออกไป
แมลงเหล่านี้มีเปลือกแข็ง แต่ไม่สามารถทนต่อการถูกย่างด้วยไฟได้
ภายใต้การระดมยิงลูกไฟอย่างต่อเนื่องของซูเฉิน พวกมันส่วนใหญ่ก็ได้ตายลงไปเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เหลือที่ฝ่าเปลวเพลิงมาได้ พวกมันก็ทำได้เพียงกระแทกเข้ากับโล่ป้องกันเท่านั้น ก่อนจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปพร้อมกับโล่ชั้นสุดท้าย
เมื่อแมลงตัวสุดท้ายได้ตายลง ในที่สุดซูเฉินก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แม้ว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันก็เลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขายังคงใจเย็น พยายามใช้การรุกแทนการป้องกันและใช้ไฟในการจัดการกับฝูงแมลง เขาอาจจะถูกกินไปเข้าไปแล้วหากเขามุ่งเน้นไปที่การปกป้องตัวเองเพียงอย่างเดียว
แมลงเหล่านี้ไม่ใช่กลไกกับดักที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในเนินกลบวิญญาณ แต่เป็นแมลงพิษกลายพันธุ์ที่มีวิวัฒนาการเพราะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับดอกซากวิญญาณมาเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อมขนาดเล็กเช่นนี้ ไม่มีแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมภายนอกแต่อย่างใด แมลงเหล่านี้จึงไม่สามารถพัฒนาร่างที่เสริมสร้างการป้องกันรอบด้านได้ พวกมันจึงมีจุดอ่อนอย่างชัดเจน ไม่มีไฟในเนินกลบวิญญาณ ดังนั้นความต้านทานต่อเปลวไฟก็ย่อมจะเป็นศูนย์
นี่คือสิ่งที่ซูเฉินตระหนักได้ในขณะที่กำลังถูกไล่ล่า อันที่จริงการที่เขาสามารถรักษาสติไว้ได้ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ มันก็นับได้ว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของซูเฉินได้เลยทีเดียว
ซูเฉินก้าวข้ามซากศพแมลงแล้วกลับมาที่กำแพงอีกครั้ง แม้ว่าจะมีกำแพงหนา ๆ กั้นอยู่ แต่เขาก็ยังคงได้กลิ่นเหม็นคาวของเลือดเนื้ออย่างรุนแรง
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกตัดขาดเป็นพื้นที่อิสระ ดินแดนแห่งนี้จึงได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวและความชั่วร้ายของสุสานอายุ 7,000 ปีอย่างแท้จริง
ใช่ สถานที่แห่งนี้คือสุสานโบราณขนาดยักษ์
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าซูเฉินในตอนนี้ คือหลุมขนาดใหญ่ที่เกลื่อนไปด้วยซากศพ
หลุมขนาดใหญ่ยักษ์นี้ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว ๆ 30 จั้ง และลึกพอสมควร ทั้งยีงมีส่วนที่ยื่นเด่นออกมาอยู่ 6 มุม พร้อมกับรูปแบบพลังต้นกำเนิดที่ซับซ้อนจำนวนมาก โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของหลุมมันบ่งชี้ว่ามีค่ายกลพลังต้นกำเนิดขนาดใหญ่ได้ถูกซ่อนอยู่ที่นี่
เมื่อเวลาผ่านไป ค่ายกลพลังต้นกำเนิดขนาดใหญ่ก็ได้สูญเสียประสิทธิภาพไป อย่างไรก็ตามผลของการเปิดใช้งานก็ได้ปรากฏให้เห็นอย่างสมบูรณ์อยู่ในหลุมยักษ์นี้ หลุมที่เต็มไปด้วยเลนโคลนสีดำและกระดูกขาวจำนวนมากที่กองกระจัดกระจายอยู่ท่ามกลางดินโคลนเหล่านั้น หากมองจากที่ไกล ๆ พวกมันราวกับเป็นพืชกระดูกที่ถูกหว่านไว้ในดินแดนรกร้างว่างเปล่าสีดำทั่วทั้งสุสาน
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่กระดูก แต่เป็นโคลนสีดำ !
โคลนดำ !
ซูเฉินรู้ดีว่านั่นไม่ใช่โคลน แต่เป็นเลือดและเนื้อ
โคลนเลนที่เกิดมาจากเลือดและเนื้อ
พูดให้ถูกต้องคือทุกสิ่งที่เตรียมไว้ในสถานที่แห่งนี้ มีจุดประสงค์ก็เพื่อสร้างโคลนเลือดเนื้อนี้ขึ้น
ภายในโคลนสีดำ นอกจากกระดูกขาวที่ยังคงไม่สลายไปเหล่านั้นแล้ว ยังมีดอกไม้สีดำขนาดเล็กจำนวนหนึ่งเติบโตอยู่ ดอกไม้เหล่านี้ไม่ได้ดูโดดเด่นมากนัก บ้างเติบโตในโคลน บ้างก็พันอยู่รอบกระดูก บ้างก็ห้อยเกาะอยู่ที่ผนังถ้ำ พวกมันเหมือนกับดอกไม้ป่าที่พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายนี้
ทว่าซูเฉินรู้ดีว่าดอกไม้เหล่านี้เป็นต้นเหตุของการตายของผู้คนนับไม่ถ้วน และส่งผลให้ทุกสิ่งที่เขาเห็นเบื้องหน้านี้เกิดเป็นจริงขึ้น
ดอกซากวิญญาณ
พืชประหลาดที่เติบโตในดินโคลนที่เกิดจากซากศพเน่าเปื่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)