ลู่เสวียนและเจียงหลีถูกท่านอ๋องลู่ ‘ไล่ออก’ จากกระโจมท่านแม่ทัพ
ลู่เสวียนเดินออกไปอย่างมึนงงโดยไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าครุ่นคิดของเจียงหลี
แปลกประหลาดยิ่งนัก!
ปฏิกิริยาตอบสนองของท่านอ๋องทำให้นางรู้สึกว่าฝนฟ้าคะนองกำลังจะมาถึง
ความรู้สึกว่าจุดประสงค์ของกลุ่มเทียนเจียวสังเกตการณ์ที่ไม่ธรรมดายิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้าว่าท่านพ่อข้าหมายความว่าอย่างไร” ลู่เสวียนถามเจียงหลี
เจียงหลีเงยหน้ามองฟ้าทันใดนั้นรู้สึกอยากให้ลู่เจี้ยยืนอยู่ข้างๆ เช่นนี้นางก็ไม่ต้องเปลืองสมองคิดเรื่องราวคำถามเหล่านี้
โดยเฉพาะคำพูดที่ลู่อ๋องพูดกับนางและคำกำชับต่อลู่เสวียน
เพราะอะไรท่าทีที่ท่านอ๋องลู่มีต่อนางถึงแตกต่างยิ่งนัก
หรือว่า เป็นเพราะลู่เจี้ยนำเรื่องที่ข้ามีเนตรญาณเก้าดวงบอกกล่าวแก่ท่านอ๋องลู่ บอกข้อตกลงกันระหว่างพวกเราด้วย เจียงหลีคาดเดาในใจ
น่าเสียดาย ที่นางรู้ไม่ทั่วถึงเส้นทางที่ลู่เจี้ยปูให้นางมันมากเกินกว่าที่คิดไว้
“ซ้อเล็ก เจ้าอธิบายให้ข้าหน่อยสิ” ลู่เสวียนยังไม่เลิกถาม
เจียงหลีอดไม่ได้ที่จะสูดปาก สองตาเบิกจ้องไปที่เขา “ข้าว่าอย่างน้อยเจ้าก็เป็นลูกผู้ชายเชียวนะ ใช้สมองคิดหน่อยได้ไหมอย่าเอาแต่ถามข้า”
โธ่เว้ย! เขาถามนางแล้วนางจะไปถามใครล่ะ
เอ่อะ…
ลู่เสวียนถูกนางตะคอกใส่จนอึ้งไปกะพริบตายืนอยู่กับที่ดูท่าทีนางที่ลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก เดินกร่างผ่านหน้าเขาไป
เมื่อเจียงหลีเดินไกลออกไปเขาเพิ่งจะตอบสนองรีบตามขึ้นไปถามว่า “ถ้าอย่างนั้น…การเคลื่อนไหวของเหล่าเทียนเจียวพวกเราจะเข้าร่วมไหม”
“ต้องเข้าร่วมสิ ไม่เข้าร่วมจะรู้ได้อย่างไรพวกเขาทำบ้าอะไรกันอยู่” เจียงหลีตอบแบบไม่คิด
ความอยากรู้อยากเห็นในใจถูกปลุกขึ้นมาไม่ทำให้เรื่องราวชัดเจนขึ้นนางไม่ยอมง่ายๆ แน่
…
เป็นไปตามคาดเมื่อถึงเวลาตอนเย็นต้าฉินส่งทหารม้ามาร้องตะโกนโวยวายนอกเมืองชายแดน
คำพูดที่สกปรกพ่นออกมาจากปากพวกไม่หยุดทำให้เหล่าเทียนเจียวที่ยืนมองบนกำแพงเมืองไม่พอใจอย่างรุนแรง แววตาดั่งใบมีดจ้องทหารเป่ยฝางที่อยู่บนกำแพง
เทียบกับความตื่นเต้นของพวกเขาเหล่าทหารเป่ยฝางเงียบสงบเหมือนปกติ ราวกับไม่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น
“พวกเขากำลังด่าพวกเจ้าอยู่ พวกเจ้าไม่ได้ยินหรืออย่างไร” ในหนึ่งเทียนเจียว อดถามทหาร
เป่ยฝางเสียงดังไม่ได้
ทว่ามีแต่ความเงียบที่ตอบเขา
“หึ! พวกขี้ขลาดตาขาว เสียดายที่ข้านึกว่าพวกเจ้าทหารเป่ยฝางเป็นคนกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เลือดร้อนไม่กลัวใคร” เทียนเจียว ‘ถุย’ ออกมาคำหนึ่งก่อนจะเดินกลับไป
สายตาเหยียดหยามจากกลุ่มเทียนเจียวสังเกตการณ์ไม่ได้ทำให้ทหารเป่ยฝางสะทกสะท้าน
ใต้ป้อมเมืองเสียงด่าของทหารม้าต้าฉินยังไม่หยุดปาก
“โฮ่วจิ้นที่ขี้ขลาดตาขาวทั้งหลาย ตอนเกิดมาจากท้องแม่ ลืมเอาสมองออกมาด้วยหรือไง ฮ่าๆๆ อยู่ต่อหน้าลูกผู้ชายที่แท้จริงอย่างต้าฉินแล้วกลายเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่เอาแต่หลบซ่อนในหอคอยหรือ กล้าเปิดประตูเมืองไหมให้พวกข้าแสดงให้พวกเจ้าเห็นว่าอะไรที่เรียกว่าลูกผู้ชาย”
“คนเป็นแบบไหนทหารก็เป็นแบบนั้น แม่ทัพขี้ขลาดทหารก็ขี้ขลาด ลู่ซิ่งเฉาเจ้าเป็นถึงท่านอ๋องของโฮ่วจิ้นทำไมตอนนี้ถึงเหมือนเต่าหัวหดเอาแต่หลบอยู่บนกำแพงเมือง กลัวจนฉี่ราดใส่กางเกงหรือไง”
“ราชวงศ์โฮ่วจิ้นอะไรกัน ข้าว่าต่อไปก็เรียกว่าราชวงศ์สตรีละกัน ผู้ชายโฮ่วจิ้นทั้งหลาย กลับไปอยู่บ้านซะ ใส่กระโปงแต่งหน้าดีดดิ้นอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ ผิวหนังที่อ่อนโยนอย่าถูกลมทรายจากสนามรบพัดจนผิวแตกล่ะ”
“ฮ่าๆๆ”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์