ในชั่วขณะที่เจียงหลีกลอกตาไปมอง เสียงนั้น ก็หายไปในทันใด
ด้านหลังของนาง ไร้ซึ่งผู้คน เงียบสงัดจนน่าประหลาด เสียงเล็กๆ เหล่านั้นเมื่อครู่ เหมือนว่าเป็นสิ่งลวงตาเท่านั้น
เป็นไปไม่ได้! เจียงหลีหรี่ตาเล็กน้อย ในช่องระหว่างตานั้นก็มีแสงส่องประกายขึ้นมาทันใด
นางไม่มีทางรู้สึกไปเองได้ มีคนตามนางมาจริงๆ
แต่ทว่า ครึ่งวันมานี้ นางกลับไม่พบอะไรเลย อาณาเขตหลิงอู่กว้างใหญ่นัก เดินไปครึ่งค่อนวัน นางยังไม่เห็นวิญญาณยุทธ์ที่ดุร้ายเลยสักตัว อีกยังไม่เห็นคนอื่นๆ ด้วย แต่ว่า กลับมีคนแอบตามนางมาหรือ
เจียงหลีก้าวเท้าออก เดินไปทางที่เสียงดังขึ้น
ทันใดนั้นเอง มีภาพมายาของกระต่ายทองตัวหนึ่งมุดออกมาจากพงหญ้า มันกระโดดออกจากพงหญ้ามา กระโดดได้สูงกว่า และเร็วกว่ากระต่ายจริง ผ่านสายตาเจียงหลีไป เกิดเป็นแสงสีทองอร่ามขึ้น
“กระต่ายหรือ” เจียงหลีคาดไม่ถึง
หรือว่าเสียงเมื่อครู่นี้ เกิดจากวิญญาณยุทธ์ของกระต่ายหรือ
เจียงหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย ยืนอยู่กับที่ครุ่นคิดสักครู่
รอบข้างเงียบสงัด ไม่มีเสียงถูกคนสะกดรอยตามเหมือนเมื่อครู่
เมื่อไม่พบอะไร เจียงหลีก็หันกลับไป แล้วเดินหน้าต่อ
เมื่อเงาของนางค่อยๆ หายไปในป่า เงามายาสองเงา จึงได้ปรากฏขึ้นตรงที่เจียงหลียืนอยู่ก่อนหน้านี้
สองคนนั้น รูปร่างสูงยาว นอกจากนี้ ทั้งสองต่างก็สวมชุดคลุมสีดำที่คลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกปิดใบหน้าของตนเอง
ทันใดนั้นเอง หนึ่งในนั้นก็เปิดหมวกออก เผยใบหน้าของเขาออกมา
หากเจียงหลีเห็นใบหน้านี้แล้วจะต้องตกตะลึงเป็นอย่างมากเป็นแน่
“นายน้อยขอรับ นี่พวกเรา…” ลู่จ้านขมวดคิ้ว สีหน้าสงสัยมองไปทางชายหนุ่มข้างกาย
เขาคิดไม่ตกเกี่ยวกับความคิดของนายน้อย
เจียงหลีเข้าสู่อาณาเขตหลิงอู่ตามหาวิญญาณยุทธ์ที่สอง เป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก แต่ทว่า นายน้อยของพวกเขากลับยอมใช้ทรัพยากรมากมายอย่างไม่เสียดาย ตั้งใจสั่งใช้ผู้อาวุโสในตระกูลตัวเองมาสามท่าน เพื่อเปิดประตูทางเข้า ให้พวกเขาสองคนได้ตามเข้ามา เข้ามาไม่ว่า กลับยังไม่เผยหน้าตาอีก นี่หมายความว่าอย่างไรกัน
“วิญญาณยุทธ์เสวียนกังกุยหาไม่ง่ายนัก หลีเอ๋อร์คนเดียวเกรงว่าเวลาจะไม่พอ” เสียงของลู่เจี้ย ลอยมาจากในเงาใต้หมวกคลุม
ใบหน้างดงามของเขา ถูกปิดบังไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงขณะที่เขาพูดอยู่ แสงเงาเปลี่ยนแปร จึงจะเห็นริมฝีปากแดงก่ำของเขา
“…” ลู่จ้านงงงวย
ก็ได้ ถึงแม้จะกังวลเรื่องนี้ แต่นายน้อยก็ไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเองนี่! นอกจากนี้ บอกว่าจะไปหาเสวียนกังกุยมิใช่หรือ พอเข้ามา นายน้อยก็ใช้พลังแห่งความนึกคิดตามหาเบาะแสของเจียงหลี แอบติดตาม แต่กลับไม่ให้นางพบ เป็นเพราะอะไรกัน
“ลู่จ้าน” ทันใดนั้น ลู่เจี้ยก็เรียกชื่อเขาขึ้นมา
ลู่จ้านเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด “ขอรับ!”
“จำไว้ เรื่องที่พวกเราปรากฏตัวอยู่ที่นี่ อย่าให้ผู้ใดรู้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะ นาง” ลู่เจี้ยกำชับเขาอย่างเชื่องช้า
“ขอรับ” ลู่จ้านพยักหน้า
ถึงแม้ว่า เขาจะยังไม่เข้าใจความคิดของลู่เจี้ย
ระยะนี้ เขารู้สึกว่า นายน้อยของตนนั้นเหมือนว่าจะเปลี่ยนไป นายน้อยในก่อนหน้านั้น ทำให้คนรู้สึกปวดใจ มักจะทนทุกข์อยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่เคยเผยความทุกข์ความสุขของตนออกมา
แต่ว่านายน้อยในวันนี้ ถึงแม้จะอยู่คนเดียวเช่นเดิม แต่ในบางครั้ง จะเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ความกระปรี้กระเปร่าในดวงตานั้นก็มีมากขึ้นด้วย
ที่สำคัญคือ เขารู้สึกว่าความสนใจที่มีต่อเจียงหลีของนายน้อยของตน มีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไปกันเถอะ” ลู่เจี้ยก้าวเท้าออกเดินไป
“ตามต่อหรือขอรับ” ลู่จ้านเอ่ยถาม

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์