จากการกระทำของลู่เสวียน เจียงหลีเพียงรู้สึกว่ามีหมอกสีขาวด้านหน้า
หลังจากนั้นเสียงกรีดร้องของทั้งแปดคนก็ดังขึ้นในหูของนาง
“รีบไปเถอะ!” เสียงของลู่เสวียนดังขึ้น
เจียงหลีรู้สึกแน่นที่มือ เด็กหนุ่มจับมือนางเพื่อไปให้ทันก่อนที่หมอกสีขาวจะจางหายไป ฝ่าอุปสรรคที่กีดขวาง และหนีไปให้ไกลอีกครั้ง
“เจ้าจะพกผงยาไว้ตลอดเลยหรือ” หนีไปได้ไกลแล้ว เจียงหลีถึงได้มองลู่เสวียนด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่ลู่เสวียนทำ มันเหนือความคาดหมายของนาง
วิธีการที่สกปรกเช่นนี้ ไม่คิดว่าซื่อจื่อของตระกูลลู่ก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่เคอะเขินสักนิด!
ถ้าเป็นราชินีที่งดงามดั่งนาง ไม่สามารถทำเรื่องอะไรที่ต่ำช้าเช่นนี้ได้แน่นอน
เหอะ เหอะ!
“คิดจะท่องยุทธภพ แน่นอนว่าต้องเตรียมอาวุธลับ! หลียาโถ่ว พวกเขาไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมน้ำมิตรแห่งชาวยุทธภพ มีหลิงเจี้ยงมากมายมาหาเรื่องเด็กสองคนอย่างพวกเรา พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ!” ลู่เสวียนวิ่งไปด้วย และไม่ลืมที่จะหันมาอธิบายกับเจียงหลี
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของเขา มุมปากของเจียงหลีกระตุกอย่างรุนแรง
เหมือนว่านางจะพบข้อดีบางอย่างในตัวลู่เสวียน นั่นก็คือใบหน้าที่หนามาก!
“ผงยาเหล่านั้นไม่สามารถฆ่าคนได้ จัดการได้เพียงหูตาจมูกปากของพวกเขาเท่านั้น และช่วยไม่ได้นาน พวกเราต้องรีบหน่อย หาผู้ดูแลของสถาบันให้เจอ เราก็จะรอดจากภัยนี้ไปได้” ลู่เสวียนกล่าวแก่เจียงหลี
“ผู้ดูแลหรือ” เจียงหลีถามทวนอีกครั้ง
ลู่เสวียนพยักหน้าแรงๆ “เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียที่มากนัก สำนักหลิงอู่และสถาบันไป๋หยวนได้จัดให้มีอาจารย์มาดูแลอย่างเงียบๆ แต่ว่า หุบเขาโยวโยวกว้างใหญ่เช่นนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึงทุกซอกมุม ตอนนี้ สิ่งที่ทำได้คือเราต้องไปหาพวกเขาให้เจอ มิฉะนั้นแล้ว ทำได้เพียงแค่ยกเลิกการทดสอบ และจากหุบเขาโยวโยวนี้ไป”
ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว เจียงหลีรับรู้ได้ถึงความโกรธและไม่เต็มใจ
แต่ว่า เหตุผลของเขา กลับทำให้เจียงหลีรู้สึกประทับใจ ไม่ประมาท ไม่ใจร้อน ซื่อจื่อของตระกูลลู่นี่นับว่าไม่เลว
“เกรงว่าพวกเขาจะไม่มอบโอกาสนี้ให้เรา” เจียงหลีเก็บความคิด และกล่าวประโยคหนึ่งเบาๆ
ลู่เสวียนมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ
เจียงหลีกลับกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าสงสัยว่านักฆ่าพวกนี้มีส่วนรู้เห็นกับสำนักหลิงอู่ เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ให้เราหาผู้ดูแลของสถาบันไป๋หยวนเจออย่างง่ายดาย”
ลู่เสวียนรู้สึกหนักอึ้งในใจ กัดฟันกล่าว “เช่นนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือหนีไปยังทางออก”
“คิดจะหนีหรือ พวกเจ้าจะหนีไปได้หรือ”
ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน อยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านบน มาพร้อมกับพลังวิญญาณอันทรงพลัง มุ่งตรงมาที่พื้น เป้าหมายของมันคือเจียงหลีและลู่เสวียน
ตู้มมม!
พลังวิญญาณ ระเบิดออกจนทำให้ดินและหญ้าบนพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
เจียงหลีและลู่เสวียนรู้สึกตึงหน้าอก ไอร้อนและเลือดขึ้นคอ กระโจนไปข้างหน้าทั้งร่าง ขณะเดียวกัน ก็มีพลังวิญญาณหลายดวง พุ่งไปโจมตีพวกเขา
“เลี่ยเทียนซื่อ!”
“ฉิวหลง!”
เจียงหลีและลู่เสวียนต่างก็ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์โดยไม่ได้นัดหมาย
แสงสีทองสองเส้นออกมาจากร่างของพวกเขา ม้วนรวมเข้ากับพลังวิญญาณ ม้วนหินดินทรายและหนามหญ้าที่ลอยอยู่บนอากาศ
ตูม ตูม ตู้มมม!
พลังวิญญาณที่ปะทะกันอย่างดุเดือด พากันระเบิดอย่างไม่หยุดยั้ง
ในที่สุดเจียงหลีและลู่เสวียนก็ยืนหยัดขึ้นมาได้ ปลดปล่อยลมปราณที่อยู่ภายในร่างกายออกมา ด้านหลังทั้งสอง มีแสงสีทองกะพริบ และมีเงาของสัตว์ที่ดุร้าย
ฝุ่นที่ปกคลุมดวงตา ทำให้มองเห็นรอบข้างไม่ชัด
แน่นอน เจียงหลีและลู่เสวียนก็ไม่กล้าขยับตัวตามอำเภอใจ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ว่าถูกมวลพลังวิญญาณล้อมไว้แล้ว
ทำอย่างไรดี สายตาลู่เสวียนหันไปมองที่เจียงหลี และส่งคำถามด้วยสายตา
ไม่รู้เพราะเหตุใด ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ เขากลับอยากฟังวิธีคิดของเด็กสาวคนนี้
เจียงหลีปิดปากแน่น ไม่ได้ตอบกลับลู่เสวียน

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์