ความรักที่ซ่อนอยู่ในแววตาของมั่วฉุนเจียงหลีกลับไม่ได้สังเกต
สายตาที่เย็นชามองไปที่ไป๋เซี่ยงไท่ที่ดึงดันจะคลานขึ้นมาจากพื้นอารมณ์เย็นชาและบารมีจักรพรรดิเต็มเปี่ยม
จงเจิ้งเหยี่ยตื่นขึ้นมารีบร้อนไปอยู่ข้างกายไป๋เซี่ยงไท่และจับเขากดไว้ในขณะเดียวกันก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งเอ่ยกับเจียงหลี“ฝ่าบาทโปรดอภัยให้แก่ไป๋เซี่ยงไท่ที่ไร้มารยาทพวกเราสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“จงเจิ้งเหยี่ย!”ไป๋เซี่ยงไท่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาวาวโรจน์
จงเจิ้งเหยี่ยขมวดคิ้วใช้สายตาตักเตือนอย่าทำเสียเรื่อง!
ขณะเดียวกันเขาเอ่ย“ให้คนเข้ามารีบพยุงใต้เท้าไป๋เซี่ยงไท่ไป”ผู้ติดตามที่มาด้วยกันจึงรีบเข้าไปพยุงไป๋เซี่ยงไท่ลุกขึ้นเตรียมออกจากตำหนักฝูฉวี
ในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนย้ายเสียงเยือกเย็นของเจียงหลีก็ดังขึ้น“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าไปได้แล้วหรือ”
จงเจิ้งเหยี่ยนึกเกรงกลัวในใจขมวดคิ้วรีบคิดแผนรับมือไป๋เซี่ยงไท่เงยหน้าขึ้นมุมปากยังมีรอยเลือดหลงเหลืออยู่สายตาอาฆาตมองไปที่นาง
เจียงหลีเหน็บแนมเย้ยหยันด้วยสายตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้นนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้าฟังให้ดีนะข้าไม่สนว่าเจ้าอยู่ที่เป่ยโหรวจะมีอำนาจมากสักเพียงใดยศตำแหน่งสูงถึงเพียงใดหรือจะมีบ้านตระกูลใหญ่โตคอยส่งเสริมเจ้าเช่นไรแต่เมื่ออยู่ในอาณาเขตของราชสำนักจยาเซียนยังไงซะพวกเจ้าก็เป็นแค่แขกก็ต้องทำตามกฎของราชสำนักจยาเซียนของข้าหากผู้ใดบังอาจปลุกปั่นก็จะต้องรับโทษตามกฎของอาณาจักรข้า”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทในระหว่างที่อยู่อาณาจักรจยาเซียนจ้าจะประพฤติตามกฎอย่างเคร่งคัดจะมิให้พวกเขากระทำการมิควรเป็นอันขาด”
เขาตอบกลับเช่นนั้นทำให้ความเกรี้ยวกราดของเจียงหลีเบาลง“หากเป็นเช่นนั้นฟ้าเริ่มมืดแล้วพวกท่านทูตทั้งหลายรีบกลับเรือนรับรองพักผ่อนเสียเถิด”ทีท่ากลับพลิกผันทำให้คนรู้สึกคล้ายกับว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาเพ้อเจ้อขึ้นมาเอง
ทว่าไม่ว่าอย่างไรการกระทำของเจียงหลีเมื่อสักครู่นี้กระตุ้นเร่งเร้าทหารของราชสำนักจยาเซียนอย่างเหี้ยมโหด
ขุนนางพวกนี้ยามที่เจียงหลีลงมือเองก็รู้สึกโกรธมากจึงเพิ่มอำนาจอาณาจักรของราชสำนักจยาเซียนขึ้นอาณาจักรแข็งแกร่งไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดๆขุนนางเช่นพวกเขาถึงจะยืดอกได้อย่างองอาจและภาคภูมิใจ
“พ่ะย่ะค่ะกระหม่อมขอทูลลา”จงเจิ้งเหยี่ยจึงรีบลุกขึ้นตอบ
เจียงหลีเหยียดยิ้มถามกลับเพื่อแสดงความปรารถนาดี“ต้องการให้ข้าจัดหมอหลวงไปเรือนรับรองหรือไม่”
“ไม่…ไม่ต้องแล้ว”จงเจิ้งเหยี่ยก็ปฏิเสธอย่างรีบร้อนเขากล้ายอมรับ‘ความปรารถนาดี’ของเจียงหลีซะที่ไหนหากรักษาไป๋เซี่ยงไท่จนอาการทรุดหนักผลลัพธ์จะยิ่งรุนแรง“พวกเราพาหมอรักษาตามอาการมาจึงมิต้องรบกวนหมอหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ก็ดีถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไม่ฝืนท่านแล้ว”เจียงหลีหรี่ตายิ้มเทียบกับคนเมื่อชั่วครู่ที่เหี้ยมโหดอย่างกับคนละคนกันเลย
จงเจิ้งเหยี่ยเดาอุปนิสัยของนางไม่ถูกเมื่อ‘สู้รบปรบมือ’กับนางอยู่หลายยกปกคอเสื้อที่เปียกเหงื่อไปหมดแล้วมิกล้าอยู่นานกว่านี้แน่หลังจากได้รับฉันทะจากเจียงหลีจึงรีบพาไป๋เซี่ยงไท่และคนอื่นๆออกไป
ส่งคนของไป๋โหรวเสร็จเจียงหลีหันมองทันใดนั้นเห็นขุนนางของตนโดยบังเอิญซึ่งล้วนมีสีหน้าที่เลื่อมใสกำลังมองมาที่ตนกายสั่นโดยมิอาจควบคุมไว้ได้ถึงแม้จะเป็นพี่ชายของตนก็ยังตามใจอย่างเต็มที่ทั้งยังชื่นชมทั้งยังมีท่าทีเชิดชูและจ้องมองนางนางเหยียดยิ้มอย่างเหี้ยมโหดรีบไล่คนออกไป“พวกเจ้าออกไปให้หมด”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทข้าน้อยทูลลา!”
เหล่าขุนนางต่างคำนับทูลลาออกจากตำหนักฝูฉวี
เจียงเฮ่าก่อนจะออกไปกลับถูกเจียงหลีเรียกไว้“ท่านพี่พรุ่งนี้ท่านเรียกลู่เสวียนไปที่ตำหนักหวงจี๋ด้วย”
“ได้”เจียงเฮ่าพยักหน้าตอบแล้วหันหลังกลับออกไป
รอคนที่ควรไปออกไปหมดแล้วสายตาของเจียงหลีจึงจดจ้องไปที่สายตาคู่ใสของมั่วฉุนที่กำลังมองตน
“เจ้า…”
“ฝ่าบาท!”มั่วฉุนกำลังมองนางด้วยความกระวนกระวายและดีใจ
เจียงหลีกระพริบตาเอ่ย“ตามข้ามา”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์