พลังวิญญาณนั้นรุนแรง อีกยังบริสุทธิ์ยิ่งนัก
เมื่อตกลงมาที่เจียงหลีนั้น นางก็รู้สึกว่ารอบกายนางถูกขังลงกลอนเอาไว้ ไม่สามารถหนีออกไปได้ ยอดฝีมือ!
ขณะนั้น เจียงหลีก็รู้ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า คนที่ลงมือของฝั่งตรงข้ามนั้น ระดับขั้นฝึกฝนนั้นสูงกว่านาง! นอกจากนั้น เป็นคู่ต่อกรที่ถึงแม้นางจะข้ามขั้นแล้วก็ยากจะเทียบได้
พลังวิญญาณอยู่บนศีรษะของเจียงหลี กลายเป็นฝ่ามือยักษ์ ฟาดใส่หน้านางอย่างรุนแรง
เจียงหลียกตาขึ้นมองดูฝ่ามือยักษ์ที่กำลังกดทับมาทางนาง คิดว่าหากนางถูกโจมตีแล้ว จะต้องถูกฟาดจนกลายเป็นเนื้อบดเป็นแน่
“เลี่ยเทียนซื่อ!” ภายใต้สถานการณ์คับขัน เจียงหลีก็ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมาก
แสงสีทองปรากฏขึ้นมาด้านหลังของนางทันใด เงามายาของเลี่ยเทียนซื่อออกมาจากด้านหลังของนาง เขาบนหัวนั้นก็ทิ่มแทงไปยังฝ่ามือของฝ่ามือยักษ์นั้น
ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเจียงหลีก็กระโจนออกไป กระโจนออกจากอาณาบริเวณการจู่โจมของฝ่ามือยักษ์ต่อจากชั่วขณะที่เลี่ยเทียนซื่อต่อต้านการจู่โจมนั้น
ตู้ม…!
ในชั่วขณะที่เจียงหลีกระโจนออกไปนั้น ฝ่ามือยักษ์บนฟ้าก็มองข้ามการขัดขืนของเลี่ยเทียนซื่อ กดทับลงมาบนภูดอย
การกระทบกันอย่างรุนแรง ทลายภูดอย หินภูเขาแตกกระจายไปทั่วทุกทิศ
เศษหินที่แตกนั้นกระแทกไปบนสันหลังของเจียงหลี ความเจ็บปวดนั้นช่างเสมือนจริงยิ่งนัก
“วิญญาณยุทธ์ของเลี่ยเทียนซื่อ!” เสียงประหลาดใจนั้น ลอยมาจากฝั่งตรงข้าม
เจียงหลีฟังออกว่าคนที่พูดนั้น ก็คือคนที่เอ่ยปากเมื่อครู่ และเป็นคนที่ลงมือเมื่อครู่เช่นกัน
เงามายาของเลี่ยเทียนซื่อ ล่องลอยอยู่ด้านหลังของเจียงหลี นางเพิ่งจะลุกขึ้นมาจากพื้น ก็รู้สึกว่าเสียงทะลวงอากาศมากมายลอยมาข้างหู แล้วตกอยู่รอบๆ ตน
แสงสีทองค่อยๆ สลายไป เงาของเลี่ยเทียนซื่อก็จางหายไปจากด้านหลังของเจียงหลี ส่วนนาง สายตาอันแหลมคมก็มองไปยังกลุ่มคนที่ล้อมนางเอาไว้
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงมาแอบดูพวกเรา” เด็กหนุ่มที่ถือลูกเก็บวิญญาณไว้ก่อนหน้านั้นเอ่ยถามอย่างดุร้าย
คนอื่นๆ ที่เหลือ อายุเท่าๆ กับเขา ในเวลานี้ก็ใช้สายตาที่สงสัยและระแวดระวังมองดูนาง
มีเพียงหนึ่งคน เป็นชายวัยกลางคน เขาพิจารณาดูเจียงหลี กล่าวอย่างเชื่องช้า “สามารถใช้เลี่ยเทียนซื่อเป็นวิญญาณยุทธ์ที่หนึ่งได้ คิดว่าแม่นางก็คงจะมาจากตระกูลใหญ่เช่นกัน”
เจียงหลีดวงตาเป็นประกาย รู้ว่าเขาเข้าใจผิดตัวตนของนางเพราะเลี่ยเทียนซื่อ เพียงแต่ นางไม่อยากจะอธิบาย จึงได้เลยตามเลยให้พวกเขาเข้าใจผิดกันต่อไป
เห็นว่านางไม่พูดอะไร ชายวัยกลางคนก็ยิ้มเล็กน้อย ยกมือขึ้นบอกเด็กหนุ่มเหล่านั้น “แค่เข้าใจผิดเท่านั้น”
ต่อจากนั้น เขาก็กล่าวกับเจียงหลีว่า “แม่นาง เจ้ามาฝึกฝนในอาณาเขตหลิงอู่ และหาวิญญาณยุทธ์ที่เหมาะสมไปด้วยใช่หรือไม่”
เจียงหลีกลอกกลิ้งดวงตา แล้วเผยรอยยิ้มออกมาทันใด พยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่! ท่านอา”
“อารอง อย่าไปฟังนางพูดพล่ามเลย หากนางมาจากตระกูลใหญ่ จะมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้เพียงลำพังได้อย่างไร” เด็กหนุ่มที่ถือลูกเก็บวิญญาณอยู่สีหน้าไม่เชื่อ ในดวงตายังไม่สลัดความระแวงต่อเจียงหลีออกไป
แต่ทว่า ชายวัยกลางคนกลับส่ายหน้า วิญญาณยุทธ์ของเลี่ยเทียนซื่อนั้นไม่สามารถหลอกคนได้ วิญญาณยุทธ์ระดับนี้ ไม่มีพลังอำนาจของตระกูลที่แข็งแกร่ง ใช้เพียงกำลังของตนนั้นยากที่จะได้มาได้
แน่นอนว่า คำที่เด็กหนุ่มกล่าว เขาก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับฟัง “แม่นาง เจ้าเข้ามาในอาณาเขตหลิงอู่นี้คนเดียวหรือ”
“ไม่อยู่แล้ว!” เจียงหลีตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเพียงแต่พลัดหลงกับพวกเขาเท่านั้น เมื่อครู่บังเอิญได้ยินเสียง จึงได้เข้ามาดู”
คำพูดของนางคลุมเครือนัก ง่ายต่อการทำให้คนอื่นรู้ว่านางคิดอะไร
เป็นจริงดังนั้น ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างปลดปล่อยขึ้นมา “เป็นเช่นนี้นี่เอง แม่นาง มาจากเมืองใดหรือ”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์