บทที่ 51 การทำธุรกิจ (1)
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชู่ ซูเฉินก็เข้าใจทันที
ในป่าใหญ่ ก็ย่อมมีนกอยู่มากมายหลายชนิด
ผู้คนเองก็เช่นกันย่อมมีทั้งผู้ที่อาศัยโชคเพื่อทำมาหากิน ผู้ที่อาศัยการปล้นคนอื่นเพื่อให้ตนร่ำรวย ผู้ที่ทำงานอย่างขมขื่นเพื่อหาเลี้ยงชีพ และอีกมากที่พึ่งพาความฉลาดกับการปรับตัวที่ยืดหยุ่นเพื่อไต่ระดับสู่ความเป็นอยู่ที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าหลี่ชู่นับเป็นคนประเภทนั้น
บุคคลผู้นี้ไม่ใช่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้และไม่ได้มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง ชายวัยกลางคนจ่ายเงินเพื่อให้มาถึงอย่างปลอดภัยหุบเขามรกตโดยการเดินทางร่วมกับกลุ่มของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้
แม้ว่าหลี่ชู่จะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่เขาก็นับว่ามีสมองที่ดี เมื่อได้ยินข่าวลือว่าหุบเขามรกตมีแร่ดาราเงิน ชายวัยกลางคนก็ตัดสินใจจะมาทำธุรกิจที่นี่ ทว่าหลี่ชู่ไม่ได้วางแผนที่จะขุดหาแร่ดาราเงิน เขาไม่มีกำลังพอที่ต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อแย่งชิงทำเลดี ๆ ดังนั้นก็คงจะขุดได้เพียงแค่เล็กน้อย และแม้ว่าเขาจะพบแร่ดาราเงินที่กระจัดกระจาย ก็อาจจะถูกผู้อื่นขโมยไปได้อยู่ดี
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะวางตัวเป็นผู้ช่วย ตั้งแต่หลี่ชู่เข้ามาในหุบเขามรกต เขาก็เริ่มมองหาต้นขาอวบ ๆ ที่พอจะให้เขาพึ่งพาได้
[ต้นขาอวบ ๆ / คนขาใหญ่ – เป็นการเปรียบเทียบถึงผู้แข็งแกร่ง / ผู้มีอำนาจ]
อย่างไรก็ตาม โชคของหลี่ชู่ไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าจะได้ลองถามคนไปหลายกลุ่ม แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจเขาเลย
เหตุผลหลักของเรื่องนี้ นั่นก็เพราะราคาที่หลี่ชู่เอ่ยปากขอนั้นสูงเกินไป
5 วันต่อหินพลังต้นกำเนิด 1 ก้อน
มูลค่าของหินพลังต้นกำเนิดนั้นใกล้เคียงกับทองคำอย่างมาก แม้แต่ผู้ช่วยร้านค้าเองก็ยังได้รับทองคำเพียงแค่ 1 ถึง 2 ตำลึงเท่านั้น สำหรับการทำงานตลอดทั้งเดือน
พูดอีกอย่างคือราคาที่ชายวัยกลางคนผู้นี้เรียกร้องมา เท่ากับ 6 เท่าของคนทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครต้องการเขา
แต่หลี่ชู่ก็ยังคงยืนยันราคาขอของเขา ชายวัยกลางคนเชื่อว่าตนจะสามารถหาผู้ที่มีเงินและมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเขาออกได้
หลังจากคุยกับหลี่ชู่แล้ว ซูเฉินก็ยิ้มขึ้น
“เจ้ากล้าที่จะเรียกร้องราคา? ไม่กลัวว่าข้าจะโกรธแล้วสังหารเจ้าทิ้งงั้นหรือ?”
หลี่ชู่กล่าวขัดอย่างเร่งรีบ “นายท่าน เข้าใจผิดแล้ว ๆ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการจะกล่าว ไม่ใช่ว่าผู้น้อยคนนี้ขอราคาสูงเกินไป แต่คนท้องถิ่นนั้นมีค่าสูงกว่าคนจากภายนอกถึง 3 เท่า”
“โอ้?” ซูเฉินตกตะลึง
หลี่ชู่พูดต่อ “นายท่านโปรดลองคิดดู หุบเขามรกตนี้อยู่ลึกเข้ามาในเทือกเขาสีเลือด เส้นทางเต็มไปด้วยอสูรร้ายมากมาย การเดินทางนั้นยากลำบากและยังยากที่จะเข้าออก การมาที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายการทำงานก็เช่นกัน แล้วใครมันจะอยากมาในที่แบบนี้?”
นั่นเป็นเรื่องจริง ถ้าไม่ใช่เพื่อความหวังที่จะมั่งคั่งร่ำรวย ใครหน้าไหนมันจะกล้าเสี่ยงอันตรายมาในที่เช่นนี้กัน?
“ดังนั้นมูลค่าจริง ๆ ของผู้น้อยนั้น จึงไม่ใช่ 6 เท่าของผู้อื่น แต่นับเป็นเพียง 2 แค่เท่าเท่านั้น” หลี่ชู่ยิ้มแล้วยกสองนิ้ว
“ 2 เท่าของผู้อื่น? เจ้าช่างรู้จักคำนวณจริง ๆ ” ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะไปกับคำกล่าวของหลี่ชู่ “เช่นนั้น เหตุใดเจ้าถึงได้มีค่ามากกว่าผู้อื่นถึง 2 เท่า?”
“ข้าคำนวณตามพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่าตัวข้า หลี่ชู่ สามารถอ่านเขียนและคำนวณ ทั้งยังสามารถระบุแร่ธาตุต่าง ๆ ได้อีกด้วย” หลี่ชู่ตอบอย่างภาคภูมิใจ
นี่คือยุคที่ศิลปะการต่อสู้มีความสำคัญมากกว่าวรรณคดี ค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์หนังสือนั้นค่อนข้างสูงและยังยากที่จะเผยแพร่ นำไปสู่ความยากลำบากในการสื่อสารทางด้านวัฒนธรรม แม้แต่ชนชั้นกลางกับชนชั้นสูงหลายคนก็ยังไม่ได้รับการศึกษาและไม่รู้วิธีการอ่านเขียน แล้วจะนับประสาอะไรกับชนชั้นล่าง
สำหรับหลี่ชู่ที่รู้วิธีอ่านเขียนและคำนวณ ถือได้ว่าเขามีทักษะที่ค่อนข้างหายากอย่างแท้จริง
ซูเฉินมองเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “แต่ดูเหมือนว่าความสามารถของเจ้า จะไม่ค่อยมีประโยชน์ในสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่นะ”
ใบหน้าของหลี่ชู่เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอาย
ถูกต้องแล้ว หากเขาคำนวณได้แล้วยังไง? หากเขาสมองดีแล้วมันจะทำไม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)