ขอเพียงหลีเอ๋อร์ยอมปกป้องข้า ก็เพียงพอแล้ว!
กลับมาถึงจวนอ๋องลู่ กลับมาถึงเรือนของตน เจียงหลีก็ยังวนเวียนอยู่ในคำพูดนั้นของลู่เจี้ย
“นายหญิง นายหญิง?” อวี้ซูที่สายใช้ข้างกายเรียกอยู่สองสามครั้ง ถึงได้เรียกเจียงหลีที่ใจลอยไม่ได้สติให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด
“อะไรหรือ” เจียงหลีสีหน้าสับสนมองไปทางอวี้ซู
อวี้ซูถามอย่างสงสัย “นายหญิงกำลังคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ บ่าวเรียกนายหญิงตั้งหลายที อีกอย่าง นายหญิงร้อนหรือเจ้าคะ หน้าแดงมากเลยเจ้าค่ะ! ”
หน้าแดงหรือ!
เจียงหลีใช้สองมือประกบสองแก้มของตนอย่างว่องไว ถูกอวี้ซูทักขึ้นมา นางถึงรู้สึกว่าแก้มของตนนั้นร้อนผ่าวจริงๆ และคอยังแห้งผากไปหมด
“ไปเทน้ำมาให้ข้าแก้วหนึ่ง” เจียงหลีสงบสติอารมณ์แล้วเอ่ยปากสั่ง
อวี้ซูหันกลับแล้วเดินไป
พอในห้องเหลือเพียงเจียงหลีคนเดียว นางถึงได้หงุดหงิดในใจ ให้ตายสิ! ถูกคำพูดประโยคเดียวของเขาเย้าแหย่เอาเสียจนได้
“ขอเพียงข้ายอมปกป้องเขาหรือ ข้าเพียงเห็นว่าเขาน่าเวทนา จึงได้เมตตากรุณาก็เท่านั้น!” จักรพรรดินีนางหนึ่งปากแข็งบ่นพึมพำ
ไม่นานอวี้ซูก็ยกน้ำเดินเข้ามา ส่งมาตรงหน้าเจียงหลี
เจียงหลีรับมา ดื่มไปอึกใหญ่ หลังจากน้ำสะอาดไหลลงสู่ท้อง นางถึงรู้สึกว่าความร้อนรุ่มในร่างกายตนนั้นหายไปบ้างแล้ว
“นายหญิงคืนนี้ในวังเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ พระชายาให้คนส่งแก้วแหวนเงินทอง ผ้าผ่อนไหมแพรมามากมาย บอกว่าแม่นางสร้างผลงานตอนอยู่ในวัง ล้วนแต่เพื่อตบรางวัลให้กับแม่นาง” เห็นว่าเจียงหลีสีหน้ากลับคืนเป็นปกติแล้ว อวี้ซูก็อดถามขึ้นไม่ได้
เจียงหลีนิ่งอึ้งไป เหยียดตัวตรง เงยหน้าขึ้นมองโต๊ะในห้อง มีของรางวัลหลายถาดจัดวางอยู่จริงๆ
แก้วแหวนเงินทองเหล่านั้นเปล่งประกายวาววับ ล้ำค่าราคาแพง
ต้องบอกว่า พระชายาลู่นั้นช่างใจกว้างเสียจริง!
“พระชายารับสั่งไว้ว่า ท่านร่างกายผอมโซอ่อนแอเกินไป จากวันนี้ไป ห้องครัวจะจัดเตรียมอาหารบำรุงแก่นายหญิงทุกวัน นายหญิงจะต้องดื่มน้ำแกงยาตามเวลา บำรุงร่างกายเสียหน่อย” อวี้ซูกล่าวเพิ่มอีก
เจียงหลีมองนางอย่างประหลาดใจ “ข้าอ่อนแอหรือ” นางสามารถทุบตีองค์หญิงรัฐฉู่จนเป็นสภาพเช่นนั้นได้ ยังเรียกว่าอ่อนแออยู่หรือ
อวี้ซูมองสังเกตนางอย่างละเอียดถี่ถ้วน พยักหน้าอย่างจริงใจ
“…” เจียงหลีหมดคำพูดชะงักค้างไป ก็ได้ หากมองเพียงรูปร่างของนางแล้ว นางก็จำเป็นต้องบำรุงจริงๆ
รูปร่างอันน่าภาคภูมิของข้า! เมื่อไรเจ้าจะกลับมา เจียงหลีโอดครวญอยู่ในใจ แววตาหมดหวังและเฝ้ารอ
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบก็ลอยมาจากด้านนอก
เจียงหลีดวงตาแข็งค้างไป ลางไม่ดีลอยขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นางและอวี้ซูมองไปนอกประตูพร้อมกัน ก็ได้เห็นอวี้เฉินวิ่งล้มลุกคลุกคลานกระโจนเข้ามา
“นายหญิง นายน้อยรับสั่งว่า ให้นายหญิงรีบไปปรนนิบัตินายน้อยเข้านอนเจ้าค่ะ” อวี้เฉินคุกเข่าลงกับพื้น เงยหน้าขึ้นมองเจียงหลี
ปรนนิบัติเข้านอน?
เจียงหลีอึ้งชะงักไปทันใด รีบลุกขึ้น ลืมใส่รองเท้ารีบร้อนวิ่งออกไป
“นี่! นายหญิง รองเท้า…รองเท้า…” อวี้ซูรีบหยิบรองเท้าของเจียงหลีแล้วรีบร้อนวิ่งตามไป
…
ลู่เจี้ยเกิดเรื่องแล้ว! จะต้องอาการกำเริบอีกเป็นแน่! ขณะที่วิ่งไปทางเรือนของลู่เจี้ยนั้น ในใจของเจียงหลีก็คาดเดาความจริงเกี่ยวกับเรื่อง ‘ปรนนิบัติเข้านอน’ นี้ออก
ทุกวันนี้ฉลากกำกับบนตัวนางนั้น ก็คือสาวรับใช้อุ่นเตียงนอน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพียงเพื่อปกปิดความจริงเท่านั้น
หากไม่มีความจำเป็นแล้ว ลู่เจี้ยจะไม่เรียกตัวนางเช่นนี้
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!
เมื่อเจียงหลีพุ่งเข้าเรือนของลู่เจี้ย สาวใช้และบ่าวติดตามในห้องต่างก็ถูกไล่ให้ถอยออกไปก่อนแล้ว บนเตียงใหญ่หลังม่านตาข่ายนั้น มีเงาคนส่ายไปมา
“หลีเอ๋อร์ มานี่” ในน้ำเสียงอดกลั้นของลู่เจี้ย มีความสั่นเครืออยู่เล็กน้อย
ความเจ็บปวดที่สามารถทำให้คนเช่นเขาแทบจะทนไม่ไหว เจียงหลีนั้นนึกไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์