ตอนที่ 597 นี่คือจุดจบของผู้ที่รุกรานคฤหาสน์กระท่อมฟางของข้า!
หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ดิ่งลงสู่พื้นตามกันไป
ตูม! ร่างกายครึ่งซีกของจงหยวนจมหายไปใต้พื้นดิน ค่อยๆ มีโลหิตไหลซึมเจิ่งนอง
ทันทีที่กระบี่ร่วงถึงพื้นก็เลือนหายไปในทันใด เหลือเพียงชายในชุดลายดอกที่ลอยลงสู่พื้น มองจงหยวนที่ดวงตายังกะพริบอยู่เล็กน้อย
หน่วยจู่โจมที่ต่อสู้อยู่รอบข้างตกใจเป็นอย่างมาก แม้แต่จงหยวนก็ถูกสังหารไปแล้ว ยังจะมีใครกล้าเข้าใกล้คนผู้นี้อีก ต่างหันหลังหลบหนีไป
“จ้าว…” จงหยวนจ้องมองชายในชุดลายดอกพลางเปล่งเสียงอ่อนแรงออกมา ในแววตาคล้ายจะแฝงความพะวงอยากฝากฝัง แต่สุดท้ายยังไม่ทันได้เอ่ยออกไป ดวงตาก็แข็งทื่อไม่ไหวติง แล้วก็ไม่มีลมหายใจอีก
เมื่อยอดฝีมือตัดสินแพ้ชนะ น้อยครั้งนักที่จะยอมออมมือไม่เอาถึงตาย ความจริงแล้วตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองเปิดฉากต่อสู้กัน เวลาก็เพิ่งจะผ่ามาได้ไม่เท่าไร เพียงไม่นานก็ตัดสินแพ้ชนะได้
พิรุณโลหิตที่เพิ่งจะร่วงตกลงมาในยามนี้ไหลย้อมร่าง ชายในชุดลายดอกเบือนสายตาไปจากใบหน้าเขา มองไปทางคฤหาสน์กระท่อมฟาง สะบัดแขนเสื้อทั้งสองข้าง ทะยานร่างขึ้นสู่อากาศ สองแขนขยับกระพือราววิหคตัวหนึ่ง โฉบผ่านเหนือหัวกลุ่มคนที่ต่อสู้อยู่ด้านล่างไป
เขาไม่สนใจว่ากลุ่มคนด้านล่างใครจะแพ้ใครจะชนะ เขาไม่มีทางตามไล่ล่าสังหารหน่วยจู่โจมไปทีละคนๆ เพื่อคนชุดดำโพกหน้าฝั่งหนิวโหย่วเต้า
เมื่อมาถึงบนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์กระท่อมฟาง เขาร่อนลงบนหอสูงอย่างแผ่วเบา เดินเอื่อยๆ เข้าไปยืนข้างกายหนิวโหย่วเต้าอย่างเงียบๆ หนังหน้าปลอมแผ่นนั้นยังคงราบเรียบไร้อารมณ์
บนหอสูงเงียบสนิท ทุกคนมองเขาด้วยความตกตะลึง
หวงเลี่ยมองเขา จากนั้นก็มองหนิวโหย่วเต้า
แววตาของอิ๋นเอ๋อร์ที่กอดกล่องอาหารเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางเดินเข้าหยุดข้างๆ ชายในชุดลายดอก ยื่นหน้าเข้าไปดูใบหน้าของเขา ชายในชุดลายดอกก็จ้องมองสาวน้อยจอมตะกละคนนี้เช่นกัน
อิ๋นเอ๋อร์อมดูดคราบน้ำมันบนนิ้วมือเล็กน้อย จากนั้นยื่นออกไปหาชายในชุดลายดอก คิดจะดึงหน้ากากหนังออกจากหน้าเขา
ดวงตาของชายในชุดลายดอกเต็มไปด้วยความรังเกียจ ยกแขนเสื้อปัดมือของนางออกไป
ในเวลานี้ทุกคนที่ไม่ทราบความในล้วนคิดว่าสตรีนางนี้คงปัญญาอ่อน อยากจะรนหาที่ตายหรือไร?
อิ๋นเอ๋อร์พลันถลึงตาใส่ ท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง
คราวนี้ถึงตาคนที่ทราบความในอย่างพวกก่วนฟางอี๋ที่เหงื่อตกแทนชายในชุดลายดอกขึ้นมา เขาสามารถสังหารจงหยวนได้ แต่เกรงว่าจะยังไม่เพียงพอสำหรับต่อกรกับราชินีปีศาจตนนี้ ที่สำคัญคือจะลามเดือดร้อนมาถึงพวกเขาด้วย!
เคราะห์ดีที่ซางซูชิงที่อกสั่นขวัญแขวนนึกเป็นห่วงอิ๋นเอ๋อร์ จึงเข้าไปลากอิ๋นเอ๋อร์ออกมาทันที กระซิบกล่อมว่า “อิ๋นเอ๋อร์ ห้ามก่อเรื่องนะ”
ถึงแม้อิ๋นเอ๋อร์จะยอมปล่อยให้ซางซูชิงลากออกมา แต่ยังคงเบะปากด่าทอชายในชุดลายดอก “คนเลว!”
เดิมทีชายในชุดลายดอกก็มองนางเป็นแค่จอมตะกละอยู่แล้ว จึงคร้านจะถือสาหาความกับสตรีปัญญาอ่อนเช่นนี้
หน่วยจู่โจมในหุบเขาเริ่มแตกพ่ายหลบหนีไปคนละทิศคนละทาง ทันทีที่จงหยวนสิ้นใจ ขวัญกำลังใจก็ป่นปี้!
เดิมทีการเผชิญหน้ากับคนชุดดำโพกหน้ากลุ่มนี้ก็ทำให้พวกเขาเสียเปรียบอยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่จงหยวนก็ยังไม่รอด ยังมีอะไรต้องสู้อีกเล่า? ต่อให้ทุ่มสุดตัว แต่หนิวโหย่วเต้ามียอดฝีมือเช่นนี้คุ้มกันอยู่ข้างกาย ไม่มีทางสังหารหนิวโหย่วเต้าได้เลย ถึงสู้สุดตัวก็มีแต่ตายเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตสู้ต่อแล้ว ต้องหนีเท่านั้น!
พอเห็นคนชุดดำโพกหน้ากลุ่มนั้นต้องการตามไล่ล่า หนิวโหย่วเต้าก็เปล่งเสียงขึ้นมา “ปล่อยไป ไม่ต้องตาม!”
คนชุดดำโพกหน้าคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนกำแพงผิวปากขึ้นมาทันที หยุดการตามล่า
“ต้วนหู่ เหลยจงคัง อู๋ซานเหลี่ยง” หนิวโหย่วเต้าตะโกนเรียก
ทั้งสามคนก้าวออกมาทันที ประสานมือขานรับพร้อมเพรียง “เต้าเหยี่ย!”
หนิวโหย่วเต้าทอดมองไปด้านหน้า เอ่ยทั้งที่หันหลังให้คนทั้งสาม “พวกเจ้าทั้งสามแบ่งกำลังไปคนละหนึ่งร้อย ไปให้การสนับสนุนสำนักเซียนสถิต สำนักเมฆาล่องและสำนักคีรีพิลาส”
“ขอรับ!” ทั้งสามรับคำสั่ง รีบลงไปติดต่อกับทางฝั่งคนชุดดำโพกหน้าเล็กน้อย จากนั้นต่างนำกำลังหนึ่งร้อยคนทะยานออกไป
ศัตรูตัวฉกาจล่าถอยไปแล้ว ตอนนี้ถึงแบ่งกำลังป้องกันภายในคฤหาสน์กระท่อมฟางออกไป หนิวโหย่วเต้าก็ไม่กังวลแล้วเช่นกัน แอบลอบถอนใจอย่างโล่งอก ตอนแรกยังแอบกลัวอยู่ว่าชายในชุดลายดอกจะสู้จงหยวนไม่ได้ ทำเอาเขาใจหายใจคว่ำอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว
แต่เขาก็รู้สึกโชคดีที่ตนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าโดยเชิญคนผู้นี้มาก่อน มิเช่นนั้นหากทำตามที่มั่นใจก่อนหน้านี้คงกลายเป็นการสร้างปัญหาเดือดร้อนให้ตัวเอง
เพราะศัตรูที่ต้องต่อกรด้วยก็คือราชสำนักแคว้นเยี่ยน จะเข้าปะทะกับกลุ่มอำนาจระดับนี้ เขาย่อมเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมากเอาไว้แต่แรก สามารถนำพลังอำนาจใดมาใช้ได้เขาล้วนหยิบมาใช้ทั้งสิ้น
ครั้งนี้เรียกได้ว่าป็นครั้งแรกที่เขาทุ่มกำลังทั้งหมดที่ตนมีออกมาปะทะกับราชสำนักแคว้นเยี่ยนอย่างซึ่งหน้า!
หนิวโหย่วเต้ามองหยดเลือดที่เปรอะเปื้อนร่างชายชุดลายดอก จากนั้นยกนิ้วโป้งให้เขาทีหนึ่ง “สมเป็นยอดฝีมือโดยแท้!”
ชายในชุดลายดอกเหลือบมองด้วยแววตาเย็นชา
อยู่กลางอากาศมองเห็นได้ไม่ชัดนัก ก่าเหมี่ยวสุ่ยบังคับวิหคยักษ์ให้โฉบต่ำลงเล็กน้อย เมื่อเห็นจงหยวนที่สิ้นใจตายอยู่บนพื้นก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ประกอบกับเหล่ายอดฝีมือที่มาลอบโจมตีล้วนแตกพ่ายแล้ว ก่าเหมี่ยวสุ่ยทราบดีว่าดำเนินการต่อไปไม่ได้แล้ว จึงบังคับวิหคยักษ์บินฝ่าอากาศ หลบหนีไปทันที!
ภาะเหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของหนิวโหย่วเต้า ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเฝ้าสังเกตการณ์ต่อสู้อยู่บนท้องฟ้ามาโดยตลอด จึงทำให้เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายคงมีฐานะไม่ธรรมดาแน่นอน เขาชี้มือพลางออกคำสั่งในทันใด “ไปดูว่าเป็นใคร นำอินทรีแดงนักล่าไล่ตามไป ลองดูว่าจับตัวมาได้หรือไม่!”
คนชุดดำโพกหน้าหลายคนกระโจนขึ้นไปบนอินทรีแดงนักล่าสองตัว โผขึ้นสู่อากาศไล่ตามไป…
บนยอดเขา พอเห็นผู้บำเพ็ญเพียรที่ลอบโจมตีกระโดนพุ่งลงมาจากบนอากาศ ลุงเฉินและอู๋เหล่าเอ้อร์ก็เข้าไปคุ้มกันอยู่เบื้องหน้าหยวนกังทันที ภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้คือคุ้มกันหยวนกัง
แต่ผู้บำเพ็ญเพียรเหล่านี้ไม่สนใจจะต่อสู้เลย กำลังหนีเอาชีวิตรอดอยู่ ไหนเลยจะมาพัวพันอยู่ตรงนี้ได้ ทะยานผ่านศีรษะของพวกเขาไป เหินผ่านสนามรบด้านล่างไป รีบเร่งหลบหนี
“ท่านประมุข พวกเขาหนีกันไปแล้วขอรับ!”
มีใครคนหนึ่งในหมู่ศิษย์ของหอบุปผาล่องที่เผชิญการปิดล้อมตะโกนขึ้นมา
เฉาอวี้เอ๋อร์ที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง โลหิตเปรอะเปื้อนทั่วร่าง กำลังเหวี่ยงกระบี่ไปมาเพื่อบีบให้ศัตรูถอยร่นไป พลันเงยหน้ามองขึ้นไป มองเห็นยอดฝีมือเหล่านั้นกำลังหลบหนีไป
จากนั้นก็มองดูเหล่าศิษย์หอบุปผาล่องที่นอนตายเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นอย่างน่าอนาถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า