เจียงหลีมองไปทางเฟิงสิงอวิ๋นแล้วยิ่งสงสัย นางไม่เข้าใจ ตอนนี้เขามาพูดเรื่องอดีตด้วยเหตุผลอันใด
สีหน้าของผู้อำนวยการไม่ค่อยสู้ดีนัก วาจาเขาไม่แยบคายเท่ากับเฟิงสิงอวิ๋น ในที่สุดก็ทำได้เพียงพูดออกไปด้วยความโมโห “เจ้าช่างไร้เหตุผลเสียจริง”
“สุภาษิตท่านว่า คนที่มีเหตุผลไปที่ไหนมีแต่คนสรรเสริญ คำพูดของข้าสมเหตุสมผล ข้าไม่หวั่นเกรงแน่นอน” เฟิงสิงอวิ๋นยังคงเจือรอยยิ้มบางเบา แต่กลับทำให้ผู้อำนวยการอดฉีกใบหน้าแย้มยิ้มของเขาเสียมิได้
“เฟิงสิงอวิ๋น! สรุปแล้วเจ้าต้องการสิ่งใด” ผู้อำนวยกรามกัดฟันพูด
หากเฟิงสิงอวิ๋นเอ่ยคำเหล่านี้ก่อนการทดสอบ เขายอมปล่อยให้เขาพาเจียงหลีออกไปแน่ แต่ตอนนี้เจียงหลีกลับเผยพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา ทำลายบันทึกสถิติใหม่ของสถาบันไป๋หยวนได้อย่างเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา เขาจะปล่อยให้อัจฉริยะเช่นนี้ไปอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่นง่ายๆ ได้เยี่ยงไร
“ข้าไม่คิดจะเอาเยี่ยงไร ทุกคนล้วนเป็นคนในสถาบันไป๋หยวน เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรหรือ ข้าแค่อยากทวงความยุติธรรมให้เด็กน้อยของข้าเท่านั้น” เฟิงสิงอวิ๋นเต็มไปด้วยแรงอารมณ์
ท่าทางเช่นนั้นของเขาราวกับเจียงหลีได้รับความไม่ยุติธรรมก็มิปาน
ไร้ยางอาย!
ชักจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
เหล่าลูกศิษย์สถาบันไป๋หยวนยืนมองฉากนี้อยู่ด้านล่างอย่างตกตะลึง
สถาบันไป๋หยวนไม่สนใจใยดีเจียงหลีตรงไหน
เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
แต่ไหนแต่ไรในสถาบันไป๋หยวนต่างคนก็ต่างฝึกกันเองทั้งนั้น หากประสบพบเจอปัญหาก็สามารถไปถามอาจารย์ได้ อีกทั้งยังสามารถคารวะเป็นศิษย์ของอาจารย์ในสถาบันเพื่อรับการชี้แนะอย่างละเอียดได้เช่นกัน
เจียงหลีผู้นี้เมื่อมาถึงสถาบันไป๋หยวนก็เอาแต่เก็บตัวฝึกเองในห้อง ไม่ยอมไปหาอาจารย์เอง หรือว่าอยากให้อาจารย์ทั่วทั้งวิทยาเขตซีเฉียนไปห้อมล้อมเพื่อให้นางขอคำแนะนำหรือ
อีกทั้งคดีทังจงเฉาถูกสังหาร แม้เจียงหลีจะถูกใส่ร้าย แต่นางก็ฆ่าคนที่ล้อมนางไว้เหมือนกัน ต่อมาสอบสวนภายหลังทำไมถึงไม่จบสิ้น ต้องมีลับลมคมในแน่ๆ
แต่เรื่องพวกนี้ ตอนนี้เฟิงสิงอวิ๋นพูดออกมากลับกลายเป็นว่าทั่วทั้งวิทยาเขตซีเฉียนรังแกเจียงหลี
เจ้าว่าช่างไร้ยางอายหรือไม่
แม้กระทั่งเจียงหลียังรู้สึกว่าเฟิงสิงอวิ๋นช่างหน้าด้านหน้าทน ทำให้นางรู้สึกด้อยค่า
“เฟิงสิงอวิ๋นเจ้ามีอะไรก็พูดมาเถอะ อย่ามาทำพิลึกพิลั่นแถวนี้ หรือว่าเจ้าวางแผนให้เจ้าสำนักสถาบันมาฟังเรื่องทุกข์ร้อนของเจ้า” ผู้อำนวยการสอบขบกรามพูด
หลังจากเจ้าคนนี้มาวิทยาเขตซีเฉียนก็เลี้ยงเสียข้าวสุก ตอนนี้ยังจะมาสร้างเรื่องอะไรให้อีก
เฟิงสิงอวิ๋นหันสายตาไปมองเขาแล้วตีหน้าซื่อเอ่ยขึ้น “ข้ากล้ารบกวนเจ้าสถาบันเสียที่ไหน แต่ตอนที่ข้ามา ข้าแวะเล่นหมากรุกกับเจ้าสถาบันมาหนึ่งตา เขาชื่นชมเด็กน้อยของข้า เจ้าว่าให้หินวิญญาณเศษเล็กเศษน้อยแค่สามแสนก้อน ไม่ขี้เหนียวมากไปหน่อยหรือ”
เศษเล็กเศษน้อย!?
ขี้เหนียวมากไปหน่อย!?
พวกเขาก็อยากได้หินวิญญาณสามแสนก้อนเหมือนกันนะ!
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เบิกตาจ้องเฟิงสิงอวิ๋น
เจียงหลีเงยหน้ามองไปทางเฟิงสิงอวิ๋นทันทีเช่นกัน
“คนนี้น่าสนใจ ปกป้องเจียงหลีจากใจจริง” จู่ๆ มู่ชิงเกอที่อยู่ด้านล่างก็เอ่ยขำ
ผู้อำนวยการสอบกระตุกมุมปากเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “แล้วเจ้าคิดอย่างไร”
เฟิงสิงอวิ๋นถอนหายใจ “หากไม่ใช่เพราะเด็กน้อยของข้าอยากหาประสบการณ์ก็เลยอยู่สอบที่วิทยาเขตนี้ได้รับผลคะแนนเยี่ยงนี้ วิทยาเขตของเราต้องเปิดทางสะดวกให้กับนางแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นหอฝึกทักษะต่อสู้ คลังหินวิญญาณก็ให้นางไปได้ตามต้องการ หากนางอยากได้วิญญาณยุทธ์อะไร พวกเราต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยนางเอามาให้ได้”
“…” เจียงหลีเบิกตาค้างมองเฟิงสิงอวิ๋น
แม้จะรู้ว่าเขาพูดจาเกินจริงไปหน่อย แต่ก็อดใจเต้นไม่ได้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์