ปัง!
เสียงดังอื้ออึงดังออกมาจากหน้าอกของหรงจิ่ง
เขารับหมัดนี้ของเจียงหลี พลังหกหมัดหนักของตระกูลลู่เข้าสู่ร่างกายทำลายเส้นลมปราณของเขาอย่างบ้าคลั่ง
“หรงจิ่งรับไว้ง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ”
“คุณชายจิ่งกำลังคิดสิ่งใดอยู่ ทำไมถึงออมมือให้นางตลอด”
“…”
การต่อสู่หยุดชะงักอีกครั้งหมัดของนางกดทับที่หน้าอกของหรงจิ่ง เขาไม่หลีกหนีเพียงแค่ใช้พลังวิญญาณของตัวเองในการข่มความพุ่งพล่านในร่างกายของเขาอย่างรุนแรง
ติ๋งๆ!
หยดเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขารินรดลงบนหลังมือของเจียงหลีเป็นดวงราวกับดอกเหมยสีแดงเบ่งบาน
เจียงหลีหรี่สายตามองหยดเลือดบนมือของตนเอง พลังวิญญาณที่กำหมัดมลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
นางไม่เข้าใจจึงช้อนสายตามองชายหนุ่มผู้นี้ที่ไม่เคยสู้กลับเลยตั้งแต่แรก
เมื่อนางมองไปที่หรงจิ่งนางก็พบกับดวงตาสุกใสของเขา เขากำลังยิ้ม รอยยิ้มเหมือนดั่งสายลม
“ตอนนี้เจ้ายังฆ่าข้าไม่ได้” หรงจิ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ
เรื่องราวความเป็นความตายเอ่ยออกมาจากปากของเขาราวกับกำลังพูดคุยสัพเพเหระก็มิปาน
“ข้ารู้ดี” เจียงหลีชักมือกลับคืนลุกขึ้นยืนตรงหน้าหรงจิ่ง
อาภรณ์ของนางย้อมสีเลือด ส่วนหรงจิ่งมีสภาพกระเซอะกระเซิง
การต่อสู้ครั้งนี้น่าตื่นเต้นตกตะลึงและเป็นที่น่าจดจำทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความมุ่งมั่นของเจียงหลี อย่างไรก็ตามไม่มีใครลืมว่าตั้งแต่ต้นจนจบหรงจิ่งทำได้เพียงยอมรับกระบวนท่าอย่างอดทนและไม่เคยโจมตีก่อน
“ฉะนั้นแล้วเจ้าทำเยี่ยงนี้แค่อยากให้ข้าเห็นความมุ่งมั่นของเจ้าที่จะปกป้องเขาใช่ไหม” หรงจิ่งเอ่ยถาม ที่จริงเขารู้คำตอบตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงยังอยากจะให้นางพูดให้ได้ยินกับหู
ดวงตาที่สุกใสของเจียงหลีเบิกกว้าง “ต่อไปอย่ารังแกเขาอีก หากข้ารู้ครั้งต่อไปข้าฆ่าเจ้าแน่” ทุกครั้งที่นางคิดถึงภาพตอนที่หรงจิ่งบังคับให้ลู่เจี้ยลงมือก็ทำให้นางโมโห
หรงจิ่งยิ้มด้วยความมึนเมาเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ “ลู่เจี้ยได้รับพรมากเพียงใดถึงให้เจ้าสามารถใช้ชีวิตปกป้องเขาได้เยี่ยงนี้”
ประโยคนี้ของเขาทำเอาเจียงหลีนิ่งค้าง
นั่นสิ เพราะเหตุใด
ทำไมลู่เจี้ยจึงคู่ควร
ทำไมนางถึงทำได้ขนาดนี้
เจียงหลีหวั่นไหวในใจแล้วถามตัวเองอยู่เหมือนกัน เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงนางเลย
สุดท้ายก็กลายเป็นการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่านางโกรธแทนลู่เจี้ย
ลู่เจี้ย นี่เจ้าคู่ควรได้รับการปกป้องจากจักรพรรดินีอย่างข้าขนาดนี้เชียวหรือ เจียงหลีถามตัวเองในใจ จากนั้นนางจึงมอบรอยยิ้มโลกละลายให้กับหรงจิ่งที่จ้องนางอยู่ “เขาจะมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนหรือไม่ ข้าไม่รู้ ข้ารู้แต่ว่ามีเพียงข้าที่รังแกเขาได้คนเดียวเท่านั้น!”
ห้ะ?!
“…”
“…”
คำพูดกำกวมแต่กลับดุเด็ดออกมาจากปากของเจียงหลีทำเอาผู้คนไม่น้อยตกตะลึง
ไม่สิ ควรจะบอกว่าตกตะลึงไปทั้งลานต่างหากล่ะ
“แม่…แม่สาวน้อยตอนนี้…กละ…กล้าได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
“หัวใจดวงน้อยๆ ของข้า…เต้นตึกๆ ตักๆ ไปหมดแล้ว”
“ไม่รู้ว่าทำไมแม่นางจะพูดกล้าดีเดือดแต่ข้ากลับรู้สึกชอบนางจัง”
“…”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์