ดวงตาหนักแน่นของเจียงหลีกวาดสายตาไปโดยรอบ
ที่นี่คือหุบเขาปู้กุย ป่าลี้ลับในหุบเขาที่ไม่มีวันหวนกลับ มีเมฆหมอกล้อมรอบ เปิดเผยความเยือกเย็นน่ากลัว
ด้านหน้าของนาง นอกจากพวกลู่จ้านทั้งสามคนแล้ว ยังมีรั้วที่พันต้นไม้ด้วยโซ่ที่นับไม่ถ้วน ทางเข้าทางเดียวคือด้านหลังของลู่จ้าน
แม้ว่าการปลุกเนตรญาณของเจียงหลีจะสูญสิ้นไป แต่ว่าการรับรู้ที่ไวต่อสัมผัสยังคงอยู่
นางรับรู้ได้อย่างชัดเจน ในที่ๆ นางมองไม่เห็น มีสิ่งลี้ลับมากมายซ่อนอยู่ หมอกอันหนานี้ปกคลุมได้เป็นอย่างดี เกรงว่ายังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็จะโดนคนฆ่าเสียก่อน
“ถ้ำเก้าปีศาจคืออะไร” เจียงหลีถามหม่าหยวนจย่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม
หม่าหยวนจย่ามองไปที่ลู่จ้าน ค่อยๆ ปกปิดความกลัวในสายตา กล่าวด้วยเสียงทุ้ม “ถ้ำเก้าปีศาจเป็นชื่อที่เราเรียกที่แห่งนี้ เนื่องจากเมื่อเข้ามาแล้วไม่ตายก็ต้องสูญเสียอะไรบางอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นบางคนก็เป็นบ้าไปแล้ว ดังนั้น…”
เจียงหลีเข้าใจแล้ว
ที่เรียกว่าถ้ำเก้าปีศาจ เนื่องจากนี่เป็นค่ายฝึกที่ฝึกอย่างโหดร้าย ที่ลู่เจี้ยส่งนางมาที่นี่ อาจกล่าวได้ว่ามีเจตนาดี
เหอะๆ
เจียงหลีก้าวเท้าเดินไปหาลู่จ้าน
นางรู้ว่าชายคนนี้กำลังสอดส่องนาง แต่นางก็ไม่ได้สนใจ
“พวกเราต้องทำอะไรต่อ” เจียงหลีกล่าว เมื่อเดินไปอยู่ตรงหน้าของลู่จ้าน
หม่าหยวนจย่าตกใจจนหน้าซีดกระซิบในใจ เจียงหลียังเป็นลูกโคแรกเกิดไม่กลัวเสือ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไร
หลังจากนางกล่าวจบ ลู่จ้านกลับหัวเราะออกมา “ดีมาก สมกับเป็นผู้ที่นายน้อยให้ความสนใจ ขอเพียงเวลาสามเดือนที่เจ้าอยู่ที่นี่ คอยเชื่อฟังตั้งใจฝึกฝนตามที่ข้ามอบหมาย ข้ารับประกันได้สามเดือนต่อจากนี้ เจ้าจะสามารถทำให้เย่ว์หนานซีมาสยบใต้เท้าของเจ้าให้ได้”
ฮ่าๆ
เจียงหลีเกือบจะหัวเราะออกมา
อยากรู้เสียจริงว่าหากพวกเย่ว์ชิงหลิวได้ยินที่ลู่จ้านพูดถึงลูกเทวดาของตระกูลเย่ว์ว่าไม่มีน้ำยา พวกเขาจะมีสีหน้าเช่นไร
“ข้าจะคอยดู” กลั้นหัวเราะ ความประทับใจแรกที่เจียงหลีมีต่อลู่จ้านนับว่าไม่เลว
เช่นเดียวกันการตอบกลับของนางก็ให้ความประทับใจที่ไม่แย่แก่ลู่จ้าน
อย่างน้อยก็ไม่ได้มีความหยิ่งผยองในพรสวรรค์ ไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งอันใด ไม่เอาแต่ใจ เป็นคนที่ควรค่าแก่การบ่มเพาะ
นี่คือความประทับใจแรกที่ลู่จ้านประเมินแก่เจียงหลี
“ตามข้ามา” ลู่จ้านหันหลัง ก้าวเท้าเดินตรงไปข้างหน้า
เจียงหลีเดินตามไปอย่างไม่ต้องคิด สำหรับการฝึกฝนในถ้ำปีศาจทั้งเก้า นางค่อนข้างตั้งตารอคอย หม่าหยวนจย่าก็เดินตามไป แต่ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกสองคนที่อยู่หลังลู่จ้านดึงตัวไว้
สัมผัสได้ว่าข้างหลังเกิดเรื่องแล้ว เจียงหลีจึงหยุดลง หันหลังกลับไปมองและกล่าวแก่หม่าหยวนจย่าที่ถูกดึงตัวไว้ว่า “ข้าฝึกฝนที่นี่ เจ้าไม่ต้องตามข้าแล้ว”
หม่าหยวนจย่าพยักหน้า มองดูเจียงหลีและลู่จ้านจากไป
หลังจากพวกเขาสองคนไปแล้ว คนหนึ่งในนั้นกล่าว “หม่าหยวนจย่า นายน้อยบอกแล้วในระหว่างที่เจียงหลีฝึกฝนอยู่ เจ้าก็ต้องมาฝึกฝนที่นี่ด้วยเช่นกัน”
หม่าหยวนจย่าตกตะลึง
ทันใดนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ใบหน้ายุบลง ตกใจเป็นอย่างมาก ตามทั้งสองไปด้วยอาการใจสั่นตับสั่น พวกเขาเดินไปยังอีกทางหนึ่ง
…
สวบ สวบ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์