“เดิมพันหรือ” เย่ว์ชิงหลิวหัวเราะแบบเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรอย่างนั้นหรือ”
เจียงหลีก็หัวเราะ “ข้าเพียงถามว่าเจ้ากล้าหรือไม่”
“เจ้าจะเดิมพันด้วยสิ่งใด” เย่ว์ชิงหลิวขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชา ท่าทีที่เย่อหยิ่งของเจียงหลี ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาด เขาไม่รู้ว่าระหว่างนั้นได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างจึงทำให้หญิงสาวที่มีนิสัยชอบเก็บตัวแถมยังขี้ขลาดกลายเป็นคนแข็งกระด้างขึ้นมาได้ หรือว่าการเปลี่ยนที่อยู่ จะทำให้คนหนึ่งสามารถมีนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไปได้จริงๆ คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เย่ว์ชิงหลิวมองว่าที่เจียงหลีต่างไปจากเดิม เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเปลี่ยนที่อาศัย
“ที่เจ้ามาที่นี่ เพียงเพราะว่ารู้สึกเสียหน้าที่ตระกูลเย่ว์ของเจ้าถูกสาวใช้ยกเลิกพิธีแต่งงาน เช่นนั้น ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ข้าจะท้าทายกับเย่ว์หนานซีอย่างซึ่งๆ หน้า ถ้าหากเขาแพ้ ข้าไม่ขออะไรมากไปกว่าให้เขาประกาศเสียงดังต่อหน้าทุกคนว่าเขาไม่เหมาะสมกับข้า”
“แล้วถ้าเจ้าแพ้ล่ะ” เย่ว์ชิงหลิวพูดพลันกัดฟันกรอด
ลูกชายเขาจะแพ้อย่างนั้นหรือ
เจียงหลี ผู้ที่ไม่เคยได้ยินว่ามีเนตรญาณใด ยิ่งไปกว่านั้น ว่ากันว่าตอนที่นางยังเด็ก พิธีปลุกเนตรญาณก็ล้วนแต่ล้มเหลวเสมอ เหตุไฉนจึงได้มีความมั่นใจเช่นนี้
“ถ้าหากว่าข้าแพ้ ก็เช่นเดียวกัน ข้าจะประกาศแก่ทุกคนทั่วเมืองซูหนานว่าเป็นเพราะข้าเจียงหลีไม่เหมาะสมกับลูกชายตระกูลเย่ว์ที่มีพรสวรรค์อย่างเย่ว์หนานซี เกรงว่าจะเป็นการเสียเวลาเขา จึงได้ยกเลิกพิธีแต่งงาน” เจียงหลีกล่าวด้วยความภาคภูมิ
ท่าทีที่ตรงไปตรงมาของนาง ทำให้คนทั้งสามจากตระกูลเย่ว์สงบลง
ถ้าหากว่าเจียงหลีมีท่าทีลังเล หรือแสดงความหวาดกลัวออกมา พวกเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ทว่า นางกลับแสดงออกตรงไปตรงมาเช่นนี้ และดูมีความภาคภูมิใจ ทำให้หัวใจพวกเขาทั้งสามขึ้นลงไม่สามารถตัดสินใจได้ ทั้งสามแลกเปลี่ยนสายตาในความเงียบ
เย่ว์คงเอ่ยถาม “การเดิมพันครั้งนี้ ตระกูลลู่จะยอมรับผลการตัดสินได้ไหม ”
นี่ เป็นการถามความคิดของลู่เจี้ย และตระกูลลู่ด้วย
ลู่เจี้ยหัวเราะ “ขอเพียงแค่ยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ ที่เหลือแพ้ชนะให้ฟ้าตัดสิน”
เย่ว์คงคลายกังวล มองไปยังเย่ว์ชิงหลิวที่ค่อยๆ พยักหน้า แต่เย่ว์ชิงหลิวยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ถามอีกว่า “เดิมพันน่ะทำได้ แต่ต้องมีการกำหนดเวลา ไม่เช่นนั้น ถ้าเจ้าเลื่อนไปอีก จะทำเช่นใด”
“ถ้าเช่นนั้นก็กำหนดเป็นสามเดือนนับจากนี้” ลู่เจี้ยกล่าวขึ้นมาในทันใด
สามเดือนนับจากนี้หรือ
เจียงหลีมองไปที่ชายผู้นี้ หลังจากที่เย่ว์หนานซีปลุกเนตรญาณ ก็เริ่มต้นฝึกฝน จนตอนนี้อายุสิบหกปี นับเป็นระยะเวลาเกือบสิบปี เพิ่งได้เป็นหลิงซื่อระดับห้า แต่นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ของเมืองซูหนานแล้ว นางเพิ่งจะเบิกเนตรญาณ แต่มีเวลาฝึกฝนเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น
ไม่ว่าจะคิดคำนวณเช่นไร เจียงหลีก็ยังรู้สึกว่าชายคนนี้กำลังขุดหลุมพรางให้นาง แต่ทว่านางก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และนางก็ไม่กลัวความยากลำบากด้วย
สามเดือน ก็สามเดือน!
นางไม่เชื่อหรอกว่าเวลาในการฝึกฝนสามเดือนของนางจะไม่สามารถเอาชนะชายที่ไม่เอาไหนได้
“ยอดเยี่ยม งั้นก็สามเดือนนับจากนี้” หลังจากที่เจียงหลีมีคำตอบในใจ ก็เงยคางที่เล็กและแหลมขึ้น กล่าวต่อคนทั้งสามของตระกูลเย่ว์
สามเดือน เป็นช่วงเวลาจัดงานประลองชิงเจียวพอดี นั่นเป็นช่วงเวลาดีที่เทียนเจียวผู้มีพรสวรรค์ของตระกูลเย่ว์อย่างเย่ว์หนานซีจะได้กระจายชื่อเสียง ก็ดี ใช้โอกาสวันนั้น จัดการเรื่องน่าชังนี้ให้เสร็จสิ้น
เย่ว์ชิงหลิวก็มีคำตอบในใจแล้ว เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดีล่ะ สามเดือนนับจากนี้แล้วกัน หลังจากสามเดือน หนานซีลูกชายข้าจะเข้าร่วมงานประลองชิงเจียว เจียงหลี หนานซีจะรอเจ้าในวันงานประลองชิงเจียว ก็ต้องดูว่าเจ้าจะโชคดีและชีวิตเดินไปอยู่ต่อหน้าลูกชายข้าได้หรือไม่”
เจียงหลีขมวดคิ้วเบาๆ ค่อยๆ ค้นหาข้อมูลของงานประลองชิงเจียวจากความทรงจำ
“นายน้อยลู่ เรื่องนี้ก็ได้กำหนดเสร็จแล้ว พวกข้าขอตัวก่อน แต่ทว่า นายน้อยลู่ ข้าหวังว่าท่านจะรับปากข้าสักเรื่อง” เย่ว์ชิงหลิวกล่าวแก่นายน้อยลู่
“ท่านว่ามาเถิด” ลู่เจี้ยกล่าวเบาๆ
เย่ว์ชิงหลิวมองเจียงหลีด้วยสายตาที่ดุเดือด “ถ้าเจียงหลีแพ้ ขอให้ส่งตัวนางกลับให้ตระกูลเย่ว์”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์