“เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”
น้ำเสียงของมหาเทพตี้จวินเผยถึงความเย็นชาและใบหน้าอันสง่างามก็ตึงเครียดขึ้น ปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ให้คนแปลกหน้าทะลุทะลวงเข้ามาได้
เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยดวงตาอันสดใสประดุจดวงดาว
โดยปราศจากความเกียจคร้านและความยั่วยวนที่ปรากฏก่อนหน้านี้และเผยให้เห็นเพียงความสุขที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ทำให้ความรู้สึกนี้ปรากฏตรงมุมปากของนาง
เมื่อจดจ่อไปยังมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ตี้จวินจึงขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจว่านางกำลังหัวเราะเรื่องอะไร “โดนคนคิดไม่ซื่อ ยังจะมีความสุขได้อีกหรือ”
“ข้ามีความสุข เพราะท่านโกรธ” เจียงหลีมองเขาอย่างจริงจัง
ครานี้ นางจะไม่ยอมให้เขาหนีไปได้อีกแน่!
“…” ริมฝีปากของตี้จวินปิดแน่นจนเป็นเส้นตรง และคิ้วขมวดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปเนินเขา เขาโมโห นางจึงมีความสุขอย่างนั้นหรือ นี่มันตรรกะอะไรกัน
“ท่านเป็นห่วงข้าใช่ไหม” เจียงหลีลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เขา
ทันใดนั้น นางก็เขยิบเข้าใกล้ จนทำให้ดวงตาที่สงบนิ่งของตี้จวินขยับเล็กน้อย “เจ้าคิดมากไปแล้ว”
“ไม่ ไม่ใช่ว่าข้าคิดมากไป แต่ท่านไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก! ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โดยเกือบจะแนบติดเขาอยู่แล้ว
ตี้จวินหรี่ตาลงเล็กน้อยและทั้งสองก็สบตากัน จนปรากฏภาพความทรงจำที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในใจของพวกเขาทั้งสอง
เขาเป็นห่วงหรือ
เขาจะเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร
เหอ! ไร้สาระ!
ชายผู้นั้นปฏิเสธในใจและปฏิเสธที่จะยอมรับคำพูดของเจียงหลีอย่างแน่วแน่
“เหตุใดท่านถึงไม่กล้ายอมรับ หากท่านไม่เป็นห่วงข้า ทำไมท่านไม่ฆ่าข้าซะ ท่านกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าข้าหรือ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าอีกก้าว โดยใช้สายตาบีบบังคับเขา
การยกตัวข่มท่านของเจียงหลี ทำให้เขาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว และดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้ไกลออกไป
หลังจากเขาเดินถอยหลัง นางกลับเขยิบเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว “ข้าบอกแล้ว ท่านไม่ฆ่าข้าหรอก เพราะใจของท่าน ไม่ให้ทำเช่นนั้น”
“เจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! ” ตี้จวินเอ่ยอย่างเย็นชา ซึ่งน้ำเสียงนั้นยากที่จะเก็บซ่อนความลนลานหวาดกลัวนี้ไว้ได้
“หยิ่งผยองหรือ” เจียงหลียิ้ม “ข้าหยิ่งผยองมาตั้งแต่เกิด ท่านไม่ใช่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านสูงศักดิ์เพียงใด และไม่รู้ว่าท่านเก่งกาจแค่ไหน แต่ท่านกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรู้จักใจตัวเองเลยหรือ”
“นั่นเป็นเพียงการยึดติด! ” ใช่! แค่การยึดติดของชาติที่แล้ว!
ตี้จวินฝืนอธิบาย
ซึ่งดูเหมือนว่าจะอธิบายให้ทั้งเจียงหลีและตัวเองฟัง
เพื่อโน้มน้าวเจียงหลี และโน้มน้าวตัวเองด้วย
“การยึดติดหรือ หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าหลายครั้งเช่นนี้ทำไม” เจียงหลีมองเขาอย่างเย้ยหยัน
“…” ทำไมหรือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน
“ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ชายอื่น ทำไมท่านถึงโกรธจนอยากฆ่าผู้ชายที่คิดร้ายต่อข้า ทำไม…ท่านไม่ปฏิเสธการที่ข้าเข้าใกล้” เจียงหลีเดินหน้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าเข้าใกล้เขา
ดวงตาสีเขียวครามหรี่ลงช้าๆ และปรากฏจิตสังหารขึ้นในดวงตาของเขา “อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า” เขาเตือน
เจียงหลีหัวเราะเยาะและมองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านจะฆ่าข้า คงไม่รอถึงวันนี้ ครั้งแรกท่านฆ่าไม่ลง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน”
“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เลยรึ” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน
เจียงหลียักคิ้วโดยไม่ตอบ แต่มุมคิ้วและมุมปากของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ทำไมท่านถึงไม่กล้าเผชิญกับใจตัวเอง” เจียงหลีถามกลับ นางยื่นมือออกไปเปิดเสื้อของเขา ซึ่งเผยให้เห็นรอยฟัน “มันยังอยู่ นั่นหมายความว่าท่านยังมีข้าอยู่ในใจ”
เขาจ้องมองไปที่นางด้วยดวงตาที่สงบนิ่งจนน่ากลัว “คนที่มีใจให้กับเจ้าคือลู่เจี้ย” เขาปัดมือที่ถือเสื้อออกและพูดจาอันโหดร้ายขึ้น
“ท่านคือลู่เจี้ย” เจียงหลีตอบกลับ
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์