ลู่เจี้ยไม่ได้หงุดหงิดกับคำว่า ‘ซ้อเล็ก’ ของลู่เสวียน
หลังจากที่ได้ยินว่าเจียงหลีตามคนอื่นไป ดวงตาของเขาควบแน่นขึ้น อารมณ์ก็เริ่มเย็นขึ้น “พูดให้มันชัดเจน”
ขณะเดียวกันลู่เสวียนก็เริ่มกังวลขึ้นและรีบเล่าถึงสถานการณ์
เดิมทีหลังจากที่พวกเขาตามขบวนเทียนเจียวไปก็พบว่าได้ติดกับดักของฝ่ายตรงข้าม แต่ในขณะนั้น พวกขบวนเทียนเจียวก็ได้เริ่มรู้สึกเยาะเย้ยขึ้นเพราะคิดว่ากองทัพต้าฉินนั้นตกใจกลัวจนหนีไป พวกเขาไม่สนคำเตือนและตามกองทัพที่หนีไป พวกเขาจึงทำได้เพียงตามไปเพื่อดูว่าต้าฉินคิดกำลังทำอะไร
เมื่อพบเจอกับดักแรกนั้นเจียงหลีสังเกตเห็นผู้ที่ปลุกปั่นหลายคนก่อนหน้านี้ตั้งใจฉวยโอกาสที่ฝูงชนไม่ทันระวังไถลลงข้างทางอย่างเงียบๆ จากนั้นนางก็ตามไปอย่างเงียบๆ และเตือนสติลู่เสวียนว่าถ้าสถานการณ์ไม่ดีไม่ต้องสนสิ่งอื่นให้ตัวเขารีบไปแจ้งข่าวในเมือง
“เอ่อคือ…จิ่งเยี่ยก็ตามไปด้วย” หลังพูดจบลู่เสวียนก็ได้เสริมอีกประโยคด้วยความกังวล
“ทำตามแผนการ พาพวกเขาออกไป” ลู่เสวียนไม่ได้ตอบรับคำพูดของลู่เจี้ย แต่เขาก็มอบหมายให้กับคนข้างกาย
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาถามขึ้นประโยคหนึ่ง “แล้วซื่อจื่อต้องทำเช่นใดเล่าขอรับ”
ลู่เสวียนรู้สึกสับสนไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่พี่ชายของพูด
เห็นเพียงแต่ลู่เจี้ยมองมาทางเขา ดวงตาที่วาววับสวยงามราวกับดวงดาวนั้นเหมือนเมฆและหมอกทำให้ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ที่แท้จริงของเขา
“จัดการซะ แล้วส่งกลับไป” ลู่เจี้ยกล่าวอย่างช้าๆ
อะไรนะ!
ลู่เสวียนฟังแล้ว ก็เริ่มเป็นกังวลภายในใจ
เขากระโดดขึ้นจากพื้นอยากจะถามพี่ชายของเขาว่าเหตุใดต้องทำเช่นนี้ แต่ว่าคำถามยังไม่ทันออกจากปากก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลัง ตาของเขาเริ่มพร่ามัวหมดสติและล้มลงไปที่พื้น
ลูกน้องของลู่เจี้ยรับร่างของลู่เสวียนที่ร่วงลงไป
ในความมืด ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง ต้องนำลู่เสวียนออกไปจากท่ามกลางความโกลาหล
หลังจากที่ลู่เวียนถูกพาตัวไป สายตาที่เย็นชาของลู่เจี้ยเหลือบมองในสนามรบที่สิ้นสุดลงแล้วอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หันหลังจากไป
องครักษ์ข้างกายเขาอยากจะออกไปจากที่นี่ด้วยแต่กลับถูกพลังบางอย่างของเขาเรียกให้กลับมา
หลีเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่ไหน ลู่เจี้ยที่จากออกไปถามตัวเองในใจ
การอ่านจิตที่แข็งแกร่งไม่หยุดที่จะแผ่ออกจากตัวเขาเพื่อไปค้นหาข่าวคราวของเจียงหลีรอบสารทิศ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมของเขา จึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
เขาจะไม่อนุญาตให้เจียงหลีเป็นอะไรไป! ไม่มีวัน!
ใครหน้าไหนก็ทำร้ายเจ้าไม่ได้ คิ้วของลู่เจี้ยขมวดขึ้น ดวงตาของเขาคมขึ้น
เขาในขณะนี้รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนแอจางหายไป ตอนนี้คมเหมือนดาบที่ลับมาหลายพันปี ความคมที่แผ่ออกมาสามารถทำลายโลกได้
คืนที่เงียบเหงาใต้ผืนทรายสีเหลือง เงาที่ทอดยาวและเงียบเหงาไม่หยุดออกตามหา
ในฐานะเนี่ยนจง การอ่านจิตของเขาเพียงพอที่จะสามารถคลอบคลุมได้ทุกหนแห่งในเป่ยฝาง ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาโดยที่ไม่รู้ตัว
แต่กลับไม่พบผู้ใด อาณาเขตที่กว้างใหญ่นี้ ใบหน้าหล่อเหลานั่นเริ่มซีดลงพร้อมกับริมฝีปากที่ค่อยๆ เม้มแน่นขึ้น
หลีเอ๋อร์
หลีเอ๋อร์
หลีเอ๋อร์ เจ้าอยู่ไหน
…
หืม?

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์