เสวียนกังกุย! เสวียนกังกุย!
เปลวไฟลุกโชนในดวงตาที่แวววาวของเจียงหลี
เห็นความเก่งกาจของเสวียนกังกุยด้วยตาตัวเอง นางจะปล่อยวิญญาณยุทธ์อันที่สองไปได้อย่างไร
พลังป้องกันของเสวียนกังกุยแข็งแกร่งมาก!
อีกทั้งพลังโจมตีของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย หรือควรจะพูดแบบนี้ว่าภายใต้พลังป้องกันของมัน ถึงแม้ว่าการโจมตีของมันจะธรรมดาแค่ไหน ก็สามารถทำให้ศัตรูสิ้นหวังได้
“ข้าจะเหยียบเจ้าให้ตาย! เหยียบเจ้าให้ตาย! กวนเวลานอนของข้า!”
ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนโยนของหญิงสาวที่ดูจะโง่เขลาก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวนั้นลง
เอ่อ……
นี่มัน……อะไรกัน เจียงหลียิ้มมุมปาก ทันใดนั้นภาพของเสวียนกังกุยก็หมุนหนึ่งร้อยแปดสิบองศาในหัวของนาง
“น่าเกลียด! น่าเกลียด! หนวกหู! หนวกหู!”
เสียงไม่เหมาะสมกับรูปร่างที่ใหญ่มหึมาและดุร้าย ดังขึ้นมาอีกครั้ง
สีหน้าของเจียงหลี ทันใดนั้นก็รู้สึกสดใสขึ้นมา ทำไมนางถึงได้รู้สึกว่าการกระทำอันป่าเถื่อนของเสวียนกังกุยถึงได้เปลี่ยนเป็นการออดอ้อนหลังจากที่ได้ยินเสียงนั้นทันที
เหอะๆ
เจียงหลียิ้มมุมปากอีกครั้ง รู้สึกว่าภาพเสวียนกังกุยในหัวนางได้หายไปหมด!
ในตอนที่หลอมรวมเข้ากับเลี่ยเทียนซื่อ นางก็เคยคุยกับเลี่ยเทียนซื่อ เสียงคร่ำครึที่ผ่านโลกมามากมายนั้น ถึงจะเหมาะสมกับมัน!
แต่เสวียนกังกุย……
เจียงหลีอยากจะตะโกนออกมาด้วยความโมโหในใจ นี่! อันดับของเจ้าสูงกว่าเลี่ยเทียนซื่อ รักษาภาพลักษณ์หน่อยได้หรือไม่
“เสียง……เสียงของเสวียนกังกุย……มี……มีความพิเศษมาก”
เจียงเฮ่าที่หายตะลึง กลั้นไม่อยู่พูดออกมาประโยคหนึ่ง
เจียงหลีพูดในใจ เหอะๆ มองเสวียนกังกุยด้วยแววตาที่ขมขื่น ดูสิๆ ทำให้พี่ชายที่ไม่เอาไหนของนางตะลึงขนาดไหน
“ดูแล้ววิญญาณยุทธ์ของเสวียนกังกุยยังอยู่ในวัยทารก ครั้งนี้พวกเราเก็บได้ของล้ำค่าแล้ว!” ทันใดนั้นคำพูดของไป๋เซี่ยงเลี่ยก็ดังมาจากข้างหลัง
ทารก!
เจียงหลีหรี่ตาแล้วสบตากับเจียงเฮ่า ฟังที่ไป๋เซี่ยงเลี่ยพูดกับลูกศิษย์วัยรุ่นเหล่านั้นต่อ
เขารู้ทั้งรู้ว่าเจียงหลีและเจียงเฮ่าก็อยู่ตรงนี้ แต่กลับไม่เลี่ยงเลยสักนิด
ชัดเจนมากว่าเดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจพวกเขาทั้งสองอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะกลัวฐานะของเจียงหลีนิดหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า แย่งชิงวิญญาณยุทธ์ของเสวียนกังกุยถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญ
“อารอง วิญญาณยุทธ์เสวียนกังกุยนี้กลับยังไม่โตเต็มวัย”
“เจ้าจะไปรู้อะไร วิญญาณยุทธ์ที่อยู่ในวัยเด็กหลอมรวมเข้ากับเจ้าของ เสริมสร้างการเติบโตของกันและกัน ไม่เพียงแต่จะแสดงศักยภาพของกันและกันได้ถึงขีดสุดและยังทำให้การหลอมรวมกันลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น” ไป๋เซี่ยงเลี่ยพูดต่อ “เฉิงเอ๋อร์ ถึงเวลาแล้วที่เจ้าควรจะหลอมรวมเข้ากับวิญญาณยุทธ์ที่สอง ประจวบเหมาะกับที่เจ้าก็เป็นประเภทป้องกันเหมือนกัน เสวียนกังกุยนี้เตรียมมาเพื่อเจ้าจริงๆ!”
ชายหนุ่มดีใจ รีบพูดว่า “ขอบคุณขอรับอารอง”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องเกรงใจ เจ้าเป็นหลานชายของข้า ข้าก็ต้องดูแลเจ้าอยู่แล้ว” ไป๋เซี่ยงเลี่ยหัวเราะเสียงดังแล้วพูด
ในคำพูดเหมือนว่าเสวียนกังกุยเป็นสัตว์ที่อยู่ในกระเป๋าของพวกเขาแล้ว จะจัดการอย่างไรก็ตามแต่พวกเขา
เจียงหลีแววตาเย็นชาเล็กน้อย บนใบหน้าเล็กๆ มีความเยือกเย็น
รับรู้ได้ว่าเจียงหลีอารมณ์เปลี่ยนไป เจียงเฮ่าพูดปลอบโยนเสียงเบา “อาหลี เจ้าไม่ต้องไปสนใจคำพูดของคนอื่น เจ้าอยากได้เสวียนกังกุยตัวนี้ พี่ก็จะช่วยเจ้าแย่งชิงมันมา”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์