นางเพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าขอบเขตของวงกลมสีแดงมีมากขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอันตรายอะไรหรือไม่
นางรู้แค่ว่าการฝึกฝนครั้งนี้นางต้องชนะ
ฮึบ!
เจียงหลีกำลังก้าวเท้าเข้าไปในวงกลมสีแดง ข้างหน้าก็มีหินที่แหลมคมพุ่งเข้าใส่นาง เสียงของลมที่รุนแรงพร้อมกับความแหลมคมดังเข้ามาในหูของเธอ
เจียงหลีพลิกตัวเพื่อหลบก้อนหิน ก้อนหินที่พุ่งเข้าใส่นางตกพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ถ้าหากเมื่อครู่นี้นางหลบไม่พ้น เกรงว่ารอบต่อไปคงไม่ต่างกันเท่าไหร่
นางมองไปยังทิศทางที่ก้อนหินถูกโยนมา เห็นเด็กหนุ่มที่มีร่างผอมมองนางด้วยสายตาเยือกเย็น และวิ่งหนีไปด้านหน้า ไม่นานนักเงาของเขาก็หายไป
พลาดเป้า และไม่โจมตีต่อ เจียงหลีคิดในใจ
นางมองไปรอบทิศ เด็กที่เข้ามาพร้อมกับนางกลับไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
และมองกลับหลังไปก็ไม่เห็นพวกลู่จ้านแล้วเช่นกัน
เจียงหลีนิ่งเงียบและมุ่งหน้าวิ่งตรงไปในวง แต่นางก็ระมัดระวังมากกว่าครั้งที่แล้ว
การจู่โจมเมื่อครู่ ทำให้นางเข้าใจหลักการอย่างหนึ่งในการฝึกฝนครั้งนี้ ไม่ได้มีกติกาอะไร อาวุธทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ พวกเขาจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่นี่ ใช้ทุกอย่างที่สามารถใช้ได้ เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม เพื่อไปให้ถึงทางออกเป็นคนแรก
เจียงหลีวิ่งเข้าไปในหมอกที่หนาจัด สายตาเห็นได้ไม่ชัด ย่อมมีอันตรายมากขึ้น
มาถึงก็ต้องมาฝึกฝนอะไรประหลาดอย่างนี้ เป็นสิ่งที่เจียงหลีคิดไม่ถึง แต่ก็ทำให้นางเกิดแรงฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ขึ้นมา
ความท้าทายที่น่าตื่นเต้นถือเป็นเส้นทางการพัฒนาความสามารถของคนๆ หนึ่ง การที่ไม่หยุดท้าทายขีดจำกัดตัวเอง การฝึกทุกวันเช่นนี้ ยังดีเสียกว่าการเก็บตัวอยู่ในห้องเสียอีก
ไม่แปลก ลู่จ้านมีความมั่นใจว่าการฝึกของนางในสามเดือนนี้ จะสามารถโค่นเย่ว์หนานซีได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมารอบทิศ คนที่มาไม่ต่ำกว่าหนึ่ง
เจียงหลีหยุดลงในทันใด ยืนอยู่กับที่และรอคอยอย่างเงียบๆ
ไม่นาน ในหมอกที่หนาจัดมีคนเจ็ดคนเดินเข้ามาล้อมรอบนางไว้ หนึ่งในเจ็ดคนนี้คือเด็กที่จู่โจมนางไปเมื่อก่อนหน้านี้
เขายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นหัวโจกของกลุ่มคนพวกนี้
“นี่ เด็กใหม่ ข้าขอเตือนเจ้าหน่อย ถอนตัวซะถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เด็กคนนั้น ยิ้มให้เจียงหลีอย่างเย้ยหยัน
คำพูดของเขาถึงแม้จะหยิ่งผยอง แต่แววตากลับเยือกเย็นผิดปกติไม่ได้แฝงไปด้วยการดูถูก เห็นได้ชัดว่าการหลบการซุ่มโจมตีของเจียงหลีเมื่อครู่ ทำให้เขาให้ความสนใจกับคู่แข่งหน้าใหม่คนนี้แล้ว
“เจ้ามีสิทธิ์อะไร” เจียงหลียิ้มเหมือนไม่ยิ้ม
พอสามคำนี้ออกมา ทั้งเจ็ดนิ่งไปพร้อมกัน จากนั้นก็เริ่มหัวเราะออกมา พูดง่ายๆ ก็คือหัวเราะจนสั่นไปทั้งตัว
มีสิทธิ์อะไร
นางกลับถามว่ามีสิทธิ์อะไร
หนึ่งในนั้นจับท้องที่หัวเราะจนท้องแข็ง ชี้ไปที่เจียงหลีกล่าวว่า “นี่ พวกข้ามองว่าเจ้าเป็นหญิงสาว ถึงได้หวังดีเตือนเจ้าไป ตอนนี้เพิ่งจะเริ่ม เจอพวกข้าถือว่าคุยง่ายแล้ว ถ้าเจ้าเจอคนอื่น เกรงว่าจะถึงขั้นเอาชีวิต”
พูดจนจบ เขาก็ได้แต่เก็บรอยยิ้มนี้กลับไป สายตาพลันเปลี่ยนเป็นดุเดือดขึ้นมา
เจียงหลีกลับชี้ไปที่เด็กหนุ่มที่ซุ่มโจมตีนาง ถามว่า “พวกเจ้าตามเขา สุดท้ายจะได้อะไร”
เด็กหนุ่มหดตาลง ดุเดือดขึ้นมาทันใด
“เด็กใหม่ เจ้านี่มันช่างไร้เดียงสาเสียจริง เจ้าคิดว่าวงกลมสีแดงนี้ถ้าพึ่งพาตนเองแล้วจะผ่านไปได้อย่างนั้นเหรอ พวกเราติดตามพี่เซียว เพื่อให้เขาได้ที่หนึ่ง รางวัลที่ได้จากการฝึกพวกเราก็จะมีส่วนได้ด้วย” อีกคนหนึ่งกล่าว
เจียงหลีเข้าใจแล้ว
เหตุใดการต่อสู้เดี่ยวถึงกลายเป็นการต่อสู้แบบหมาหมู่ได้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์